องค์การสหประชาชาติ (United Nations) กำหนดให้วันที่ 20 มีนาคม เป็นวันความสุขสากล หรือ INTERNATIONAL DAY OF HAPPINESS เพื่อให้ความสำคัญกับความสุข ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ และยังใช้โอกาสนี้ในการเรียกร้องให้แต่ละประเทศผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อเพิ่มความสุขให้กับประชาชนมากกว่าแค่การสนใจแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจ วอลล์ ประเทศไทย(Wall’s) ในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่เห็นความสำคัญของความสุขเสมอมา จึงเลือกใช้วันนี้ในการเริ่มต้นกิจกรรม “วอลล์ ศุกร์ส่งยิ้ม” ซึ่งจัดขึ้นมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เริ่มต้นมาจากความตั้งใจ ที่จะเป็นส่วนเล็กๆในการสร้างรอยยิ้มให้กลับคืนมาสู่ประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และในปีนี้ วอลล์ก็ยังคงเดินหน้าแจกไอศกรีมรสชาติต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของคนไทย จำนวนถึง 2 ล้านชิ้น แต่จะเพิ่มเติมด้วยคูปองส่งยิ้มที่จะสร้างรอยยิ้มให้มากกว่าเดิมด้วยคำพูดสุดน่ารัก และสิทธิ์ลุ้นของรางวัลมากมาย โดยยังคงแจกผ่านพี่ติมวอลล์เช่นเดิม ในวันศุกร์ที่ 1, 8, 15 และ 22 เมษายน 2565 เพื่อส่งต่อความสุขยิ่งกว่าเดิมให้คนไทยในช่วงหน้าร้อนนี้
“สามล้อวอลล์” ความผูกพันที่มากกว่าแค่ช่องทางการขาย
“ไอศกรีม” เป็นสินค้าที่เหมือนมีพลังวิเศษ เพราะมักจะมาพร้อม “ความสุข” และ “รอยยิ้ม” เสมอ ถึงแม้ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับ Covid-19 แต่ไอศกรีมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราผ่อนคลายความรู้สึกตึงเครียดในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่มาของแคมเปญ วอลล์ ศุกร์ส่งยิ้มในปี 2563 เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการคืนรอยยิ้มให้กับประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ด้วยการแจกไอศกรีมผ่านพี่ติมวอลล์ และต่อเนื่องปีที่ 2 ในปี 2564 โดยการแจกไอศกรีมฟรี 2 ล้านแท่งในช่วงเมษายนเช่นเดิม และเพิ่มเติมด้วยการแจกไอศกรีมฟรีอีก 1 ล้านแท่ง ตามศูนย์บริการวัคซีนทั่วกรุงเทพฯในช่วงที่เริ่มมีให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน
“ในตอนนั้นเราเพิ่งผ่านช่วงล็อคดาวน์หลายพื้นที่ ผู้บริโภคยังอยู่ในสภาวะตึงเครียดและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ซึ่งช่วงนั้น ประชาชนเริ่มได้รับวัคซีนมากขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนรู้สึกว่า ความหวังและความสุข กำลังจะกลับมาอีกครั้ง วอลล์จึงเลือกที่จะเข้าไปช่วยสร้างความสุขเพิ่มขึ้น ในโมเม้นต์แห่งความหวังและความสุขเล็กๆนี้ เหมือนเป็นการร่วมฉลองการได้รับวัคซีนของประชาชน ด้วยแคมเปญแจกไอศกรีมวอลล์ 1 ล้านแท่ง ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งก็ได้เสียงตอบรับที่ดีมากทั้งจากผู้บริโภคภายในงาน และผ่านทางโซเชียลมีเดีย” คุณอัลพาน่า ไททัส รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์อาหารและไอศกรีมประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย กล่าว
เมื่อมาถึงวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งเป็นวันความสุขสากล หรือ INTERNATIONAL DAY OF HAPPINESS แต่สถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจ ยังคงผันผวน “วอลล์” จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้คนไทยมีความสุขมากขึ้น ด้วยความตั้งใจที่จะร่วมสร้างสังคมแห่งความสุขให้เกิดขึ้น วอลล์จึงผลักดันแคมเปญ “วอลล์ ศุกร์ส่งยิ้ม” แจกไอศกรีมให้คนไทยฟรี 2 ล้านแท่ง ผ่าน Wall’s Happiness Ambassador หรือ “พี่ติมวอลล์” รถสามล้อในตำนานที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก นอกจากการแจกไอศกรีมฟรี ในปีนี้วอลล์ยังเพิ่มความสุขให้คนไทย ผ่านการแจก “คูปองส่งยิ้ม” เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสร่วมสนุกและลุ้นของรางวัลมากมาย ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ความสุขเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อให้กันได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
วอลล์ได้เริ่มต้นกิจกรรมในปีนี้ด้วยการแจกไอศกรีมให้กับผู้ด้อยโอกาส ผู้ขาดแคลนและคนชรา พร้อมไปกับการจัดกิจกรรมพิเศษ “Virtual Mini Concert วอลล์ศุกร์ส่งยิ้ม” จาก “Wall’s Happiness Band” ซึ่งเป็นการรวมตัวเฉพาะกิจของทีมวอลล์ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย หรือแม้แต่พี่สามล้อวอลล์ ที่ตั้งใจร่วมมือกันร้องเพลง และเล่นดนตรี เพื่อส่งมอบความสุขให้กับมูลนิธิ และองค์กรทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ สวางคนิเวศ สภากาชาดไทย และกลุ่มชุมชนคลองเตยดีจัง
แคมเปญนี้นอกจากจะเป็นการส่งต่อความสุขไปยังมูลนิธิและองค์กรทั้ง 3 แห่งแล้ว วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อสานสัมพันธ์ให้ลูกค้าผูกพันกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับ “พี่สามล้อวอลล์” ซึ่งช่องทางการขายที่ลูกค้าส่วนใหญ่ผูกพันมาอย่างยาวนาน
“Wall’s Happiness Ambassador ของเรากว่า 3,200 คน พวกเขาเป็นมากกว่าแค่พนักงานขาย แต่เป็นกลุ่มคนที่ได้สร้างความสุขให้กับผู้บริโภค และได้รับความสุขในช่วงเวลาที่ทำงานเช่นเดียวกัน เพราะเป็นงานที่ได้ส่งความสุขให้กับผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็คือการที่ผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของเราอย่างใกล้ชิด พวกเขาเป็นเหมือนเพื่อนบ้านที่จำได้ว่าลูกค้าขาประจำชอบไอศกรีมอะไร รสชาติไหน ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เรามีทั้งรถไอศกรีมที่พร้อมจะเดินทางไปตามตรอกซอกซอย แล้วยังมีเรือขายไอศกรีมด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าของเราเข้าถึงผู้บริโภคจริงๆ” คุณอัลพาน่า อธิบายความสำคัญของแคมเปญนี้และกลยุทธ์การขายผ่านช่องทาง “พี่สามล้อวอลล์”
จากความพิเศษและเสน่ห์ของ “พี่สามล้อวอลล์” ทำให้วอลล์ผลักดันการขายผ่านช่องทางนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วง Covid-19 ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อไอศกรีมไปยังช่องทางอื่นๆมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของช่องทางสามล้อ วอลล์จึงจัดเต็มสื่อสนับสนุนและเครื่องมือในการผลักดันการขายผ่านช่องทางสามล้อ อีกทั้งยังให้ความสำคัญเรื่องความเป็นอยู่ของพี่ๆ สามล้อวอลล์ เพราะช่องทางนี้เป็นพันธกิจหลักของแบรนด์ ที่อยากจะสร้างความเป็นอยู่ที่ดี และอาชีพที่มั่นคงให้กับผู้ที่เข้ามาเป็นครอบครัวสามล้อวอลล์ นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นตัวแทนของแบรนด์ หรือที่เรียกว่า Wall’s Happiness Ambassador ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคโดยตรง
ในขณะเดียวกัน วอลล์ก็ตระหนักถึงกระแสเรื่องความเร็วของรถไอติมวอลล์ เป็นอย่างดี หลายๆคนบ่นว่า แค่ได้ยินเสียงเพลงจากรถไอติมที่คุ้นหูผ่านหน้าบ้านไป แต่ก็มักจะเรียกไม่ทัน วอลล์จึงนำประเด็นนี้ มาทำแคมเปญสนุกๆบนโซเชียลมีเดียในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ให้ทุกคนมาร่วมแบ่งปันเทคนิคสนุกๆในการเรียกรถพี่สามล้อวอลล์ พร้อมแจกของรางวัลมากมายให้กับแฟนเพจ เพื่อเป็นการตอบแทนและขอบคุณลูกค้า กลายเป็นความน่ารักที่บ่งบอกว่า วอลล์รับฟังเสียงของลูกค้าอยู่เสมอ
วอลล์ ปรับ Portfolio จับเทรนด์ผู้บริโภค
การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับ Covid-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป หรือที่เราเรียกกันว่า “New Normal” สำหรับตลาดไอศกรีมก็เช่นกัน ในช่วงที่ผ่านมา “วอลล์” ไม่หยุดเดินหน้าปรับตัว เพื่อตอบรับ 3 เทรนด์สำคัญ ดังนี้
1. Minification and Health Trend: เมื่อผู้บริโภคได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้กระแสเรื่องสุขภาพมาแรงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและอาหารการกินมากขึ้น วอลล์ ในฐานะผู้นำตลาดไอศกรีม จึงนำเสนอสินค้าที่ตอบความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น เช่น มินิยูนิคอร์นเนตโต ซึ่งเป็นไอศกรีม Unicornetto ที่กลับมาในรูปทรงโคนขนาดจิ๋ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกทานไอศกรีมต่อครั้งในปริมาณที่น้อยลงตามที่ต้องการได้ และในขณะเดียวกันยังสามารถแบ่งให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวทานและมีความสุขไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย หรือจะเป็นการยังนำเสนอสินค้าที่มีการเสริมวิตามิน เช่น คาลิปโป Vit-C Honey Lemon ซึ่งตัวไอศกรีมรสผลไม้ ที่เพิ่มวิตามินซี เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Covid-19 มากขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณสารอาหารก็ต้องตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็ก วอลล์ มีสินค้าที่ได้รับสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” (Healthier Choice) จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสินค้าที่ปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมผ่านเกณฑ์ มากถึง 34 ผลิตภัณฑ์
2. In-Home Consumption: เมื่อเข้าสู่ยุค New Normal ซึ่งการทำงานที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้การสั่งอาหารผ่าน Food Delivery ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วอลล์ปรับกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย โดยจับมือกับ Food Delivery ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Grab, Lineman, Foodpanda และ 7-Eleven Delivery เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการทานไอศกรีมที่บ้านได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ วอลล์ยังปรับพอร์ตสินค้าเพื่อตอบรับกระแสการทานไอศกรีมที่บ้าน เช่น การกลับมาของไอศกรีม Viennetta ซึ่งเป็นเมนูของหวานคล้ายไอศกรีมเค้กขนาดใหญ่ที่เหมาะกับการทานด้วยกันในครอบครัว หรือจะเป็น Carte D’Or ไอศกรีมพรีเมียมที่มาช่วยยกระดับการทานของหวานที่บ้านได้ง่ายๆ ให้กับผู้บริโภค
3. Cash-Strapped Consumers: ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ วอลล์เล็งเห็นว่ามีผู้บริโภคบางกลุ่มที่จำเป็นต้องรัดเข็มขัด และลดการจับจ่ายใช้สอย สินค้าต้องมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย วอลล์จึงวางกลยุทธ์การตั้งราคาให้เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคน สามารถเข้าถึงความสุขจากการทานไอศกรีมได้ ด้วยการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า อย่างไอศกรีมตัวใหม่ล่าสุดจากวอลล์ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “วอลล์บลาสท์” ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มาพร้อมความคุ้มค่าในเรื่องของรสชาติและสัมผัสที่หลากหลาย ด้วยจุดแข็งของการเป็นไอศกรีมมัลติเลเยอร์ครั้งแรกจากวอลล์ มาพร้อมช็อกโกแลตเคลือบ เวเฟอร์บอล ซอสคาราเมล และไอศกรีมรสซอลท์เท็ดคาราเมล ผู้บริโภคสามารถสัมผัสถึงส่วนผสมมากถึง 4 เลเยอร์ในไอศกรีมแท่งเดียว
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ผู้บริโภคมองหาสินค้าจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และมีความเข้าใจลูกค้า ผ่านการนำเสนอสินค้าที่ตอบความต้องการ สำหรับตลาดไอศกรีม ความท้าทายของเราคือการบริหารสินค้าและข้อเสนอของเรา ให้มั่นใจว่าสามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงจุด ถูกที่ ถูกเวลา และถูกช่องทาง เราจึงไม่หยุดพัฒนาสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายเสมอ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า วอลล์สามารถมอบความสุขผ่านสินค้าของเรา ให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง” คุณอัลพาน่า ชี้ให้เห็นถึงการปรับตัว
ทั้งหมดนี้ ทำให้เราได้เห็นถึงความตั้งใจของ “วอลล์” ที่แม้จะเป็นไอศกรีมเจ้าตลาดอันดับ 1 ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน แต่ก็จะยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์อยู่เสมอเพื่อเติบโตและตอบโจทย์ผู้บริโภคไปตลอด ในขณะเดียวกัน วอลล์ก็ไม่เคยลืมที่จะส่งมอบความสุขให้คนไทยด้วยกิจกรรมสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขต่างๆอย่างต่อเนื่อง และในเดือนเมษายนนี้ ห้ามพลาดกับกิจกรรม “วอลล์ ศุกร์ส่งยิ้ม” เตรียมรับความสุขจากวอลล์ ที่จะกลับมาส่งความสุขยิ่งกว่าเดิม ผ่านการแจกไอศกรีมฟรี 2,000,000 ชิ้น พร้อมคูปองส่งยิ้มเพื่อมอบรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1/ 8/ 15/ 22 เมษายน 2565 ที่พี่สามล้อวอลล์ใกล้บ้านคุณ
- วอลล์ ลุยแคมเปญ “วอลล์ศุกร์ส่งยิ้ม” แจกไอศกรีม 2 ล้านแท่งพร้อมคูปองส่งยิ้ม ทุกวันศุกร์ ตลอดเมษายนนี้