ทุกวันนี้ ใครๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง บางคนตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาเลยว่า เมื่อเรียนจบอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ขณะที่บางคนลุกขึ้นมาปั้นธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ยังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยจึงมีผู้ประกอบการ SMEs เกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศถึง 40% ของ GDP
แต่ท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจที่รุนแรง ประกอบกับปัจจัยภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้ธุรกิจ SMEs ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และทุกคนจะทำได้ เพราะนอกจากการสร้างความ “แตกต่าง” ให้กับสินค้าแล้ว ยังต้องมี “ช่องทางการจำหน่าย” ที่แข็งแกร่งเพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น “โลตัส” (Lotus’s) เห็นถึงปัญหาดังกล่าวนี้ จึงเดินหน้าจัดกิจกรรม “จับคู่เจรจาธุรกิจรูปแบบออนไลน์” หรือ “SME Online Business Matching” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงช่องการขายได้มากขึ้น ตามความมุ่งมั่นในการเป็น “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ให้กับผู้ประกอบการ SME
“แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” สร้างการเติบโตที่เป็นมากกว่าช่องทางการจำหน่าย
หากพูดถึง “โลตัส” เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงความเป็นห้างค้าปลีกที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ด้วยจำนวนหลายสาขาและเข้าถึงชุมชน แต่เพราะในยุคนี้ การทำธุรกิจด้วยการเติบโตแค่คนเดียวคงพาธุรกิจเติบโตไปได้ไม่ไกล แต่หากจูงมือสังคมและชุมชนไปด้วยกัน ย่อมทำให้ธุรกิจ “เติบโต” ไปได้ไกล และ “ยั่งยืน” กว่า
ส่งผลให้พันธกิจของโลตัสในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากการมีสินค้าคุณภาพจำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึง และการบริการลูกค้าทั่วประเทศแล้ว โลตัสยังให้ความสำคัญกับการวางตัวเป็น “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” สำหรับ SMEs และเกษตรกร เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้น และสร้างรายได้เติบโตไปด้วยกัน
สำหรับบทบาทของแพลตฟอร์มแห่งโอกาส จะเป็นทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้า SMEs และเกษตรกรครอบคลุมทั้งสาขาออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพสินค้า มาตรฐานการผลิต และให้คำแนะนำปรึกษาในทุกด้าน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาศักยภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดย คุณสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืนและกฎหมาย โลตัส บอกว่า ในปีที่ผ่านมาโลตัสได้พัฒนาศักยภาพให้ SMEs ถึง 724 ราย และเพิ่มสินค้าคุณภาพวางขายในโลตัส กว่า 1,100 รายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรม SME Online Business Matching
ปั้นสินค้า SMEs ขึ้นห้าง ขยายตลาด สร้างรายได้เพิ่ม
จากความสำเร็จดังกล่าว มาปีนี้โลตัสจึงเดินหน้าจัดกิจกรรม SME Online Business Matching อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ ที่จะพาผู้ประกอบการ SMEs ทุกหมวดสินค้าได้มาพูดคุยและนำเสนอสินค้ากับทีมงานจัดซื้อของโลตัสโดยตรงเพื่อวางขายผ่านโลตัสกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทดลองตลาดด้วยการเปิดบูธจำหน่ายสินค้าในศูนย์การค้าของของโลตัสทั่วประเทศเพื่อสร้างการรับรู้และต่อยอดขยายฐานลูกค้าในอนาคต โดย SME Online Business Matching กิจกรรมนี้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนตลอดทั้งปี
“SME Online Business Matching เป็นกิจกรรมที่จะช่วยขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ ทั้งกลุ่มที่มีความพร้อมสูง ความพร้อมระดับกลาง และระดับเริ่มต้น ตามศักยภาพของผู้ประกอบการแต่ละราย ทั้งยังร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มาให้ความรู้และคำแนะนำตลอดโครงการเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า และคุณภาพการผลิตให้มีความพร้อมในการวางจำหน่ายและขยายสู่ตลาดส่งออก”
นอกจากการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจแล้ว คุณสลิลลา บอกว่า โลตัสยังมีแผนจะเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SMEs อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็น “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรไทยให้สามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมเสนอสินค้าเพื่อเติบโตไปกับโลตัส สามารถสมัครเข้าร่วมได้ที่ https://corporate.lotuss.com/sme/