หลังประกาศปิดตำนานโรงแรมนารายณ์ อายุ 54 ปี บนถนนสีลมไปแล้วเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ “นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” ได้เผยแผนการพัฒนาที่ดินทำเลทอง 6 ไร่ เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดด้วยมูลค่า 8,000-10,000 ล้านบาท สร้างแลนด์มาร์กใหม่ด้วย 2 โรงแรมในกลุ่มลักชัวรี่ พร้อมจัดพื้นที่สาธารณะ สวน คลอง และโซนร้านอาหารดังตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปถึงร้านมิชลิน โดยโฉมใหม่เปิดบริการในปี 2569 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
บนทำเลทองกรุงเทพฯ ช่วง 10-15 ที่ผ่านมา การรีโนเวทอาคารหรือทุบตึกเก่าเพื่อสร้างใหม่ มักอยู่บนถนนสุขุมวิท เพราะที่ดินราคาสูงจึงต้องใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า แต่ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่าการรีโนเวทอาคารเก่าหรือทุบสร้างใหม่จะอยู่บนถนนสีลม อย่าง ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค หัวมุมถนน การเปิดโครงการใหม่ One Bangkok รวมทั้งการเปิดโครงการริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เชื่อมต่อทั้งสีลม สุรวงศ์ สาทร ถือเป็นสัญญาณที่ดีของย่านเศรษฐกิจเก่าแก่สีลม ที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
กลุ่มนารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ เจ้าของโรงแรมนารายณ์ และทริปเปิ้ล ทู ที่ตั้งอยู่บนถนนสีลม รวมพื้นที่ 6 ไร่ เริ่มวางแผนสร้างตึกใหม่มาตั้งแต่ปี 2560 เพราะกระแสต่าง ๆ รอบตัวเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เมื่อมาเจอโควิด-19 ทำให้การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังต้องใช้เวลาอีกระยะ จึงตัดสินใจปิดโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เตรียมทุบทิ้งช่วงกลางปีนี้ เพื่อสร้างใหม่ใช้เวลา 4 ปีแล้วเสร็จ
เปิดโฉมใหม่โรงแรมนารายณ์ 3 โซน
คุณนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด (ทายาทรุ่นที่ 3) เผยโปรเจกต์แลนด์มาร์ก “นารายณ์โฉมใหม่” ใช้งบประมาณลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อสร้าง 2 โรงแรมใหม่ บนพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร รวมพื้นที่สวน 7,000 ตารางเมตร สรุปมี 3 โซนหลักดังนี้
1. โรงแรมนารายณ์ (ยังคงใช้ชื่อเดิม) อยู่ระหว่างศึกษาดึงเชนต่างประเทศบริหาร ตัวโรงแรมจากเดิม 500 ห้อง สร้างใหม่สูงไม่เกิน 20 ชั้น มีจำนวน 200 ห้อง เป็นโรงแรมไฮบริดระดับ 4-5 ดาว ด้วยคอนเซ็ปต์ Entry Level Luxury with Selected Service โดยจะให้ลูกค้าเลือกใช้ Facilities และบริการได้เอง
ปัจจุบันรูปแบบการท่องเที่ยวและพักในโรงแรมที่อยู่ในย่านการค้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ จำนวนมาก เดินทางได้สะดวก ลูกค้าจึงต้องการเพียงห้องพักที่ดี มีคุณภาพ สวยงาม อยู่สบาย เหมือนโรงแรม 5 ดาว แต่บริการอื่นๆ ในโรงแรมอาจไม่ต้องการใช้ เช่น สปา ร้านอาหาร เพราะต้องการไปใช้บริการร้านดังนอกโรงแรม
ในจุดนี้โรงแรมนารายณ์ใหม่ จึงไม่ต้องลงทุนทำ Facilities ทุกอย่างเองให้ครบ โดยจะจับมือกับร้านอาหารชื่อดังของคนไทยมาให้บริการมื้อเช้า เพื่อสร้างจุดต่างจากโรงแรมอื่น ๆ
การปรับโฉมใหม่สร้างโรงแรมใหม่นี้ ยังได้ปรับราคาห้องพักใหม่ด้วย จากเดิมโรงแรมนารายณ์อยู่ที่ 1,000-2,000 บาทต่อคืน ส่วนโรงแรมทริปเปิ้ล ทู 2,500-3,000 บาทต่อคืน หลังเปิดโรงแรมใหม่เปิดให้บริการราคาจะอยู่ที่ 5,000 บาทต่อคืน
นอกจากนี้โรงแรมนารายณ์โฉมใหม่ยังมีส่วนที่เป็นจุดเด่นเดิม อย่างมีห้องจัดงานเลี้ยง แต่งงาน สัมมนา ขนาด 2,000-3,000 คน ไฮไลต์สำคัญคือได้ย้ายศาล “องค์พระนารายณ์” ที่เดิมอยู่บนชั้นดาดฟ้าโรงแรม มาสร้างศาลใหม่อยู่ด้านหน้าโรงแรม เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้ามาสักการะ กราบไหว้ให้เป็นจุดรวมใจของคนกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง
2. โรงแรม 6 ดาว ลักชัวรี่ จำนวน 100-150 ห้อง ดึงเชนโรงแรมต่างชาติเข้ามาบริหาร ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ลักชัวรี่ครั้งแรกในประเทศไทย
การลงทุนโรงแรมลักชัวรี่ Full Service 6 ดาว เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการบริการที่ดีขึ้น และเพื่อแข่งขันกับโรงแรมลักชัวรี่ในย่านนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น โอเรียนเต็ล โฟร์ซีซันส์ โรสวู้ด รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายโรงแรมลักชัวรี่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น สำหรับราคาห้องพักจะอยู่ในระดับเดียวกับโอเรียลเต็ล โฟร์ซีซันส์
3. พื้นที่ส่วนกลาง 7,000 ตารางเมตร จะถูกพัฒนาเป็นคอนเซ็ปต์ An Oasis โดยจะมีพื้นที่สวน ขุดคลองระหว่าง 2 ตึกโรงแรม การตกแต่งพื้นที่โซนนี้ ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นโรงแรมนารายณ์เอาไว้ ด้วยบรรยากาศเก่าๆ ของย่านสีลม โดยโซนนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการด้วย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เช่าอาคาร 2 ชั้น ทำเป็นพื้นที่ร้านอาหาร เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่คู่กับนถนนสีลมมานาน ไม่ว่าจะเป็นร้านสตรีทฟู้ด ร้านห้องแถว ร้านมิชลิน รวบรวมเมนูเด็ดในย่านนี้ ข้าวขาหมู ก๋วยจั๊บ เย็นตาโฟวัดแขก โดยจะเปิดให้เข้ามาเช่าร้านในราคาย่อมเยา เพราะในอนาคตหากเจ้าของตึกต้องการขายที่ดิน ร้านอาหารดังในย่านนี้ ก็ยังมีพื้นที่เปิดบริการได้ต่อ โดยจะมีร้านสตรีทฟู้ด 10 ร้าน ร้านดังและมิชลิน 10 ร้าน
โดยพื้นที่สวนและร้านอาหารดัง จะเป็น Facilities ที่สร้างจุดต่างให้กับผู้เข้ามาพักในโรงแรมด้วย เพราะอาหารไทยและสตรีทฟู้ดชื่อดังในแต่ละย่าน ถือเป็นจุดท่องเที่ยว (Tourist Attraction) ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจและเดินทางมาลิ้มลองอาหารไทย อีกทั้งยังเป็นแนวคิดแบบ Inclusive ทำธุรกิจและเติบโตไปพร้อมกับสังคมชุมชน
“ทิศทางของกลุ่มนารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ มองตลาดลักชัวรี่ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เราอยากจะไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าจับตามอง จากการเข้ามาเปิดตัวของแบรนด์โรงแรมใหม่ๆ และแผนพัฒนาโรงแรมนารายณ์โฉมใหม่ เป็นสัญญาณให้เห็นว่า สีลมไม่ตายและไปต่อได้ ยังเป็นทำเลที่มีคุณค่าและดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้เพื่ออยู่คู่ถนนสีลมและกรุงเทพฯ ในเจนเนอเรชั่นต่อไป”
อ่านเพิ่มเติม