HomeBrand Move !!ร้านเซเว่นฯ ยอดขายฟื้น CPALL กวาดรายได้ไตรมาสแรก 199,731 ล้าน เพิ่มขึ้น 50% โกยกำไร 3,453 ล้าน

ร้านเซเว่นฯ ยอดขายฟื้น CPALL กวาดรายได้ไตรมาสแรก 199,731 ล้าน เพิ่มขึ้น 50% โกยกำไร 3,453 ล้าน

แชร์ :

cpall 7eleven
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ซึ่งมีทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น, แม็คโคร และโลตัสส์ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 มีรายได้ 199,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.7% หรือเกือบ 50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9%

การเติบโตของรายได้ CPALL มาจากปัจจัยบวกเริ่มเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น

โดยไตรมาสแรก ปี 2565 รายได้รวม CPALL เพิ่มขึ้นจากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” รวมถึงธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค “แม็คโคร” ยังรักษาการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการไว้ได้ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้ของธุรกิจ “โลตัสส์” เข้ามาเต็มจำนวนในไตรมาสนี้ และการเติบโตของกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 3,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาจากการฟื้นตัวของผลประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ได้รับปัจจัยบวกต่อเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

เซเว่นฯรายได้ขยับขึ้น 16% กำไรเพิ่ม “เท่าตัว”

สำหรับผลการดำเนินงานธุรกิจร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในไตรมาสแรกปีนี้ มีการเปิดร้านสาขาใหม่รวม 119 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวม 13,253 สาขา แบ่งเป็น

– ร้านสาขาบริษัท 6,394 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 46) ร้านเปิดใหม่ 114 สาขา ในไตรมาสนี้

– ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 6,859 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 54) ร้านเปิดใหม่ 5 สาขา ในไตรมาสนี้

สรุปไตรมาสแรกร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 81,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

– ยอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน 73,460 บาท ยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

– ยอดซื้อต่อบิล 84 บาท

– จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 871 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการผ่อนคลายและยกเลิกมาตรการต่างๆ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในไตรมาสแรก

– กลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping มีแนวโน้มเติบโต ปัจจุบันมีสูงกว่า 10% ของรายได้จากการขาย

สัดส่วนรายได้จากการขายร้านเซเว่นฯ 73.9% มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ 26.1% มาจากสินค้าอุปโภค โดยรายได้จากการขายของสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น จากกลุ่มอาหารพร้อมทานและอาหารแปรรูป การนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับสถานการณ์ อาทิ กลุ่มสินค้าอิ่มคุ้ม เครื่องปรุงอาหาร กลุ่มสินค้าบรรจุขนาดครอบครัว หรือ แพ็คใหญ่ เป็นต้น

7-Eleven Delivery

 

เซเว่นฯ เดินหน้าเปิดอีก 700 สาขา

แนวโน้มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ในปี 2565 CPALL วางแผนพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว และทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

โดยวางแผนลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขา ในปี 2565 คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 11,500 – 12,000 ล้านบาท ดังนี้

– การเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800 – 4,000 ล้านบาท

– การปรับปรุงร้านเดิม 2,400 – 2,500 ล้านบาท

– โครงการใหม่, บริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า 4,000 – 4,100 ล้านบาท

– สินทรัพย์ถาวร และระบบสารสนเทศ 1,300 – 1,400 ล้านบาท

CPALL ประมาณการรายได้จากการขายและบริการในปี 2565 สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่และยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม ในระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP)

 


แชร์ :

You may also like