“ฟุตบอล” นับเป็นหนึ่งในกีฬามหาชนของคนไทยมานาน และในปัจจุบันมีเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถ และฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่การจะก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพนั้น ลำพังความฝันอย่างเดียวอาจจะไม่พอ จำเป็นต้องมีการฝึกซ้อม รวมถึงอุปกรณ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อใช้ในการฝึกฝนและสร้างทักษะการเล่นด้วย ส่งผลให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นหลายองค์กรออกมาแสดงพลังในการสนับสนุนศักยภาพเด็กไทยด้านกีฬาฟุตบอลกันเป็นจำนวนมาก
แต่หนึ่งในโครงการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง และเกิดประสิทธิผลมากที่สุดโครงการหนึ่งขององค์กรเอกชนไทยคือ โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งปีนี้เดินหน้ามาเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยเริ่มคิกออฟปล่อยขบวนคาราวานที่โรงเรียนอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี แจกลูกฟุตบอลมาตรฐานถึงมือเด็กๆ ในทุกพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วไทย ลูกฟุตบอลกลมๆ เล็กๆ เหล่านี้สามารถสานฝัน สร้างแรงบันดาลให้เด็กไทยก้าวสู่นักเตะอาชีพมาจนถึงทุกวันนี้อย่างไร Brand Buffet พามาหาคำตอบ พร้อมการต่อยอดขยายพื้นที่มอบลูกฟุตบอลไกลกว่าเดิมเพื่อมอบความสุขให้กับเด็กไทยครอบคลุมทุกพื้นที่ยิ่งขึ้น
4 ปี 7 แสนลูก บทพิสูจน์การสานฝันเด็กไทยสู่นักเตะอาชีพ
ธุรกิจที่สร้างรายได้และทำให้ชื่อ “คิง เพาเวอร์” เป็นที่รู้จักของนักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างประเทศก็คือ ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีและอากร (Duty Free) จนกระทั่งเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว คิง เพาเวอร์ ได้ปรับโฉมคิง เพาเวอร์ รางน้ำ ครั้งใหญ่ ให้เป็น “ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับโลก” ที่เป็นมากกว่าศูนย์รวมสินค้าปลอดอากรภาษี ตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างอาคารใหม่ทั้งภายนอกและภายในอย่างโดดเด่น ตลอดจนนำร้านค้าและแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำของไทยและระดับโลกมารวบไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเอาใจเหล่านักช็อปและนักกินทั้งของไทยและต่างประเทศ
นอกจากมิติด้านธุรกิจที่โดดเด่นแล้ว อีกสิ่งที่ คิง เพาเวอร์ให้ความสำคัญมากขึ้นก็คือ การตอบแทนสิ่งดีๆ คืนสังคม (CSR) เพราะเชื่อในเรื่องการให้ “โอกาส” และมั่นใจว่าคนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก โครงการเพื่อสังคม KING POWER THAI POWER พลังคนไทย จึงเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2560 ผ่านกิจกรรมใน 3 ด้านหลัก คือ กีฬา (Sport Power) ชุมชน (Community Power) และดนตรี (Music Power)
สำหรับการสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬา คิง เพาเวอร์ มุ่งส่งเสริมทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเยาวชนไทย ผ่านการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และมอบลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับโรงเรียนและชุมชนต่างๆ เพราะเล็งเห็นว่าอุปกรณ์ฟุตบอลอย่างสนามและลูกฟุตบอลมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยพัฒนาฝีมือ เพื่อต่อยอดสู่การเป็นกีฬาอาชีพต่อไป
แต่ต้องยอมรับว่า ลูกฟุตบอลดีๆ นั้นราคาค่อนข้างสูง ทำให้เป็นอุปสรรคในการฝึกซ้อมของเด็กๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด และเป็นจุดเริ่มต้นให้ คิง เพาเวอร์ ผุดโครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” เพื่อแจกลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับโรงรียนต่างๆ ทั่วประเทศไทย
“ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราส่งมอบลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับเยาวชนและชุมชนต่างๆ ไปกว่า 700,000 ลูก ใน 3,644 โรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้น เราได้เห็นน้องหลายคนได้นำลูกฟุตบอลไปฝึกฝนทักษะและพัฒนาฝีมือการเล่น จนได้รับทุนการศึกษาในโควตานักกีฬา รวมถึงเป็นสมาชิกสโมสรชั้นนำในระดับจังหวัดและระดับประเทศ” คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เล่าถึงความภาคภูมิใจ
“ล้านลูก ล้านพลัง ปี 5 ลุยแจกในพื้นที่ห่างไกลกว่าเดิม
จากผลสำเร็จตลอด 4 ที่ผ่านมา ทำให้ คิง เพาเวอร์ เดินหน้าส่งขบวนคาราวานแจกลูกฟุตบอลมาตรฐานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อผลักดันให้เด็กไทยที่มีหัวใจรักกีฬา ได้มีโอกาสรับลลูกฟุตบอลไปใช้ฝึกฝน พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอล สู่นักเตะอาชีพเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นส่วนเล็กๆ ในการเติมรอยยิ้ม และความสุขให้เด็กไทย โครงการในปีนี้จึงได้ขยายพื้นที่มอบลูกฟุตบอลไกลกว่าเดิม ถึงพื้นที่ห่างไกลบริเวณชายแดนในภูมิภาคต่างๆ โดยเริ่มคิกออฟที่โรงเรียนอินทร์บุรี บ้านสวนหลวง ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมี 2 นักฟุตบอลอาชีพระดับตำนานของเมืองไทยอย่าง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย และ “เบนซ์” พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ มารับหน้าที่เป็นโค้ชจัดฟุตบอลคลินิก ถ่ายทอดความรู้และทักษะการเล่นฟุตบอลแบบมืออาชีพให้กับเยาวชนไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เยาวชนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปฝึกฝนฝีมือ รวมถึงต่อยอดความฝันสู่การเป็นนักเตะมืออาชีพต่อไป
ด้าน ลีซอ-ธีรเทพ วิโนทัย ตำแหน่งกองหน้า ทีมชาติไทย และกัปตันสโมสรโปลิศ เทโร บอกว่า ลูกฟุตบอลมาตรฐานจะช่วยส่งเสริมให้น้องๆ เตะฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะลูกฟุตบอลจากโครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ทั่วโลกใช้ในการแข่งขันจริง ซึ่งวันนี้ดีใจที่ได้เห็นเยาวชนไทยมีความสนใจ และมุ่งมั่นกับการเล่นกีฬาฟุตบอล เพราะหนทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย ขอให้น้องๆ ขยันฝึกซ้อม ทุ่มเท และมีระเบียบวินัย
ขณะที่ เบนซ์-พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ อดีตมิดฟิลด์สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บอกว่า พื้นฐานของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต้องมีจิตใจมุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอล ไม่วอกแวกกับสิ่งเร้าต่างๆ และเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักเตะ มากกว่าผลของการแข่งขัน รู้แพ้รู้ชนะ ทั้งนี้ การได้เรียนรู้ทักษะที่ถูกต้องจากโค้ชมืออาชีพ ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีและช่วยให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนาอีกขั้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดรวมถึงประเทศชาติต่อไป
