โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ (Meliá Chiang Mai) โรงแรมใหญ่บนอาคารสูงใจกลางเมือง ที่มีห้องพักให้บริการมากถึง 260 ห้อง มีจุดชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจากบาร์บนยอดอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเชียงใหม่ ประกาศพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเจริญประเทศ ใกล้แม่น้ำปิงและไนท์บาซาร์ย่านค้าขายที่มีชื่อเสียง โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในโรงแรมภายใต้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC (Asset World Corp Public Company Limited) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรและบริหารโดย มีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Meliá Hotels International) ซึ่งโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เปิดตามแผนขยายโรงแรมและรีสอร์ทตามจุดหมายปลายทางสำคัญทั่วประเทศไทยของแบรนด์ มีเลีย โดยเริ่มตั้งแต่การเปิดให้บริการ มีเลีย เกาะสมุย (Meliá Koh Samui) ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา นอกจากนั้น โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ยังเป็นโรงแรมระดับห้าดาวแห่งแรกที่เปิดให้บริการในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ทั่วโลก
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ถูกออกแบบตกแต่งโดยสะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินเชียงใหม่เพียง 6 กิโลเมตร และยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ หลายแห่ง อาทิ ประตูเมืองเชียงใหม่ วัดสำคัญและเก่าแก่อย่างวัดเชียงมั่น หรือ จุดชมวิวพักผ่อนที่อ่างแก้ว นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ศูนย์บริบาลช้าง หรือ เอลลิแฟนท์เนเจอร์ปาร์ค น้ำตกแม่ยะ และดอยเชียงดาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกที่ยูเนสโกได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ มีส่วนบริการต่าง ๆ ตั้งอยู่ทั้งในอาคารสูง 22 ชั้น และอาคาร 7 ชั้นที่ทั้ง 2 อาคารมีส่วนเชื่อมต่อกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องอาหาร 2 ห้อง บาร์เครื่องดื่ม 2 แห่ง ห้องรับรอง (Lounge) 2 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นห้องรับรองสำหรับลูกค้าพิเศษบนชั้น 21 นอกจากนี้ยังมียี่ สปา (YHI Spa) ที่มีห้องสำหรับให้บริการทรีตเมนต์ทั้งหมด 7 ห้อง ห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำ ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุมย่อย และห้องเด็กเล่นที่มีของเล่นและกิจกรรมสันทนาการสำหรับเด็กอายุ 3 ถึง 16 ปี
การบริการอาหาร
ไหม เดอะ สกาย บาร์ (Mai The Sky Bar) บาร์บนยอดอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 22 ของโรงแรมถือเป็นบาร์ที่มีความโดดเด่นและเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ได้แบบ 360 องศา โดยมีที่นั่ง 2 ฝั่งถูกเชื่อมกันไว้ด้วยสะพานกระจก ฝั่งหนึ่งหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำปิง และอีกฝั่งหนึ่งทางทิศตะวันตกจะสามารถมองเห็นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารที่ตั้งอยู่บนภูเขา
เชฟสุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ผู้มากประสบการณ์เจ้าของรางวัลมากมาย เป็นหัวหน้าทีมครัวดูแลการปรุงอาหารที่มีชื่อเสียงตามแบบฉบับของประเทศสเปนประเทศต้นกำเนิดแบรนด์มีเลีย เพื่อให้บริการที่ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ (Mai Restaurant & Bar) และห้องอาหารล้านนา คิทเช่น (Laan Na Kitchen)
ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ มีที่นั่งสำหรับรองรับลูกค้าได้ถึง 38 ท่าน ให้บริการอาหารไทยภาคเหนือแบบล้านนาร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน เชฟจะปรุงอาหารสดใหม่จานต่อจานในครัวเปิด เมนูแนะนำ ได้แก่ เนื้อปลาเทราท์อบกับน้ำพริกอ่อง และ ข้าวซอยไก่เส้นพัพพาร์เดลล์เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีดองแบบโฮมเมด
ส่วนห้องอาหารล้านนา คิทเช่น ให้บริการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแบบต้นตำรับ อาทิ ซุปมะเขือเทศสด ฟีเดวาบะหมี่จากเมืองบาเลนเซีย ในบรรยากาศแบบครัวเปิดที่มีชีวิตชีวา ห้องอาหารล้านนา คิทเช่น มีที่นั่งสำหรับรองรับลูกค้าภายในห้องอาหารได้ถึง 110 ท่าน และมีที่นั่งบริเวณระเบียงหน้าห้องอาหารอีก 26 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวอีก 4 ห้อง
ไหม เดอะ สกาย บาร์ (Mai The Sky Bar) ให้บริการทาปาส (Tapas) และพินโช (Pinchos) แบบสเปนรสชาติแบบต้นตำรับกับเครื่องดื่มหลากหลายประเภท รวมถึงค็อกเทลสูตรพิเศษที่ถูกรังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์มากประสบการณ์
เทียน พูลบาร์ (Tien Pool Bar) เป็นบาร์ริมสระว่ายน้ำกลางแจ้งของโรงแรม ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 เหนือโถงต้อนรับ ให้บริการอาหารว่างแสนอร่อย โดยเฉพาะอาหารว่างแบบสเปนที่ขึ้นชื่ออย่าง โบคาดิโล เซอรันนีโต้ (Bocadillo serranito) หรือแซนวิชสไตล์สเปน และเมนูเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นหลายรายการ
เรือนแก้ว เลาจน์ (Ruen Kaew Lounge) ตั้งอยู่ติดกับห้องอาหารล้านนา คิทเช่น ให้บริการอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่อาหารล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากโปรแกรม มาย บาลานซ์ บาย มีเลีย (My Balance by Meliá) รวมถึงชุดน้ำชายามบ่าย กาแฟ และเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
นอกจากนั้น ยังมีอาหารสำหรับบริการภายในห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ ชุดอาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่มีให้เลือกถึง 5 ชุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากโปรแกรม มาย บาลานซ์ บาย มีเลีย นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารเช้าแบบสเปน แบบจีน รวมไปถึงอาหารเช้าแบบท้องถิ่น
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ขับเคลื่อนความมุ่งมั่นที่จะให้บริการอาหารสดใหม่จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ด้วยการเป็นพันธมิตร กับออริจิ้น เดอะกัวร์เม่ ฟาร์ม (ORI9IN The Gourmet Farm) เพื่อก่อตั้งฟาร์มออร์แกนิคของตนเองในเขตอำเภอสันทรายเพื่อปลูกและเก็บเกี่ยวผัก ผลไม้ และสมุนไพรต่างๆ ปลอดสารพิษ ความร่วมมือกันระหว่าง โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ และ ออริจิ้น เดอะกัวร์เม่ ฟาร์ม ในครั้งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของโปรแกรมครัว 360 องศา (360° Cuisine) ของโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ที่มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์จะทำงานร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยพัฒนาการเกษตรให้เติบโตแบบยั่งยืน ส่งเสริมการผลิตแบบรับผิดชอบต่อสังคม สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เพื่อให้ชุมชนและภาพรวมของห่วงโซ่อาหารแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ มีห้องพักที่ได้รับบริการและสิทธิพิเศษแบบ เดอะ เลเวล (The Level) จำนวน 38 ห้อง และห้องสวีท 6 ห้อง ซึ่งลูกค้าที่เข้าพักในห้องพักแบบ เดอะ เลเวล นอกจากจะได้รับการบริการพร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมมากมายแล้ว ยังสามารถใช้บริการที่ เดอะ เลเวล เลาจน์ (The Level Lounge) ส่วนบริการพิเศษที่ให้บริการอาหารเช้า ของว่าง ชุดน้ำชายามบ่าย และค็อกเทลยามเย็น เดอะ เลเวล เลาจน์ ยังเหมาะสำหรับการพบปะทางธุรกิจแบบไม่เป็นทางการ นอกจากนั้นยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ อาทิ การเช็คอินและเช็คเอาท์แบบส่วนตัว บริการรีดผ้า ส่วนลด 10% ที่ยี่ สปา และอีกมากมาย
ห้องพักและห้องสวีท
ห้องพักทั้งหมด 9 แบบ ของโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ล้วนได้รับการตกแต่งแบบร่วมสมัย สดใสและอบอุ่น ห้องพักมีขนาดเริ่มต้น 30 ตารางเมตร ถึง 54 ตารางเมตร และห้องสวีทมีขนาดเริ่มต้นที่ 62 ตารางเมตร จนถึงห้องขนาด 113 ตารางเมตรซึ่งถือเป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่สุด ห้องพักทุกประเภททั้งแบบเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยครบครัน อาทิ โทรทัศน์จอแบนพร้อมสัญญาณดาวเทียม อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ เตารีดและที่รองรีดผ้า
ห้องพักแบบ มีเลีย (Meliá Room) เป็นห้องพักแบบเริ่มต้น โดยห้องพักที่หันไปทางทิศตะวันออก จะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากแม่น้ำปิง ส่วนห้องพักที่หันทางทิศตะวันตกจะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร หนึ่งในสถานที่สำคัญประจำเมืองเชียงใหม่
ส่วนห้องพักแบบ มีเลีย คอร์เนอร์ (Meliá Corner Room) และห้องพักแบบ พรีเมียม (Premium Room) มีผนังป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี และมีโซฟายาวตลอดแนวผนังฝั่งกระจก ห้องพักแบบ พรีเมียม คอร์เนอร์ (Premium Corner Room) ขนาด 54 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งโซฟา โต๊ะ และเก้าอี้ รวมถึงมินิบาร์ และนาฬิกาปลุก ส่วนห้องพักแบบ แฟมมิลี่ (Family Room) ขนาด 54 ตารางเมตร นั้นเป็นห้องที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับเตียงเสริม และยังมีประตูเพื่อขอเปิดเชื่อมต่อกับห้องพักอีกห้องหนึ่งได้
ห้องพักแบบ เลเวล สวีท (Level Suite) ขนาด 62 ตารางเมตร มีอ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ และตั้งอยู่บนชั้นเกือบสูงสุดของโรงแรมจึงเห็นทิวทัศน์ของเชียงใหม่จากมุมสูงแบบไม่มีอะไรบดบัง ส่วนห้องพักแบบ เดอะ เลเวล เพรสซิเดนเชียล สวีท (The Level Presidential Suite) มีพื้นที่กว้างขวางถึง 113 ตารางเมตร เป็นห้องพักที่ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างสง่างามตั้งอยู่บนชั้น 20 ของโรงแรม ซึ่งลูกค้าที่เข้าพักในห้องพักแบบ เดอะ เลเวล เป็นต้นไปจะสามารถใช้บริการที่ เดอะ เลเวล เลาจน์ (The Level Lounge) ส่วนบริการพิเศษสำหรับลูกค้าที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนในเชียงใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน
สปาและการดูแลสุขภาพ
ยี่ สปา เป็นสปาที่โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ มีห้องทรีตเมนต์ส่วนตัวทั้งหมด 7 ห้องที่ถูกออกแบบให้เสมือนอยู่ในโลกใต้น้ำเพื่อความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย แบ่งเป็นห้องทรีตเมนต์ที่ให้บริการเดี่ยว 4 ห้อง ห้องทรีตเมนต์สำหรับให้บริการคู่ 2 ห้อง และห้องสำหรับนวดแผนไทย 1 ห้อง นอกจากนั้นยังมีห้องส่วนตัวเพื่อให้บริการทำเล็บ 2 ที่นั่ง และห้องอบซาวน่าด้วยสมุนไพรไทย ซึ่งจะช่วยทำความสะอาด กำจัดสารพิษ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
เทอราพิสของเราใช้ภูมิปัญญาแบบเอเชียโบราณ ผสมผสานกับเทคนิคการดูแลสุขภาพสมัยใหม่ในการบำบัด ตั้งแต่การนวดตัว การขัดผิว การพอกผิว ไปจนถึงการดูแลฟื้นฟูผิวหน้า เพื่อคืนความสดชื่น และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์หาญ (HARNN) ผลิตภัณฑ์สปาคุณภาพที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติและภูมิปัญญาอันล้ำค่าของไทยที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
ห้องออกกำลังกาย ที่ตั้งอยู่บนชั้นลอยและสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนชั้น 2 ของโรงแรมนั้นมีอุปกรณ์ออกกำลังกายแบรนด์เมทริกซ์ (Matrix) รุ่นที่ออกแบบร่วมกับจอห์นสัน (Johnson) ให้บริการอย่างครบครัน ทั้งลู่วิ่ง จักรยานออกกำลังกาย อุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ไม่จำกัดการเคลื่อไหว ตลอดจนอุปกรณ์ยกน้ำหนัก
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมและสัมมนา
ห้องยี่เปง แกรนด์ บอลรูม (Yi Peng Grand Ballroom) เป็นห้องบอลรูมขนาด 358 ตารางเมตร ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันเหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงรับรอง งานแต่งงาน รวมไปถึงงานประชุม สัมมนา นอกจากนั้นยังมีห้องประชุมอีก 2 ห้องบนชั้น 2 และห้องประชุมขนาด 185 ตารางเมตร อีก 1 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร 7 ชั้น
ส่วนต้อนรับบริเวณหน้าห้องจัดเลี้ยงขนาด 173 ตารางเมตร มีพื้นที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และ เทียน พูล บาร์ ซึ่งเป็นบาร์เครื่องดื่มริมสระว่ายน้ำ ส่วนพาวเวอร์ เลาจน์ (Power Lounge) เป็นพื้นที่สันทนาการที่มีโต๊ะพูล และที่นั่งแบบสบาย ๆ เหมาะสำหรับให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มในบรรยากาศผ่อนคลายระหว่างพักการประชุม ตามคอนเซ็ปต์ พาวเวอร์ มีตติ้งส์ บาย มีเลีย (Power Meetings by Meliá)
ส่วนห้องโคม (Khom Room) เป็นห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง ตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร 7 ชั้นของโรงแรม ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับสวนกลางแจ้งขนาด 222 ตารางเมตร ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเชียงใหม่ทั้งฝั่งแม่น้ำและภูเขา นอกจากนั้น ห้องโคมยังมีส่วนเชื่อมต่อกับสวนลับที่เหมาะสำหรับให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
คุณวัลลภา ไตรโสรัส เจ้าของโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่ง AWC ยังมองเห็นโอกาสการพื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ การเปิดโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของ AWC ที่จะมีส่วนในการพัฒนาภาพรวมของธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในสภาวะธุรกิจแบบปกติใหม่ต่อไป”
“หลังจากประสบความสำเร็จกับการเปิดให้บริการ มีเลีย เกาะสมุย ไปแล้วนั้น การเปิดโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ถือเป็นการขยายตัวที่น่าตื่นเต้นของ มีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชั่นแนลในประเทศไทย เพื่อส่งมอบการบริการอย่างอบอุ่นแบบสเปนตามแบบฉบับของมีเลีย ซึ่งมีการบริการที่ไม่เหมือนใครและมุ่งเน้นที่ความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้า ซึ่งการเปิดตัวโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ในครั้งนี้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้” มร. อิกนาซิโอ มาร์ติน (Ignacio Martin) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของมีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชันแนล (Area Managing Director South East Asia of Meliá Hotels International) กล่าว
“โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ จะเปิดทำการโดยมีพนักงานประมาณ 160 คน และจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนพนักงานถึง 240 คนในอนาคต ซึ่งถือเป็นการจ้างงานที่มีประโยชน์ต่อบุคคลากรและครอบครัวของพวกเขาในจังหวัดเชียงใหม่ การเปิดโรงแรมระดับ 5 ดาวกลางเมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลกครั้งนี้ถือเป็นขวัญและกำลังใจที่จำเป็นอย่างมากในขณะนี้สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่” มร. เอ็ดเวิร์ด สนุ๊ก ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ กล่าว
โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ เสนอห้องพักราคาพิเศษช่วงเปิดโรงแรม ห้องพักแบบมีเลีย (Meliá Room) ราคาสุทธิเริ่มต้นเพียง 2,499 บาทต่อคืน ราคารวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ส่วนลด 20% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างที่เข้าพัก ส่วนลด 20% สำหรับทรีทเมนท์จากเมนู Exclusive Wellbeing ที่ YHI Spa ที่ใช้ผลิตภัณฑ์สปาคุณภาพจากแบรนด์ HARNN พิเศษ เมื่อสำรองห้องพัก 2 คืน รับฟรี รถรับส่งจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ พร้อมรับฟรีเครื่องดื่มค็อกเทลและทาปาส 1 ชุด ต่อการเข้าพัก และเมื่อสำรองห้องพัก 4 คืน จะได้รับการอัพเกรดห้องพักเป็นห้องพักแบบที่สูงขึ้น สำรองห้องพักติดต่อแผนกสำรองห้องพัก อีเมล์ reservation.chiangmai@melia.com โทร. 052 090 699 หรือ เวปไซด์ www.melia.com ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 เพื่อเข้าพักและออกเดินทางค้นหาเสน่ห์ของเมืองเก่าอย่างเชียงใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565