HomeBrand Move !!ไขความลับ 3 กุญแจสำคัญ ดัน “นวัตกรรมองค์กร” แบบก้าวกระโดดในปี 2565

ไขความลับ 3 กุญแจสำคัญ ดัน “นวัตกรรมองค์กร” แบบก้าวกระโดดในปี 2565

แชร์ :

rise innovation หมอคิด

หลังจากที่ ไรส์ (RISE) สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร ผู้นำด้านการสร้างนวัตกรรมองค์กร เปิดตัว Corporate Innovation Maturity Model (CIMM) ซึ่งเป็นโมเดลวัดระดับนวัตกรรมองค์กรต่างๆ โดยแบ่งองค์กรเป็น 5 ระดับ เพื่อเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินองค์กรสู่เส้นทางการสร้าง และพัฒนานวัตกรรม ตั้งแต่ปี 2563 ไปแล้วนั้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุด ทาง RISE ได้ออกมาเผยว่า จากที่กว่า 400 องค์กรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประเมินระดับนวัตกรรมองค์กรผ่านโมเดล CIMM จากการเก็บข้อมูลเชิงลึกจากผลการวัดระดับนั้น RISE ได้ทำการศึกษา และเปรียบเทียบระดับนวัตกรรมของอุตสาหกรรมต่าง ๆและพบว่า 3 สุดยอดอุตสาหกรรมที่เป็นผู้นำในการสร้างและพัฒนานวัตกรรม ได้แก่ 

  1. โทรคมนาคม
  2. เทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยี 
  3. บริการด้านการเงิน ธนาคาร และบริษัทประกันชีวิต

Rise dr.kid

ทั้งนี้ RISE ยังเผยอินไซต์ว่า จนถึงปัจจุบันมีเพียง 20% ขององค์กรทั้งหมดที่เริ่มมีผลสัมฤทธิ์จากการสร้างนวัตกรรมองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยที่ถูกมองข้ามในการพัฒนานวัตกรรมองค์กรมากที่สุด คือ การมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์สตาร์ทอัพทางด้านเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ (Ecosystem) และกระบวนการที่รวดเร็วยืดหยุ่น (Process) ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งองค์กรให้เปลี่ยนแปลงได้ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา 

rise 03

นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง RISE กล่าวว่า “แนวทางพัฒนานวัตกรรมองค์กรจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับการผลักดันจากผู้นำ โดยผู้นำองค์กรจะต้องมองกลยุทธ์ทางธุรกิจไปข้างหน้า ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาทั้งบุคลากร และเทคโนโลยีไปควบคู่กัน” พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำจุดยืนของ RISE  ที่ต้องการมุ่งพัฒนาองค์กรเพื่อช่วยผลักดัน GDP ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโต 1% สวนกระแสเศรษฐกิจ และได้แนะ 3 แนวทางสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมองค์กรแบบก้าวกระโดดในปี 2565 ดังนี้

พัฒนาคนต้อง Both skills

การเร่งพัฒนาภายในองค์กรให้พร้อมออกแบบ และสร้างนวัตกรรมองค์กร จะประสบความสำเร็จไม่ได้หากไม่เริ่มต้นให้ถูกจุด โดยต้องเริ่มจากการพัฒนาบุคลากรให้พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปด้วยกัน ไม่เพียงแต่ระดับปฏิบัติการ แต่จะต้องมีการรีสกิลตั้งแต่ระดับผู้บริหารด้วย RISE ไม่เพียงแต่แนะองค์กรในการพัฒนาทักษะด้านความรู้ (Hard Skills) แต่ยังต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills) อาทิ กระบวนการที่จะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น (Agile), กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking),  ความเป็นผู้นำ, การสื่อสาร, และการทำงานร่วมกับ ผู้อื่นเป็นต้น กล่าวคือพัฒนาทั้งทักษะทั้ง 2 ด้านควบคู่กันไป (Both Skills) โดยให้มีความรู้ความเข้าใจ และได้ลงมือทำผ่านโปรแกรมการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง ซึ่ง RISE  มุ่งออกแบบ และพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อช่วยองค์กรเร่งสร้างคน พร้อมพัฒนา นวัตกรรมองค์กรรับการแข่งขันทุกรูปแบบ รวมไปถึงตัวบุคคลเองที่มีความสนใจในการพัฒนาทักษะของตนเองด้วย ซึ่งถือเป็นการลงทุนใน “คน” ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด

ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพที่ใช่

เมื่อบุคลากรในองค์กรมีความพร้อมในการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมองค์กรแล้ว  การร่วมมือกันทำงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ระหว่างองค์กรและสตาร์ตอัพในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆนั้น ไม่เพียงแต่สนับสนุนสตาร์ทอัพให้มีโอกาสในการขยายธุรกิจ แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหา และเกิดการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เดิมๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างโครงการล่าสุดที่ RISE จับมือ กับ เอไอเอ ประเทศไทย เฟ้นหากว่า 200 สตาร์ทอัพทั่วโลกมาร่วมโครงการ AIA x RISE Accelerator เพื่อพัฒนานวัตกรรมองค์กรที่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของธุรกิจประกันชีวิต และยังจะมาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจประกันชีวิตเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เอาประกัน รวมไปถึง พลังตัวแทน และพนักงานอีกด้วย

นวัตกรรมไม่ใช่แค่เพื่อการพัฒนาองค์กรในระยะสั้น

แต่ต้องเริ่มจากการวางกลยุทธ์เพื่อการพัฒนานวัตกรรมองค์กรโดยเฉพาะ มิใช่เป็นเพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้น และที่ขาดไม่ได้คือการวางแนวทางที่ดีในองค์กร เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยปี 2565 นี้ RISE พร้อมแล้วที่จะเป็นที่ปรึกษาในการสร้างนวัตกรรมองค์กรที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาค โดยครอบคลุมตั้งแต่การวัดระดับนวัตกรรม ออกแบบกลยุทธ์นวัตกรรมวางแผน Roadmap ปฏิบัติการ หรือแม้กระทั่ง Advisory Board ช่วยผู้บริหารตัดสินใจไปจนถึงการติดตามผลลัพธ์ด้านนวัตกรรม 

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า องค์กรที่มีระดับนวัตกรรมสูงมีจำนวนน้อยมาก คือมีไม่ถึง  ขององค์กรทั้งหมด ที่สามารถออกนวัตกรรมสู่ตลาด และเห็นผลลัพท์ที่จับต้องได้จริง ๆ ที่เหลืออีก 80% ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ลองผิดลองถูกและยังขาดผลลัพท์ที่จับต้องได้

rise 04

เหตุผลที่องค์กรยังไปไม่ถึงผลลัพธ์

RISE สรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า ผล CIMM ค้นพบว่าองค์กรเหล่านี้ ลงทุนเรื่องผู้บริหาร ทีมนวัตกรรมองค์กร เทคโนโลยี ทรัพยากรต่าง ๆ เยอะมาก แต่มองข้าม 2 ปัจจัยสำคัญ นั่นคือกระบวนการที่รวดเร็วยืดหยุ่น และเครือข่ายพาร์ทเนอร์สตาร์ทอัพ ทางด้านเทคโนโลยี ที่มีศักยภาพ ก็เป็นการตอกย้ำ แนวคิดของเราที่ว่า Corporate Innovation ที่สมบูรณ์ สำเร็จ มีผลลัพธ์ จะต้องมี 2 attributes 6 factors จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ 

พิเศษสำหรับผู้ติดตาม Brand Buffet ที่ทดลองวัดระดับนวัตกรรมองค์กรบน CIMM ภายใน 30 เม.ย.นี้ ร่วมลุ้นโอกาสในการรับคำปรึกษาในการสร้างนวัตกรรมองค์กรแบบตัวต่อตัวกับผู้เชียวชาญจาก RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช็คระดับนวัตกรรมองค์กรของคุณผ่านโมเดล CIMM ได้ที่ https://bit.ly/CIMMbyRISE2022 


แชร์ :

You may also like