ความกังวลต่อปัญหาปากท้องและค่าครองชีพ จากราคาของกินของใช้ที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้คนไทยมีค่าใช้จ่ายพุ่งขึ้นตามไปด้วย และกลายเป็นความหนักใจสูงสุดของคนไทยในช่วงเวลานี้เช่นกัน เห็นได้จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ที่สอบถามกลุ่มตัวอย่างกว่า 1 พันคน ในระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยพบว่า ปัญหาของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง เป็นปัญหาที่คนไทยหนักใจมากที่สุดถึง 89.73% ขณะที่ 41.26% ยอมรับว่ามีรายได้ไม่พอใช้และต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องหนี้สิน
ผลสำรวจยังระบุว่า คนไทย 56.73% มีความหนักใจต่อปัญหาต่างๆ รอบตัวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ 38.78% ที่ตอบว่ามีความหนักใจอย่างมาก ซึ่งสาเหตุหลักของความหนักใจ มาจากการที่ทุกอย่างขึ้นราคา 80.97%
“คุ้มค่า” ตอบโจทย์ Value for Money
ขณะที่โลตัสมีความมุ่งหมายในการมอบประสบการณ์แบบสมาร์ทช้อปปิ้ง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและอนาคตได้ตรงจุด โดยเฉพาะการส่งมอบสินค้าที่มีความ Value for money ทั้งความคุ้มค่าในเรื่องของการได้รับสินค้าคุณภาพตามมาตรฐาน รวมทั้งความคุ้มค่าจากราคาที่ต้องจ่าย เพื่อเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยที่สามารถเข้ามาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของลูกค้าในแต่ละวัน จึงได้นำเสนอทางเลือกด้วยสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” ซึ่งมีสินค้าทั้งของกินและของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเกือบ 100 รายการ นำมาจำหน่ายให้ลูกค้าโลตัสสามารถไปซื้อกันได้ทุกวัน ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ด้วย
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า สินค้าภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” จากโลตัส ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน รวมไปถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อยต่างๆ จากการที่โลตัสได้คัดสรรสินค้าในกลุ่มของกินของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสินค้าที่เป็นวัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพของร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งสิ้น 95 รายการ มาจำหน่ายผ่านช่องทางของโลตัสในทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพดี ในราคาคุ้มค่าได้อย่างครอบคลุม โดยมีราคาเริ่มต้น เพียงแค่ 8 บาทเท่านั้น อาทิ คุ้มค่าน้ำยาล้างจานกลิ่นมะนาว 400 กรัม ราคา 8 บาท, คุ้มค่าซอสพริกศรีราชา 750 กรัม ราคา 20 บาท , คุ้มค่า ซอสหอยนางรม 1 กก. ราคา 24 บาท, คุ้มค่าไส้กรอก 1 กก. ราคา 69 บาท, คุ้มค่าผงซักฟอก 2,700 กรัม ราคา 89 บาท, คุ้มค่ากระดาษชำระ 24 ม้วน ฟรี 6 ม้วน ราคา 93 บาท, คุ้มค่าข้าวเสาไห้ 35% 5 กก. ราคา 95 บาท, คุ้มค่า น้ำจิ้มไก่ 3.5 กก. ราคา 105 บาท และ คุ้มค่า ลูกชิ้นหมูผสมไก่ 900 กรัม ราคา 119 บาท เป็นต้น
“ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันประกอบกับการปรับขึ้นราคาสินค้า ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งโลตัสตระหนักถึงความกังวลของผู้บริโภค จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่ต้องการลดผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาสินค้าให้มีค่าใช้จ่ายที่ลดลง รวมทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ให้สามารถควบคุมต้นทุนสินค้าเพื่อสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เนื่องจากความหลากหลายของสินค้าแบรนด์ “คุ้มค่า” ครอบคลุมเกือบทุกหมวดหมู่ที่มีความจำเป็น สำหรับใช้ในครอบครัวหรือเป็นวัตถุดิบที่ผู้ประกอบการรายย่อยจำเป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่าแบรนด์ทั่วไปในตลาดค่อนข้างมาก ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุน ทำให้ผู้ประกอบการมีผลกำไรจากการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปลงทุนต่อเนื่องหรือดูแลครอบครัวได้เพิ่มมากขึ้น”
สร้างคุณค่าร่วม ตลอด Supply Chain
ที่ผ่านมา สินค้าภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” ไม่เพียงแค่เป็นประโยชน์ต่อส่วนที่อยู่ปลายน้ำของห่วงโซ่อย่างผู้บริโภค หรือกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยท่านั้น แต่ยังสามารถสร้าง Value ส่งต่อกลับไปให้ยังฟากฝั่งในกลุ่มต้นน้ำของ Supply chain ได้ด้วย เนื่องจากซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตสินค้าให้แบรนด์คุ้มค่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการคนไทยในกลุ่ม SME ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น การเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ภายใต้แบรนด์คุ้มค่า จึงไม่เพียงแค่ประหยัดเงินในกระเป๋าตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยหลายๆ ราย พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศไทยในภาพรวมได้อีกทางหนึ่งด้วย รวมไปถึงการเป็นอีกหนึ่งส่วนที่เข้ามาเติมให้ Ecosystem ในกลุ่มธุรกิจรายกลางและเล็กของคนไทยมีความสมบูรณ์เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้คุ้มค่าจะเป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่ทางโลตัสเป็นเจ้าของเอง แต่โลตัสก็ยังให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์จากการช้อปปิ้งที่หลากหลาย เพื่อเติมเต็มความต้องการลูกค้าได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดีทุกครั้งที่มาใช้บริการ ดังนั้น ลูกค้ายังคงสามารถซื้อสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ในทุกกลุ่มสินค้าที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน โดยแบรนด์คุ้มค่า เป็นเพียงการนำเสนออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาสินค้าคุณภาพ ในราคาที่คุ้มค่าเพิ่มขึ้นเท่านั้น พร้อมทั้งตอกย้ำความสามารถในการเข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยแก้ปัญหา รวมไปถึงมีส่วนช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ลูกค้าได้ครอบคลุมครบทุกด้านนั่นเอง