หลังจากเมื่อปีที่แล้ว “เทสโก้ โลตัส” (Tesco Lotus) รีแบรนด์เป็น “โลตัส” (Lotus’s) โดย ‘s สื่อถึงคำว่า Smart และ ‘ แทนเครื่องหมาย Dropped Pin สื่อถึงจุดหมายปลายทาง หรือ Destination สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่น ของโลตัส มุ่งสู่การเป็น “Smart Community Center” เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ท และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัยในแต่ละทำเล ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร จับจ่ายใช้สอย ใช้บริการ รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
จากความมุ่งมั่นดังกล่าว นำมาสู่การสร้างสรรค์ และพัฒนาสาขารูปแบบใหม่ อย่างล่าสุดเปิดตัว “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” ในย่านคลองสามวา มีคอนเซ็ปต์ และรูปแบบแตกต่างจากสาขาเดิม เนื่องจากเป็นสาขาแรกที่พัฒนาขึ้นในสไตล์ “Open Air Mall” มีพื้นที่ Outdoor เปิดให้ร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง และ Food Truck มากมาย เพื่อเป็น “Food Destination” สำหรับผู้บริโภคในย่านคลองสามวา และมีพื้นที่พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ผสานเข้ากับพื้นที่ Indoor สำหรับจับจ่ายซื้อสินค้าในโลตัส
เบื้องหลังการออกแบบ “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” มาจาก Consumer Insight
การออกแบบ และพัฒนา “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” เริ่มต้นจากการศึกษาไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป พบว่าสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ผู้คนใส่ใจด้านสุขภาพและความปลอดภัยมากขึ้น โดยเลือกช้อปปิ้งใกล้บ้านเป็นหลัก และสถานที่นั้นต้องมีสุขอนามัย ปลอดภัย และปลอดโปร่ง ดังนั้นเมื่อมาช้อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน นอกจากมาช้อปภายในมอลล์แล้ว ขณะเดียวกันผู้บริโภคชอบที่จะมาในพื้นที่แบบ Open Space เพราะรู้สึกว่าปลอดโปร่ง และอากาศถ่ายเทสะดวก
ด้วย Consumer Insights นี้เอง เป็นที่มาของการนำคอนเซ็ปต์ Open Air Mall มาต่อยอดสำหรับการสร้าง “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” เป็นสาขานำร่องในรูปแบบดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในย่านนี้ ทั้งความสะดวก สะอาด ปลอดภัย อากาศถ่ายเทสะดวก และเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับลูกค้า
10 ไฮไลต์ “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” Food Destination ของชาวคลองสามวา
จากคอนเซ็ปต์ Open Air Mall มาเจาะลึกกันว่าโครงการ “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” ที่ต่อไปจะเป็น “Food Destination” สำหรับผู้บริโภคที่พักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ เพราะนอกจากสินค้าอุปโภคบริโภคครบครันในโลตัสแล้ว สาขานี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารแบรนด์ดัง และร้านอาหารจากผู้ประกอบการรายย่อยมาเปิดมากมาย เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้า
1. เป็นโลตัสสาขาแรกที่ถูกออกแบบในสไตล์ Open Air Mall มีพื้นที่ศูนย์การค้าทั้ง Outdoor และ Indoor
2. ดึงพันธมิตรแบรนด์ดังและได้รับความนิยมจากลูกค้า เช่น Bonchon และ Salad Factory เปิดสาขาแรกในโลตัส
3. มี IT Zone รวมร้านค้าชั้นนำ จำหน่ายอุปกรณ์ IT และ Gadget ครบครัน
4. Food Truck Market เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถมาจำหน่ายอาหารนานาชนิด ในรูปแบบ Food Truck โดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี
5. Artist market เปิดพื้นที่ให้แบรนด์ SME รวมถึงศิลปินท้องถิ่น นำสินค้ามาจัดแสดง และจำหน่ายตลอดทั้งปี
6. มีพื้นที่ Outdoor โต๊ะและเก้าอี้สำหรับพักผ่อนและรับประทานอาหาร ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
7. Pet-friendly zone ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับเจ้าของได้
8. ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาด 4,000 ตารางเมตร ที่เสิร์ฟความสดใหม่ และความหลากหลายของสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างครบครัน
9. เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิต และความชอบที่หลากหลาย มีร้านที่เปิดบริการตั้งแต่เช้า เช่น Flash Coffee และร้านอาหารเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมด้วยบริการ True 5G
10. ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด ด้วยบริการรับชำระเงินด้วย e-Money Wallet และ True Money Wallet
แต่ละจุดเด่นคัดสรรมาจากการศึกษาและทำความเข้าใจ Insights ของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เช่น ออกแบบพื้นที่ Outdoor มีร้านค้าเข้าถึงง่าย สร้างความสะดวกให้กับลูกค้า และไรเดอร์ผู้ให้บริการ Food Delivery มารับสินค้า, โซน Pet-friendly ตอบรับเทรนด์ Pet Humanization คนเลี้ยงสัตว์มากขึ้น และดูแลเหมือนกับลูก หรือสมาชิกในครอบครัว, มีบริการ ชำระเงินด้วย e-Money Wallet และ True Money Wallet ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่นับตั้งแต่ COVID-19 หันมาจ่ายเงินผ่าน e-Payment แทนเงินสด ทั้งเพื่อความสะดวก และลดการสัมผัส
ด้วยจุดเด่นต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้ “โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” เป็น Community ครบวงจร ทั้งช้อปสินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารการกินต่างๆ และสินค้า-บริการในชีวิตประจำวัน
“โลตัส สาขาเลียบคลอง 2” ไม่เพียงแค่การพัฒนาคอนเซ็ปต์ Open Air Mall เท่านั้น “โลตัส” ยังคงเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้าอีกหลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และการใช้ชีวิตที่มีความต้องการหลากหลายของผู้บริโภค ทั้งการเปิดสาขาใหม่ และสาขาเดิมที่มีการปรับปรุง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของการเป็น Smart Community Center
