หลังจากกรมสรรพากร ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service: VES) ที่ให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียน VES รวม 127 ราย และมียอดมูลค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวม 60,874 ล้านบาท คิดเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บสะสม 6 เดือน (เดือนตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) รวมทั้งสิ้น 4,261 ล้านบาท
โดยคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2565 กรมสรรพากรจะเก็บ VES ได้ใกล้เคียง 10,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท
สรุปการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแยกตามประเภทแพลตฟอร์มและบริการ 6 เดือนแรกดังนี้
– โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) มูลค่า 38,421 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,689 ล้านบาท
– ขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) มูลค่า 15,904 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,113 ล้านบาท
– บริการสมาชิก เพลง หนัง เกมส์ (Subscription) มูลค่า 5,718 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 500 ล้านบาท
– แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลาง (Peer to Peer) มูลค่า 528 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 37 ล้านบาท
– แพลตฟอร์มจองที่พัก ตั๋วเดินทาง (Online Travel Agency) มูลค่า 301 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 21 ล้านบาท
รวมมูลค่า 60,874 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,261 ล้านบาท
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าการจัดเก็บภาษี e-Service ซึ่งเป็นภาษีประเภทใหม่ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้ครึ่งแรกของปีงบประมาณ (เดือนตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) ได้เกินเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ จำนวน 101,695 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14% อีกส่วนมาจากเครื่องมืออื่น ๆ เช่น data analytics ซึ่งนำมาใช้เต็มรูปแบบทำให้สามารถระบุกลุ่มสาขาเป้าหมายที่มีศักยภาพได้เพิ่มเติมและตรงเป้ามากขึ้น