HomeBig Featured“airasia ride” บุกไทย เปิดตัวบริการแท็กซี่ เชื่อมไฟล์ทบิน – จองโรงแรม แถมจ่ายตามมิเตอร์

“airasia ride” บุกไทย เปิดตัวบริการแท็กซี่ เชื่อมไฟล์ทบิน – จองโรงแรม แถมจ่ายตามมิเตอร์

แชร์ :

airasia ride

รับนโยบายปลดล็อกการท่องเที่ยวของไทย AirAsia Super App ได้ฤกษ์เปิดตัวบริการ Ride-Hailing อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยชื่อ “แอร์เอเชีย ไรด์” (airasia ride) โดยไทยถือเป็นประเทศที่สองรองจากมาเลเซีย พร้อมเปิดตัวเลขแท็กซี่ในระบบที่มีแล้วถึง 3,000 ราย ด้านผู้บริหารชูจุดแข็งคือ “การไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้จากแท็กซี่ที่เข้าร่วม” ตั้งเป้ามียอด Booking แตะ 50,000 ครั้งในเดือนแรกของการเปิดตัว และ 500,000 ครั้งภายในสิ้นปีนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับ airasia ride เปิดตัวครั้งแรกในมาเลเซียเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 โดยคุณอแมนดา วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร airasia Super App เผยว่า สามารถเติบโตและมียอด Booking มากถึง 1 ล้านครั้งภายใน 8 เดือน ซึ่งทางบริษัทคาดว่า การเปิดตัวในประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก และเป็นเมืองที่ผู้คนเริ่มกลับมาเดินทางไปทำงานกันอีกครั้ง ก็จะมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน

สร้างจุดต่าง มิเตอร์ขึ้นเท่าไรจ่ายเท่านั้น

คุณนิรดา ตรรกวรุฒม์ ผู้อำนวยการฝ่าย airasia ride ประเทศไทย

คุณนิรดา ตรรกวรุฒม์ ผู้อำนวยการฝ่าย airasia ride ประเทศไทย

การไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้จากแท็กซี่ที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มอาจถือได้ว่าเป็นจุดต่างข้อแรกที่ชัดเจนของ airasia ride โดยคุณนิรดา ตรรกวรุฒม์ ผู้อำนวยการฝ่าย airasia ride ประเทศไทย เผยว่า ต้องการให้ airasia ride สะท้อนถึงความโปร่งใส นั่นคือ มิเตอร์ของแท็กซี่ขึ้นเท่าไรก็จ่ายตามมิเตอร์ได้เลย

“สำหรับรายได้ของกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ทุกท่านจะได้รับเงิน 100% จากอัตราค่าโดยสาร และผู้โดยสารยังได้รับคะแนนจากการจองบริการของทางแพลตฟอร์ม และนำคะแนนนั้นไปใช้เป็นส่วนลดกับบริการอื่น ๆ ของ airasia Super App เช่น บริการ Food Delivery ได้ด้วย”

ส่วนกลุ่มเป้าหมายของ airasia ride คุณนิรดาเผยว่า มีสองกลุ่มใหญ่ ๆ นั่นคือ

  • ผู้ที่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการเดินทางด้วยรถแท็กซี่ และจ่ายค่าบริการในราคาตามมิเตอร์ ไม่ใช่ราคาตามที่แอปพลิเคชันกำหนด
  • กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ตั้งเป้า แอปเรียกรถอันดับ 1 ของนักเดินทาง

ผู้บริหาร airasia ride เผยถึงเป้าหมายของบริษัทด้วยว่า จะก้าวขึ้นเป็นแอปเรียกรถอันดับหนึ่งของนักเดินทาง โดยคาดว่า 70% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ จะใช้บริการ airasia ride และในอนาคต มีแผนจะขยายไปสู่การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก – รถยนต์ขนาด 6 ที่นั่ง และรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาให้บริการร่วมด้วย

เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ คุณนิรดาเผยว่า ภายในแอป airasia ride ได้เพิ่มตัวเลือกให้นักเดินทางสามารถเลือกคนขับรถที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้  โดยคาดว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางในกรุงเทพฯ ได้อีกทางหนึ่ง

ปัจจุบัน airasia ride เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว และมีคนขับรถแท็กซี่ลงทะเบียนแล้วกว่า 3,000 คน ซึ่งในอนาคต ทางแพลตฟอร์มตั้งเป้าจะขยายรถแท็กซี่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ราย รวมถึงมีแผนจะขยายไปยังจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของไทยอย่าง เช่น ภูเก็ต และเชียงใหม่ ภายในปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับการเข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบินของไทยอย่างสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมินั้น ณ วันที่ 31 พฤษภาคม ยังไม่สามารถทำได้ โดยคุณนิรดาเผยว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 – 2 เดือนนี้ ซึ่งหากการเจรจาแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้ประสบการณ์ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ (Seamless) มากขึ้น

เปิดฟีเจอร์ “ส่งอาหารข้ามเมือง”

นอกจากเปิดตัวบริการ Ride-Hailing อย่างเป็นทางการแล้ว อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จาก airasia Super App ก็คือการสั่งอาหารข้ามเมือง โดยคุณอแมนดา วู ได้กล่าวถึงฟีเจอร์นี้ว่า ตอนนี้ผู้ใช้งานแอปฯ ในไทย สามารถสั่งอาหารจากร้านระดับมิชลินที่จังหวัดภูเก็ต และส่งมาที่กรุงเทพฯ ได้ภายใน 24 ชั่วโมงแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ ในมุมของการท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่า การเปิดตัว airasia ride มีจุดต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ ในธุรกิจ Ride-Hailing ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือการสร้างประสบการณ์ในธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเริ่มตั้งแต่การจองโรงแรมได้ภายในแพลตฟอร์ม (มีโรงแรมแล้วกว่า 700,000 แห่ง) การจองสายการบินที่ไม่จำกัดเฉพาะสายการบินของแอร์เอเชีย และยังสามารถจองบริการรถแท็กซี่เพื่อรับส่งจากสนามบินไปยังโรงแรม – แหล่งท่องเที่ยวได้เลยทันที


แชร์ :

You may also like