หลังจากรีแบรนด์ดิ้งเป็น “โลตัส” (Lotus’s) ทั้ง Corporate Brand, สาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต และสาขาขนาดเล็กที่เปลี่ยนเป็น “โลตัส โก เฟรช” (Lotus’s go fresh) ได้เดินหน้าขยายสาขา พร้อมพัฒนา Store Format ใหม่ต่อเนื่อง ถึงปัจจุบันมีกว่า 2,300 สาขาทั่วประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาแอปพลิเคชัน “Lotus’s SMART APP” ก้าวสำคัญของโลตัสในการขยับสู่โมเดล “O2O (Online to Offline)” เต็มรูปแบบ
โดยนับจากนี้ทั้ง “สาขา” ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต และสาขาโลตัส โก เฟรช กับแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน “Lotus’s SMART App” จะเชื่อมต่อเป็น “O2O” สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคให้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น คุ้มค่าขึ้น และตรงใจขึ้น ด้วยการใช้ “AI” (Artificial Intelligence) ประมวลผล Big Data เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดสินค้าที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละคน
ทำความรู้จัก “Lotus’s SMART APP” ก้าวสำคัญสู่ “O2O”
ภายใต้การรีแบรนด์เป็น “Lotus’s” มาพร้อมกับ 4 พันธสัญญาคือ
– Inspiring Fresh and Food Destination เป็นจุดมุ่งหมายของทุกเรื่องอาหารการกิน
– Smart Life Solutions เพื่อลูกค้าใช้ชีวิตง่ายขึ้น และสะดวกขึ้น
– Personalized Value ไม่ใช่แค่คุ้มค่า แต่ต้องสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าแต่ละคน
– Everyday Sustainability สร้างความยั่งยืนในทุกวัน
เพื่อตอกย้ำพันธสัญญาในด้าน “Smart Life Solutions” และ “Personalized Value” โลตัสได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “Lotus’s SMART App” เข้ามาแทนที่แอปพลิเคชันทั้งหมดที่โลตัสเคยมี เพื่อเป็น One-stop Destination ทั้งช้อปออนไลน์ และรีวอร์ดโปรแกรมรวมอยู่ในแอปฯ เดียว สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ SMART และไร้รอยต่อ (Seamless) ผ่านช่องทาง Omnichannel หรือ O2O ของทั้งสาขาและออนไลน์
การเปิดตัว “Lotus’s SMART App” มาพร้อมกับรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ “My Lotus’s” (มายโลตัส) ซึ่งจุดเด่นของโปรแกรม My Lotus’s ประกอบด้วย
– ง่ายขึ้น : ทุกการใช้จ่าย 100 บาท สมาชิกจะได้รับ 1 โลตัสคอยน์ (Lotus’s Coin)
– ทันใจขึ้น : 1 โลตัสคอยน์ = 1 บาท สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที ทั้งในสาขาและในแอปพลิเคชัน ไม่ต้องรอการส่งสเตทเม้นท์รายเดือนและคูปองอีกต่อไป
– คุ้มขึ้น : ทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง สมาชิกจะสามารถแลก 50 โลตัสคอยน์ เป็นคูปองเงินสด 100 บาท เพิ่มความคุ้มค่า 2 เท่า
– ตรงใจขึ้น : คูปองเงินสด ส่วนลด ดีลรู้ใจกว่า 200 รายการ จากการประมวลผลของ AI ตรงใจลูกค้าแต่ละราย
“การพัฒนา Lotus’s SMART App ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยวิเคราะห์และประมวลผล Big Data เพื่อให้สามารถสร้างคูปองส่วนลด โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ เสนอแนะสินค้า ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคน (Personalized Value)
ขณะเดียวกันเรายังได้เปิดตัวรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ “My Lotus’s” (มายโลตัส) แทนที่โปรแกรมเดิม โดยปรับให้ประสบการณ์การใช้งาน ทั้งการสะสมและการแลก ง่ายขึ้น ทันใจขึ้น คุ้มขึ้น และตรงใจขึ้นกว่าเดิม
เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน และ 100% paperless ไม่มีการส่งสเตทเม้นท์และคูปองไปยังบ้านของลูกค้า ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยเป้าหมายของเราคือการให้ลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการโลตัสเป็นสมาชิก My Lotus’s เพื่อความคุ้มค่าของทุกการใช้จ่าย” คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส เล่าถึงการพัฒนารีวอร์ดโปรแกรม My Lotus’s ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล
นอกจากนี้ทางโลตัสได้ร่วมมือกับ “ศิลปิน NFT” ในการสร้างชิ้นงานศิลปะที่เป็นทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อแจกให้ลูกค้าฟรี โดยลูกค้าสามารถเริ่มเก็บ Ticket code บนแอปฯ ตั้งแต่ 1-30 เมษายน นี้ เพื่อนำไปแลก “MyLotus’s NFT Art”
เจาะ Pain Point ผู้บริโภค สู่การพัฒนาฟีเจอร์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
การพัฒนาฟีเจอร์ “Lotus’s SMART App” ทีมโลตัสได้ศึกษาและทำความเข้าใจ Pain Point ของผู้บริโภคที่มักประสบเวลาช้อปปิ้งออนไลน์ เพื่อให้ทุกฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นนั้น สร้างประสบการณ์การใช้งานตรงความต้องการลูกค้าแต่ละคนอย่างแท้จริง
SMART Features ประกอบด้วย
– สินค้ากว่า 30,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ อาทิ อาหารสด อาหารแห้ง เครื่องดื่ม เครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เป็นต้น
– อัพเดทสต็อคสินค้าแบบ Real-time
– สามารถติดตามสถานะการจัดส่งสินค้าได้
– เชื่อมต่อกับ Google Maps ทำให้มีพิกัดในการจัดส่งแม่นยำ
– การจัดส่งหลายรูปแบบ โดยค่าจัดส่งสมเหตุสมผล เนื่องจากจัดส่งจากสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่จัดส่งของลูกค้าที่สุด
– เชื่อมต่อกับ My Lotus’s สะสมและแลกโลตัสคอยน์ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
– มีคูปองและโค้ดส่วนลดพิเศษอีกมากมาย
เร่งขยาย O2O ครอบคลุมกว่า 2,300 สาขา
จุดแข็งการให้บริการ “O2O” ของโลตัสคือ ศักยภาพและความพร้อมของ “สาขา” (Physical Store) ที่มีกว่า 2,300 สาขา และยังคงเดินหน้าขยายต่อเนื่อง เป็น Network ที่ทรงพลังในการเข้าถึงผู้บริโภค เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดิจิทัล “Lotus’s SMART App” อย่างไร้รอยต่อ ทำให้การให้บริการ O2O ครอบคลุมทั่วประเทศ และจัดส่งได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นต่อไปบนแพลตฟอร์ม Lotus’s SMART App ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการที่สาขาไหนก็ได้ตามที่ตัวเองสะดวก ซึ่งรายการสินค้าของสาขาที่ลูกค้าเลือกใช้บริการบน Lotus’s SMART App เหมือนกับสินค้าจากสโตร์จริง รวมทั้งยังมีระบบอัพเดทสต็อคสินค้าแบบ Real-time และฟีเจอร์ติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า
“จุดแข็งของธุรกิจออฟไลน์ของโลตัสคือ มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจออนไลน์ ในการให้สาขาทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต และโลตัส โก เฟรช รวมกว่า 2,300 สาขา เป็นจุดกระจายสินค้า ส่งสินค้าตรงถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น ด้วยระยะทางที่ใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น โดยเราได้จับมือกับพันธมิตรแพลทฟอร์ม Delivery ต่างๆ และฟลีทขนส่งของเราเอง ทำให้สามารถจัดส่งได้หลากหลายรูปแบบตามความสะดวกของลูกค้า” คุณธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน ฉายภาพจุดแข็งของโลตัสในการให้บริการ O2O
รวมทั้งยังเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ทุกการใช้จ่ายบนช่องทางออนไลน์ลูกค้าสามารถสะสมและแลกใช้โลตัสคอยน์ได้อย่างไร้รอยต่อภายในแอปพลิเคชันเดียว
“เราตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้าของโลตัส คือ เพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์ จากเลขหลักเดียว (Single Digit) เป็นเลขสองหลัก (Double Digit) โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือ Lotus’s SMART App ที่เราได้พัฒนาออนไลน์ช้อปปิ้งให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายกว่าเดิมในการใช้งาน” คุณธรินทร์ สรุปทิ้งท้ายถึงเป้าหมาย