Creative Juice ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 และหลังจากนั้นไม่นาน ก็รวมตัวกับ TBWA บริษัทโฆษณาชั้นนำระดับโลก จึงได้รีแบรนด์เป็น Creative Juice\G1 ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการโฆษณาไทย จากการสร้างแบรนด์ไทยและต่างชาติที่ประสบความสำเร็จจนคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ต่อมาได้รีแบรนด์อีกครั้งเป็น Creative Juice\Bangkok มาจนถึงปัจจุบัน และพร้อมสร้างสรรค์ผลงานสร้างแรงกระเพื่อมกับอุตสาหกรรมโฆษณาอีกครั้ง
ยุคใหม่ของ Creative Juice\Bangkok
ก้าวต่อไปของ Creative Juice\Bangkok ภายใต้การนำทัพ คุณหนึ่ง-อัศวิน พานิชวัฒนา Chief Creative Officer คนใหม่ ผู้คร่ำหวอดในวงการโฆษณามากว่า 20 ปี คว้ารางวัลจากการประกวดระดับโลกมากกว่า 200 รางวัล จากผลงานโฆษณาที่สร้างการจดจำให้กับแบรนด์มาแล้วมากมาย นอกจากนั้นยังได้รับเกียรติเป็นกรรมการตัดสินรางวัลจากการประกวดทั่วโลก พร้อมปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก หรือ B.A.D Association ผนึกกำลังเสริมความแข็งแกร่งกับ คุณเก๋-กนกศักดิ์ กาญจนจูฑะ General Manager ที่เน้นด้านงานบริหารองค์กรและดูแลลูกค้า นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตาของวงการโฆษณาไทยอีกครั้ง
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ทำงานกับ Legend ในวงการมากมายหลายคนซึ่งผมได้เรียนรู้และนำสิ่งดีจากทุกๆ คนมาปรับใช้ในชีวิตการทำงาน และยังได้เห็นจุดที่น่าจะปรับปรุงในระบบการทำงานของวงการ เพื่อตอบโจทย์แบรนด์ในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆ วันให้ดียิ่งขึ้น ไม่ได้โฟกัสเพียงแค่การคิดงานครีเอทีฟ แต่ผมอยากสร้างสรรค์ระบบการทำงานที่ผลลัพธ์คือความสุขแก่ทั้งผู้บริโภค ลูกค้า และทีมงาน” คุณหนึ่ง-อัศวินกล่าว
เปลี่ยนวิธี “คั้น” ไอเดีย ครีเอทีฟที่ดีต้อง “ขายของ” ได้ด้วย
จุดแข็งหนึ่งของ Creative Juice\Bangkok คือการเป็นเอเจนซี่พี่น้องในเครือเดียวกันกับ TBWA เอเจนซี่ชื่อดังของโลกและในไทย ซึ่งโดดเด่นในความเป็นครีเอทีฟเอเจนซี่ที่เน้น Disruption จนมีแท็กไลน์ของบริษัทว่า The Disruption® Company โดยแผนการของคุณหนึ่ง-อัศวิน ในการจะ Disrupt ระบบการทำงานในวงการโฆษณาไทย คือการปรับเพื่อสามารถสร้างสรรค์งานที่ผู้บริโภคชอบงาน ลูกค้าขายของได้ และทีมงานสนุกตื่นเต้นกับงาน ทุกฝ่ายมีความสุขแบบ วิน-วิน-วิน และทำให้เห็นว่า Creative grows business ได้จริงๆ
จากการที่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปไวมาก ขั้นตอนที่กระชับและการเลือกวางทีมที่เหมาะกับโจทย์ที่แตกต่างกันในแต่ละบรีฟเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยให้สามารถคั้น brand solutions ที่เข้มข้น สดใหม่ และมีประสิทธิภาพ
“ระบบที่ผมจะทำครีเอทีฟจะเข้าไปฟังบรีฟแต่ต้นทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงโจทย์ได้ทันทีและสามารถคิดโซลูชั่นที่ Diversified ได้อย่างทันสถานการณ์นอกจากนั้นเราจะเอาโจทย์ไปปรึกษากับ Expertise ในสายงานนั้นๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลและความเข้าใจในเชิงลึกจากผู้รู้จริงเพื่อนำมาใช้ในการคิดงานที่ผู้บริโภคจะอินกว่าโดนใจกว่า รู้สึกว่าแบรนด์นี้เข้าใจ และกำลังพูดคุยกับเขา ยกตัวอย่างเช่น มีงานหนึ่งที่เราทำเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ผมก็ขอลูกค้าเอาไปปรึกษาพูดคุยกับ ผู้ป่วย หมอ และคนทำงานในนั้นก่อน เราอยากสร้าง Value ร่วมกันระหว่างลูกค้าที่สามารถส่งต่อไปสู่สังคมที่เรากำลังสื่อสารอย่างยั่งยืนด้วย” คุณหนึ่ง-อัศวินอธิบาย
คุณเก๋ได้เสริมว่า “ในโลกในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันและเวลาที่จำกัด เราจึงมีความต้องการที่จะปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เหมาะสมโดยเมื่อเราได้รับโจทย์จากทางลูกค้าเราเอาผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็น Core Member ของโปรเจ็กท์นั้น ๆ เข้ามานั่งคุยกันว่าเราจะไปในทิศทางไหนทำความตกลงร่วมกันเพื่อให้เห็นภาพเดียวกันเห็นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่แรกด้วยกันก่อนที่จะแยกไปทำงานให้ได้ตามผลลัพธ์หรือเป้าหมายนั้น ๆ ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหลงทางหรือเสียเวลา เพื่อที่เราจะได้ชิ้นงานทีแม่นยำตอบโจทย์ลูกค้าใช้เวลากระชับขึ้น ซึ่งดีกับทั้งลูกค้าและคนที่ทำงานในโปรเจ็กท์นั้น ๆ”
นอกเหนือจากระบบการทำงานแล้ว “ความสุข” ของพนักงาน ก็เป็นอีกประเด็นที่เอเจนซี่แห่งนี้ใส่ใจและมุ่งมั่นอยากสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อกับการสร้างสรรค์งาน
“เราเชื่อว่าถ้าพนักงานมีความสุข สนุกตื่นเต้นกับการทำงาน ก็มักจะได้งานที่ดี” หัวเรือใหญ่ทั้งสองกล่าว
ปัจจุบัน Creative Juice\Bangkok มีพนักงานประมาณ 15-20 คน ผู้บริหารทั้งสองเชื่อว่า เมื่อกระบวนการทำงานส่งเสริมผลลัพธ์ที่ดี ก็จะเกิด Ripple Effect จะดึงดูดให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาสู่วงการโฆษณาไทยมากขึ้น นอกจากความเป็น Disruption Company แล้ว ทาง TBWA ก็จะมี Tools, Data และเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมให้ Creative Juice\Bangkok ใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและแบรนด์
“สังเกตไหมว่า เวลาที่ครีเอทีฟได้รางวัล เราขอบคุณลูกค้าก่อนเลย เพราะส่วนใหญ่งานที่ดีคืองานที่ลูกค้ากล้าทำไปกับเราจากประสบการณ์ในวงการนานหลายปี ผมพบว่างานที่ได้รางวัลก็จะเป็นงานที่สร้างการจดจำหรือขายของให้กับลูกค้าได้ด้วย เพราะนั่นหมายถึงคนชอบงานเรา หรือเรียกว่าดังในหมู่ชาวบ้านนี่แหละ ดังนั้นผมบอกเลยว่าผมชอบงานขายของ และCreative ที่ดีต้องขายของได้ด้วย”
“ส่วนเราเอง เราก็ต้องกล้าแนะนำลูกค้าด้วยความจริงใจ พูดตรงๆด้วยเหตุผล เพราะเราก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด การที่จะรับงานเพียงเพราะอยากได้เงินจากลูกค้าแล้วก็ทำๆ ไปมันง่าย แต่มันไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับงาน เอเจนซี่ของเรา หรือแบรนด์ของลูกค้าในระยะยาว เรามีความตั้งใจ แล้วอยากให้เกิดความประทับใจร่วมกันทั้งบริษัทเราและบริษัทลูกค้า เราอยากให้ลองเข้ามาคุยกับเราก่อนว่ามีเคมีมีความเข้าใจที่ตรงกันไหม มาลอง Materialใหม่ๆ จากร้านน้ำผลไม้คั้นไอเดียร้านนี้ที่เราตั้งใจจะสานต่อความเป็น Creative Juice” คุณหนึ่ง ปิดท้าย