ข่าวช็อกวงการบันเทิงวันนี้ จากค่าย “นาดาวบางกอก” เป็นบริษัทในเครือ GDH ทำหน้าที่พัฒนาและดูแลศิลปิน รวมถึงเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร และผลงานเพลงต่าง ๆ ซึ่งก่อตั้งโดย “ทรงยศ สุขมากอนันต์” เปิดตัวเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ล่าสุดนาดาว บางกอก ได้ประกาศยุติทุกบทบาทตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ปิดฉากการทำงาน 12 ปี
วันนี้ (10 พ.ค.2565) เฟซบุ๊ก Nadao Bangkok ได้โพสต์แถลงการณ์ของ “ทรงยศ สุขมากอนันต์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด แจ้งให้ทราบว่า บริษัทจะยุติบทบาท การเป็นบริษัทพัฒนา และดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565
ตลอดระยะเวลา 12 ปี ของ นาดาวบางกอก หน้าที่หลักๆ ของพวกเราคือ การพัฒนาและดูแลศิลปิน โดยมีความตั้งใจในการค้นหา พัฒนา และการดูแลให้เกิดนักแสดงหรือศิลปิน ที่มีความสามารถ มีคุณภาพในทุกด้าน เพื่อที่จะเป็นทางเลือกใหม่ๆ และสร้างความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
โดยมีงานเสริมที่ตามมา คือ การผลิตซีรีส์ ละคร และผลงานเพลง ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อสร้างงาน และสร้างโอกาสให้นักแสดง หรือศิลปินในสังกัดได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นพื้นที่ฝึกฝนฝีมือ และประสบการณ์ ในส่วนนี้ ทำให้เราได้มีโอกาสสร้างคนทำงานเบื้องหลังรุ่นใหม่ๆตามมาด้วย
พวกเราชาว นาดาวบางกอก รู้สึกขอบคุณพี่ๆ น้องๆในอุตสาหกรรมบันเทิง ผู้ใหญ่ที่เคารพทุกท่าน พาร์ทเนอร์ที่คอยสนับสนุน และอยู่เคียงข้างเรามาตลอด พี่ๆน้องๆสื่อมวลชน ที่ให้โอกาสศิลปิน นักแสดง และผลงานนาดาวบางกอก ได้มีพื้นที่แนะนำตัว และประชาสัมพันธ์ รวมถึงแฟนๆทุกคนที่ติดตาม และให้การสนับสนุนศิลปิน และผลงานของนาดาวเสมอมา เราคงไม่สามารถดำเนินการจนถึงปีที่สิบสอง โดยขาดการสนับสนุนจากทุกคน นาดาว บางกอก ขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง
มาถึงวันนี้ ศิลปิน นักแสดง นาดาวบางกอกหลายคน ล้วนเติบโตพอที่จะตัดสินใจในเรื่องหน้าที่การงาน เลือกวิธีการดูแล และเส้นทางในอนาคตด้วยตัวเอง รวมถึงพี่ๆ ที่นาดาวหลายคน ก็มีเป้าหมายในชีวิตที่จะไปต่อแตกต่างกันไป จึงถึงเวลาอันสมควรแล้ว ที่นาดาวบางกอก จะขอยุติบทบาทการพัฒนา และดูแลศิลปิน รวมถึงการผลิตละครซีรีส์ และผลงานเพลงภายใต้ชื่อบริษัทนาดาวบางกอกและนาดาวมิวสิค
อาจฟัง ดูเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหัน แต่ภายในเราปรึกษาเรื่องนี้มาสักระยะ และเป็นเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ ศิลปินนาดาวบางกอกหลายๆคน ที่พร้อมไปดูแลตัวเอง ทยอยออกไปเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตัวเองกันแล้ว
นี่ไม่ใช่การกล่าว ลา เพื่อการสิ้นสุดลง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีอิสระเพื่อเติบโต และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตัวเอง งานต่างๆที่เริ่มต้นค้างไว้ในชื่อ นาดาวบางกอก เช่นซีรีส์ จะถูกส่งต่อไปยังโปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับ ให้ไปทำต่อบนการตัดสินใจของพวกเขาเอง ส่วนงานเพลงก็จะดำเนินการต่อไปในนามของศิลปินคนนั้นๆ และน้องๆ นักแสดงแต่ละคนจะถูกพาไปแนะนำในสายงานที่เขาสนใจ
ฝากติดตามและให้กำลังใจก้าวต่อไปของพวกเราทุกคนด้วย และขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา
ตัวอย่างผลงานโดดเด่นนาดาวบางกอก
– ปี 2556 ผลิตซีรีส์เรื่องแรกคือ Hormones วัยว้าวุ่น ออกอากาศทางช่องวัน
– ปี 2557 ผลิตซีรีส์เรื่อง Hormones วัยว้าวุ่น Season 2
– ปี 2558 ผลิตซีรีส์เรื่อง STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ
– ปี 2559 ผลิตมินิซีรีส์เรื่อง I Hate You, I Love You
– ปี 2560 ผลิตละครชุดเรื่อง โปรเจกต์ เอส เดอะซีรีส์
– ปี 2561 ผลิตละครแนวสืบสวนสอบสวนเรื่อง เลือดข้นคนจาง
– ปี 2562 ผลิตซีรีส์ Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ และละครทีวีเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน สร้างผลงานเพลงแรกคือ “รักติดไซเรน” จัดตั้ง “นาดาวมิวสิค”
– ปี 2563 ผลิตซีรีส์เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ
– ปี 2564 ผลิตซีรีส์ภาค 2 เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ และ Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก
ตัวอย่างศิลปินในสังกัดราว 30 คน
– ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ซันนี่)
– ธนภพ ลีรัตนขจร (ต่อ)
– พาริส อินทรโกมาลย์สุต (ไอซ์)
– พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล (บิวกิ้น)
– กฤษฏ์ อำนวยเดชกร (พีพี)
– ธิติ มหาโยธารักษ์ (แบงค์)
– โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ (โอบ)
– วงศ์รวี นทีธร (สกาย)
– เขมิศรา พลเดช (เบลล์)
อดีตศิลปินในสังกัดนาดาว
– ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ (เจมส์)
– ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ (แพรวา)
– ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล (ฝน)
– กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม (เจเจ)
– กัญญาวีร์ สองเมือง (ต้าเหนิง)
ย้อนดูรายได้นาดาวบางกอก
– ปี 2559 รายได้ 165 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17 ล้านบาท
– ปี 2560 รายได้ 198 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท
– ปี 2561 รายได้ 246 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท
– ปี 2562 รายได้ 329 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้ 313 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29 ล้านบาท
การประกาศยุติบทบาท “นาดาวบางกอก” เป็นการ “ปิดตัวบริษัท” ที่ทำหน้าที่พัฒนาและดูแลศิลปิน ผู้ผลิตซีรีส์ ละคร และผลงานเพลงตลอดระยะเวลา 12 ปี ในการสร้างศิลปินคนรุ่นใหม่ประดับวงการบันเทิง ซึ่งยังคงติดตามบทบาทของแต่ละคนได้ต่อไปในเส้นทางใหม่ๆ ของพวกเขา