หลังจากเจ้าพ่อละครเวที คุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ส่งไม้ต่อให้ คุณเอ็ดดี้-จิณณวัตร สิริวัฒน์ เข้ามานั่งเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด และโรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ในปี 2563 แต่ก็ต้องมาเจอกับสถานการณ์โควิดพอดี แน่นอนว่า “ละครเวที” ได้รับผลกระทบเต็มๆ ตลอด 2 ปีโควิดไม่สามารถจัดงานโชว์ Live & Performance
เมื่อต้องสะดุดกับโควิด แม่ทัพใหม่ปรับบิสซิเนส โมเดลทันที ตลอด 2 ปีนี้ ได้ผลักดันให้ “ซีเนริโอและโรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์” เดินหน้าต่อภายใต้คอนเซ็ปต์ “มีมากกว่าละครเวที” ให้บริการครอบคลุมครบทุกด้านแบบ Full Service ตอบโจทย์แบรนด์ด้วย Marketing Solution ขยายธุรกิจใหม่ ผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ ออร์แกไนเซอร์ บริหารศิลปิน เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่
มาอัพเดทการปรับบิสซิเนส โมเดลใหม่และแผนธุรกิจ “ซีเนริโอ” ปี 2565 หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ว่ามีทิศทางอย่างไรกับ “คุณเอ็ดดี้ จิณณวัตร”
รายได้หลักหาย ขยายธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์
ก่อนโควิดธุรกิจหลักของซีเนริโอ คือ การจัดแสดงโชว์ ละครเวที ละครเพลง (Musical) ปีละ 3-4 เรื่อง ประมาณ 60-70 รอบต่อปี นำเข้าโชว์จากต่างประเทศ ปีละ 2 โชว์ 30-40 รอบต่อปี โดยมีรายได้จากการขายตั๋วเข้าชม 80% และสปอนเซอร์ 20% เมื่อเกิดโควิดในปี 2563 ไม่สามารถจัดโชว์ได้ รายได้จากการขายตั๋วจึงหายไปทั้งหมด
สถานการณ์โควิดทำให้ต้องปรับตัวขยายธุรกิจใหม่ เริ่มด้วย ผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ และขยายดิจิทัล แพลตฟอร์ม Scenario & Rachadalai ผ่านโซเชียล มีเดีย ทั้งเฟซบุ๊กและยูทูบ เพื่อขยายฐานแฟน
คอนเทนต์ออนไลน์ที่เริ่มผลิตรายการแรกคือ “เจ๊คิ้มกินรอบวง” มีคุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม มาเป็นพิธีกรหลัก เป็นรายการวาไรตี้ คอนเซ็ปต์ “กิน ทอล์ค ร้องเพลง” มียอดผู้ชมทะลุล้านวิวตั้งแต่ EP2 ปัจจุบันผลิตมาถึง EP96 เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากธุรกิจอาหารและ FMCG (สินค้าอุปโภคบริโภค) เข้ามาเป็นสปอนเซอร์จำนวนมาก
รายการที่ 2 “คุณหมอขาฉีดยาหนูหน่อย” พิธีกร “ออฟ-ปองศักดิ์และปิงปอง-ธงชัย ทองกันธม” รายการวาไรตี้พูดคุยกับ “คุณหมอ” ในแขนงต่างๆ ที่จะมาให้ความรู้ในแต่ละด้าน
รายการที่ 3 “ขอข้าวกินหน่อย” พิธีกร “แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์และนุ้ย-สุจิรา” รายการวาไรตี้พูดคุยสารพัดเรื่องและโชว์ฝีมือการทำอาหารของสองพิธีกร
รายการล่าสุด Fake or Not? พิธีกร “ป้าตือ สมบัษรและลูกเกด เมทินี” รายการวาไรตี้จับโป๊ะคนโกหก จากเรื่องราวของแขกรับเชิญคนดัง
ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ โดยกว่า 80-90% มียอดทะลุ 1 ล้านวิว เกือบทุก EP โดยฐานแฟนจากโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มมีจำนวนกว่า 2 ล้านคน ปีนี้ซีเนริโอ มีแผนจะขยายรายการคอนเทนต์ออนไลน์อีก 1-2 รายการ
การปรับตัวช่วงโควิดหาโอกาสใหม่จากคอนเทนต์ออนไลน์ ทำให้รายได้จากสปอนเซอร์ เติบโต 200% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
เปิดบริการ Marketing Solution เครื่องมือการตลาดแบรนด์
หลังจากธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์ได้รับการตอบรับดีจากสปอนเซอร์ จากวิธีการเล่าเรื่องที่เข้าใจแบรนด์และอินไซต์ผู้บริโภค จึงต่อยอดขยายโมเดลธุรกิจใหม่ให้บริการ Marketing Solution ใช้จุดแข็งของซีเนริโอ ด้าน Creativity, Content Provider และ Communication มาทำการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ครอบคลุมการคิดกลยุทธ์ ครีเอทีพไอเดีย ผลิตคอนเทนต์ มีเดียแพลนเนอร์ อีเวนท์ บริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้แบรนด์ต่างๆ และพาร์ทเนอร์ เลือกใช้บริการเพื่อเป็นเครื่องมือการตลาดทั้งสร้างการรับรู้และยอดขายแบบจบที่เดียว
ที่ผ่านมามีทั้งลูกค้าภาครัฐ และเอกชน มาใช้บริการ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กับโปรเจกต์ “New Gen Hug บ้านเกิด” ซีเนริโอได้ร่วมมือกับช่อง One31 สร้างรายการเรียลลิตี้ ค้นหาเกษตรกรคนรุ่นใหม่ การจัดกิจกรรม “เปาวินวอช Blue Active Fresh” ใจกลางสยามแสควร์ พร้อม LIVE stream เพื่อช่วยให้แบรนด์สร้าง Customer Experience กับผู้บริโภค และสร้าง Brand loyalty ให้กับผลิตภัณฑ์
แตกธุรกิจใหม่ “ออร์แกไนเซอร์-บริหารศิลปิน”
ทิศทางธุรกิจในปี 2565 สถานการณ์โควิดคลี่คลาย องค์กรและแบรนด์ต่างๆ เริ่มกลับมาทำกิจกรรมการตลาดอีกครั้ง ปีนี้ซีเนริโอได้ขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม คือเป็น “ออแกไนเซอร์” จัดอีเวนท์เต็มตัว โดยมีพื้นฐานและความเชี่ยวชาญจากการจัดงานโชว์ Live & Performance ได้จัดอีเวนท์ “วันผู้สูงอายุ” ให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งแบรนด์ “คาโอ” ไปแล้ว ปัจจุบันมีลูกค้าจ้างทำอีเวนท์แล้ว 3-4 บริษัท
อีกธุรกิจใหม่ คือ “การบริหารศิลปิน” (Scenario the Artist) จากเทรนด์การตลาด Influencer และ KOL ที่เป็นมีเดียและเครื่องมือสื่อสารแบรนด์มาแรงในยุคนี้ ขณะที่ซีเนริโอมีจุดแข็งการพัฒนาความสามารถนักแสดงละครเวทีในด้านต่างๆ อยู่แล้ว ทั้ง การแสดง ร้องเพลง การเต้น ปัจจุบันมีอินฟลูเอนเซอร์ในสังกัดกว่า 30 คน
ทีมอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มแรก คือ “ทีมหมอหล่อซีเนริโอ” ราว 10 คน เป็นการต่อยอดดึงคุณหมอ ที่มาออกรายการ “คุณหมอขาฉีดยาหนูหน่อย” มาพัฒนาความสามารถในแต่ละด้าน ปัจจุบันคุณหมอบางคนมีผลงานการแสดงกันบ้างแล้ว รวมทั้งงานถ่ายแบบ เดินแบบ เช่น ทพ.ตินน์ ณภิภพ (หมอต้นตินน์) ทันตแพทย์, นพ.ธนพล นภาวรรณ (หมอตาตั้ม) เวชปฏิบัติทั่วไป, นพ.ธนดล วงศ์สอาดสกุล (หมอโอ๊บ) แพทย์เวชศาสตร์ สถาบันโรคทรวงอก, นพ.สิระ กอไพศาล (หมอปิแอร์) อายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลรามาธิบดี
การพัฒนา Influencer และ KOL ในกลุ่มคุณหมอ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ดูแลสุขภาพและความงาม เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงในช่วงโควิดและหลังโควิด ทำให้สินค้าในกลุ่ม Health & Beauty ต้องการทำการตลาดและสื่อสารผ่านผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น
การพัฒนาอินฟลูเอนเซอร์และ KOL กลุ่มต่อไปคือ นักร้องประสานเสียง ซึ่งเป็นบุคลากรที่ละครเวทีต้องการอยู่แล้ว แต่จะต่อยอดกลุ่มนี้ให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์เพื่อใช้ความสามารถสื่อสารแบรนด์ กลุ่มแรกเป็นวงนักร้องประสานเสียงชาย 4 คน
ปั้นแบรนด์ละครเวที “เล่นใหญ่รัชดาลัย” จับกลุ่ม Gen Z
สำหรับธุรกิจหลัก “ละครเวที” และโชว์ ปีนี้ จะเริ่มกลับมาจัดครั้งแรกวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตเปิดม่านเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ เพลงอมตะจากละครเวทีตลอด 15 ปีที่ผ่านมา จากศิลปินจำนวนมาก จัด 2 รอบขายบัตรเข้าชม และมีรอบเหมา 1 รอบ และในเดือนกันยายนนี้ จะมีละครเวทีเรื่องแรก หลังหยุดจัดไปนานกว่า 2 ปีจากโควิด
จากนั้นในปี 2566 ละครเวทีจะกลับมาจัดปกติ 3 เรื่องต่อปี โชว์นำเข้าต่างประเทศ 1 โชว์ ปัจจุบันฐานผู้ชมละครเวทีและโชว์ กลุ่มหลักคือ Gen Y และ Gen X รวมกว่า 80%
ในช่วง 2 ปีโควิด ซีเนริโอที่ได้ปรับธุรกิจผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ และขยายดิจิทัล แพลตฟอร์มต่างๆ นำคอนเทนต์ละครเวทีเดิมไปเผยแพร่ทางทีวี ช่อง ONE31, ขายลิขสิทธิ์ให้ดิจิทัลแพลตฟอร์มนำไปเผยแพร่ ทำให้สร้างฐานแฟนละครเวทีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ที่มีไลฟ์สไตล์ออนไลน์ได้มากขึ้น
ปี 2565 จึงได้สร้างโปรดักท์แบรนด์ละครเวทีขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อ “เล่นใหญ่รัชดาลัย” เป็นโชว์แนวสนุกสนานเจาะกลุ่ม Gen Z เดือนกันยายนนี้ จัดเรื่องแรก “ลิขิตรักชิงบังลังก์” นำแสดงโดย “คริส พีรวัส” ที่มาแสดงละครเวทีเป็นครั้งแรก
ปกติ “ละครเวที” ราคาบัตรเข้าชมอยู่ที่ 700-5,000 บาทต่อที่นั่ง แต่หากเป็นละครเวทีแบรนด์ “เล่นใหญ่รัชดาลัย” ราคาบัตรเข้าชมจะถูกกว่า คือ อยู่ที่ 500-3,500 บาทต่อที่นั่ง เพื่อดึงกลุ่ม Gen Z นักเรียน นักศึกษา เข้ามาดูละครเวทีมากขึ้น หลังจากนี้จะวางไลน์อัพละครเวทีแบรนด์ “เล่นใหญ่รัชดาลัย” ไว้ที่ปีละ 1-2 เรื่อง
หลังจากปีนี้ ที่ละครเวที ธุรกิจหลักเริ่มกลับมาจัดแสดงได้ ซีเนริโอ คาดว่าสัดส่วนรายได้จะกลับมาอยู่ที่ 30% โดยธุรกิจใหม่ที่ขยายเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงโควิดยังเป็นรายได้หลัก 70%
ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับสู่ปกติ ธุรกิจหลัก (Core Business) การจัดแสดงละครเวทีและโชว์ต่างๆ จะกลับมาเป็นรายได้หลักด้วยสัดส่วน 60% และธุรกิจใหม่ (New Business) อยู่ที่ 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมและช่วยลดความเสี่ยงหากธุรกิจใดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเช่นโควิด
ถือว่าวิกฤติโควิดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ ซีเนริโอ มีโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ ที่กลายมาเป็นอีกแหล่งรายได้หลักในวันนี้