ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระค่าสินค้า และสินเชื่อส่วนบุคคล ปี 2565 กำลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) และธุรกิจบัตรสินเชื่ออยู่ในภาวะหดตัว มาปีนี้ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” จึงพร้อมลุยเป้าหมายใหญ่ ด้วยการประกาศปั้นยอดรูดบัตรทะลุกว่า 3 แสนล้านบาท หรือเติบโต 10% และตั้งเป้ายอดสมัครบัตรใหม่อยู่ที่ 5 แสนบัญชี จากปีก่อนปิดยอดอยู่ที่ 3 แสนบัญชี
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” กล้าตั้งเป้าที่ท้าทายท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และกลยุทธ์ที่จะเป็นหัวหอกสร้างการเติบโตสู่เป้าหมายที่วางไว้เป็นอย่างไร? คุณณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบด้วย บัตรกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัลเดอะวันและบัตรเครดิตโลตัส วิเคราะห์เรื่องนี้ให้ฟังชัดๆ
ยอดรูดปรื๊ด 2 เดือนแรก โต 12.3%
โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งที่ยากจะคาดการณ์มากมาย ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว การแพร่ระบาดของโควิด-19 บวกกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ธุรกิจและนักการตลาดจะยึดติดกับ “สูตรสำเร็จ” เดิมคงไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น การปรับตัวให้พร้อมทันกับสถานการณ์และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้
“วันนี้เราต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่หมด เราคงกลับไปยืนเหมือนเดิมไม่ได้ การมีผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาในตลาดถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยให้เกิดการพัฒนา และไม่หยุดนิ่ง รวมถึงยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการให้มากขึ้น”
คุณณญาณี เล่าถึงการปรับตัวของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ในช่วงที่ผ่านมา และยอมรับว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งรถไฟเหาะ สถานการณ์ปรับเปลี่ยนรวดเร็วมาก ทำให้บริษัทหยุดนิ่งไม่ได้เช่นกัน ขณะที่ปีนี้พบว่า ลูกค้ามีการใช้บัตรเติบโตเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร มีการเติบโต 12.3% โดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตถึง 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
จากสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มั่นใจ พร้อมกับจัดเต็มเดินหน้ารุกตลาดอย่างหนักในปีนี้
ชู 3 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโต
แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ คุณณญาณี ยอมรับว่า การจะพาธุรกิจเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ท่ามกลางความไม่แน่นอนนั้น ต้องมีการปรับกลยุทธ์ให้เข้มข้นสอดรับกับสภาวะตลาดมากขึ้น โดยปีนี้ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” จะลุยหนักใน 3 เรื่องหลัก คือ
1.มุ่งทำตลาดด้วย Personalized Data เจาะใจลูกค้ารายบุคคล
ทุกวันนี้ดาต้ากลายเป็นขุมทรัพย์สำคัญ เพราะทำให้ธุรกิจเข้าใจสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้อย่างแม่นยำ และสามารถนำเสนอสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้ตรงใจ ปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงลงทุนเทคโนโลยี และฝึกอบรมพนักงานให้เข้าถึงระบบบิ๊กดาต้า เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน บริการ รวมถึงทำโปรโมชั่นเป็นรายบุคคลมากขึ้น
โดยในปีนี้จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อดิจิทัลใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการครึ่งปีหลังของปี 2565 และบริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL-Buy Now Pay Later) หรือบีเอ็นพีแอล ผ่านแอปฯ ซึ่งลูกค้าสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง รวมถึงการนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ตลอดจนบัตรเครดิตรูปแบบใหม่ๆ อย่างบัตร XU Digital Card สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เป็นต้น
2.ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อโตไปด้วยกัน
โลกของการทำธุรกิจยุคนี้ การเติบโตไปคนเดียวคงไม่พอ แต่ต้องเติบโตไปกับพันธมิตร เพราะจะทำให้เติบโตได้เร็วและไกลกว่าเดิม ปีนี้กรุงศรี คอนซูมเมอร์จึงเดินหน้าผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรีและพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น รวมทั้งปรับโมเดลธุรกิจเพื่อสร้างรายได้จากบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น บริการ Call Center as a Service, Collection as a Service ตลอดจนขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
3.การพัฒนาศักยภาพองค์กร
นอกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการที่ตอบความต้องการผู้บริโภคเป็นรายบุคคลแล้ว “บุคลากร” ยังเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ดังนั้น องค์กรจะสำเร็จจึงต้องเตรียมบุคลากรให้พร้อม ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมากรุงศรี คอนซูมเมอร์ให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Next Normal เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และพฤติกรรมคนทำงานรุ่นใหม่ ปีนี้จึงสานต่อวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวให้ทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
เผยพฤติกรรมใช้บัตรปี 64 ช้อปออนไลน์-ประกันภัยมาวิน
คุณณญาณี บอกว่า ในปี 2564 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,500 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 139,000 ล้านบาท โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีที่ผ่านมา พบว่า 10 อันดับหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด เรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่
1.ประกันภัย ประกันชีวิต
2.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
3.ไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต
4.ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน
5.ปั๊มน้ำมัน
6.โรงพยาบาล
7.ห้างสรรพสินค้า
8.ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
9.เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ
10.อาหารและเครื่องดื่ม
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+55%)
2.ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+12%)
3.ปั๊มน้ำมัน (+11%)
4.ประกันภัย (+9%)
5.ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน (+8%)
จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ยอดการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับปี 2563 ขณะที่ยอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้ายังคงทรงตัว แต่ที่น่าสนใจคือ ยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์หมวดห้างสรรพสินค้าเติบโตถึง 62% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีการปรับรูปแบบเป็นการขายแบบออมนิแชนแนล