HomePR Newsโดฟ รณรงค์ยุติกฎการลงโทษตัดผมนักเรียน [PR]

โดฟ รณรงค์ยุติกฎการลงโทษตัดผมนักเรียน [PR]

แชร์ :

เมื่อสองปีที่แล้ว ประเทศไทยได้มีการแก้ไขกฎระเบียบทรงผมของนักเรียน เพื่อให้มีความครอบคลุมมากขึ้นและห้ามไม่ให้มีการลงโทษนักเรียนโดยการตัดผม อย่างไรก็ตาม จากผลการสำรวจล่าสุดโดย โดฟ ผ่านกลุ่มตัวอย่างของ บริษัท ยูโกฟ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ประกอบด้วย นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้หญิงและครู พบว่า 74% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าการบังคับตัดผมยังคงมีอยู่เพื่อให้นักเรียนอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน โดยแท้ที่จริงแล้ว กฎระเบียบเหล่านี้  ส่งผลกระทบมากกว่าแค่ผมของนักเรียน  ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจที่จัดทำขึ้น ที่พบว่า นักเรียนมัธยม 8 ใน 10 คน ได้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง  ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ ความงาม คือ ที่มาของความมั่นใจ ไม่ใช่ความกังวล ด้วยเหตุนี้ โดฟ เชิญชวนคนไทยทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุน #LetHerGrow เพื่อยุติกฎการลงโทษตัดผมเพื่อทุกคน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“โดฟ มีความเชื่อว่า หากเราสามารถส่งเสริมความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับเด็กๆ ของพวกเรา พวกเขาจะสามารถเติบโตอย่างมั่นใจ พร้อมอนาคตที่สดใสและโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับพวกเขา นี่คือ สาเหตุที่โดฟมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ช่วยให้เด็กของเราได้เติบโตขึ้นในแบบที่ดีที่สุดของพวกเขา” นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดฟ (Dove)

“เรามีความภาคภูมิใจที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรด้านการศึกษา ในการสร้างการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการริเริ่มกองทุน Growth Fund (เดอะ โกรธ์ ฟันด์)  เพื่อสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับลูกหลานของเรา” นางสาวผกาฉัตร กล่าวเสริม

 

นับเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ผ่านโครงการ Dove Self-Esteem Project (โดฟ เซล์ฟ เอสตีม โปรเจค)  ที่โดฟ ได้ช่วยผู้ปกครอง ผู้ให้คำปรึกษา ครู และผู้นำรุ่นใหม่ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อมั่นและการเห็นคุณค่าในตนเอง ไปยังคนรุ่นใหม่กว่า 82 ล้านคน ทั่วโลก ทำให้โดฟกลายเป็นแบรนด์รายใหญ่ที่สุดของโลกที่ส่งเสริมและให้การศึกษาเกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจในรูปร่างตนเอง ภายในปี 2573  โดฟ มุ่งที่จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ จำนวน 250 ล้านคน มีความพึงพอใจในรูปลักษณ์และยอมรับความงามในแบบของตนเอง

นอกจากนี้ โดฟ กำลังผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร อย่าง สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ที่พัฒนาเด็กผู้หญิงและเยาวสตรีให้เป็นพลเมืองที่เก่ง ดี มีประโยชน์ ต่อสังคมมากว่า 60 ปี  ในฐานะพันธมิตร โดฟและสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยฯ จะร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนทั่วประเทศ  และ โดฟ  ยังร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา  ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกถึงผลกระทบของการบังคับใช้กฎระเบียบที่เกินขอบเขตที่ส่งผลต่อความมั่นใจของเด็ก และการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

“การถูกบังคับตัดผม อาจกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้กับนักเรียน และสามารถส่งผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนา “ตัวตน” ของเด็กและวัยรุ่น ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข มีความมั่นใจ และมีความเคารพตัวเอง  ถ้าเราต้องการให้เด็กๆ ของเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางใจ เราต้องเริ่มให้ความสำคัญในการเคารพตัวตนและสร้างรากฐานความมั่นใจนี้ให้กับพวกเขา ตั้งแต่วันนี้” ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น กล่าว

จากผลการสำรวจของโดฟ พบว่า:

  • เกือบครึ่งของนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกลงโทษตัดผม ระบุว่า การกระทำดังกล่าวได้ส่งผลลบต่อการแสดงความคิดเห็นของพวกเขา
  • นักเรียนมัธยมปลายมากกว่า 3 ใน 5 คน เชื่อว่ากฎบังคับเรื่องทรงผม ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตนเอง หรือรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของตนเองดูไม่ดี
  • นอกจากผลสำรวจในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ในกลุ่มหญิงสาว (19-24 ปี)  71% ระบุว่า กฎระเบียบบังคับทรงผมส่งผลลบต่อความมั่นใจในตนเองของพวกเธอด้วยเช่นกัน
  • ผลการสำรวจยังพบว่า ครูมากกว่า 40% ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดการแก้ไขของกฎระเบียบเรื่องทรงผม
  • ผู้ตอบแบบสำรวจ 3 ใน 5 คน เห็นว่ากฎระเบียบเรื่องการบังคับทรงผมนั้นล้าสมัย และโรงเรียนไม่ควรบังคับใช้อีกต่อไป

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง  โดฟ เชิญชวน ผู้ปกครอง นักเรียน และนักการศึกษา ร่วมรณรงค์ยุติกฎการลงโทษตัดผมในโรงเรียน ผ่านทางเว็บไซด์ DoveLetHerGrow.com หรือสแกน QR  สัญลักษณ์ของแคมเปญที่ปรากฏอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมแสดงจุดยืนนี้ของคุณ เพื่อทุกคน  และ โดฟ   ยังได้ริเริ่มกองทุน The Growth Fund เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง  โดยมอบทุนจำนวน 10,000,000 บาท ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนด้านงานศึกษาวิจัย การให้ความรู้ผ่านผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การทำงานร่วมกับโรงเรียนและนักการศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของกฎบังคับทรงผมที่เคร่งครัดเหล่านี้ ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองของเด็กและการนับถือตนเองของคนรุ่นต่อไป

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม คลิกไปที่ https://www.dovelethergrow.com/ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ  #LetHerGrow


แชร์ :

You may also like