หลังจากนำร่องนำสินค้าแบรนด์ไทยยอดนิยมในกลุ่มลูกค้าต่างชาติบุกตลาดมาเลเซีย และไต้หวัน จนสร้างแบรนด์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมาแล้ว มาคราวนี้ บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ผนึกห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Takashimaya Transcosmos IC Japan Company Limited (TTICJ) ในเครือทาคาชิมายะ ต่อยอดนำผลิตภัณฑ์ 3 แบรนด์ไทย ได้แก่ แอ็บโซลูท สยาม (Absolute Siam) อีโค่โทเปีย (Ecotopia) และ ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) รุกตลาดประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้แบรนด์ไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก ทั้งยังเป็นการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น
ทำห้างยุคนี้ แม่เหล็กต้องดี ช่วยแบรนด์ขยายตลาด
หัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกยุคนี้ประสบความสำเร็จ นอกจากการมีแม่เหล็กที่จะดึงให้ผู้บริโภคอยากมาเดินศูนย์การค้าอยู่ตลอดเวลา และเมื่อมาแล้วรู้สึกคุ้มค่าและสนุกกับการใช้เวลาในห้างจนอยากกลับมาอีก การทำให้ผู้ค้ารายย่อยหรือแบรนด์สินค้าไทยเติบโต เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากแบรนด์เหล่านี้ไปต่อได้ ธุรกิจค้าปลีกย่อมเติบโตด้วยเช่นกัน
ดังนั้น หนึ่งในนโยบายของสยามพิวรรธน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงให้ความสำคัญกับการผลักดันแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ด้วยการผนึกพันธมิตรนำสินค้าไทยบุกตลาดต่างประเทศ เริ่มจากประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยไต้หวัน จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ล่าสุดจึงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Takashimaya Transcosmos IC Japan Company Limited (TTICJ) ในเครือทาคาชิมายะ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นำ 3 แบรนด์ไทยสยายปีกสู่แดนอาทิตย์อุทัยเป็นครั้งแรก
คุณอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ทำธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน โดย ทาคาชิมายะ เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยาม ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นแฟ้น โดย TTICJ ในเครือทาคาชิมายะ จะช่วยเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์อันยาวนานในตลาดญี่ปุ่น ในขณะที่ สยามพิวรรธน์จะนำความเชี่ยวชาญในการนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย ไปสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าชาวญี่ปุ่นและเพิ่มโอกาสให้สินค้าแบรนด์ไทยเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศได้มากขึ้น
พา 3 แบรนด์ไทยขยายฐานบุกแดนปลาดิบ
สำหรับสินค้า 3 แบรนด์ไทยที่จะบุกตลาดญี่ปุ่นครั้งนี้ คือ แอ็บโซลูท สยาม (Absolute Siam) อีโค่โทเปีย (Ecotopia) และ ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) โดยแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกัน และเป็นสินค้าจากฝีมือของคนไทยที่มีความเป็น อัตลักษณ์ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งชิ้นงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์ร่วมสมัยจากนักออกแบบไทยมากฝีมือ นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการในงาน Meetz STORE และงาน Asian Fair
โดยงาน Meetz Store เป็นวิวัฒนาการโชว์รูมสินค้าแบบออฟไลน์รูปแบบใหม่ ที่เชื่อมต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ (O2O) และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายได้จากทุกที่ทั่วประเทศ โดยมีการนำเสนอสินค้าหลากหลายที่ผ่านการคัดสรรจากบรรดานักสร้างสรรค์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา โดยจัดขึ้นที่ห้างทาคาชิมายะในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟชินจูกุ กรุงโตเกียว มีผู้โดยสารราว 3.6 ล้านคนต่อวัน จึงถือเป็นโอกาสที่จะดึงดูดผู้เข้าชมงาน และที่สำคัญ Meetz STORE ตั้งเป้าที่จะเจาะตลาดลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิกของทาคาชิมายะจำนวนกว่า 5.7 ล้านรายทั่วประเทศ
ส่วนงาน Asian Fair เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในแต่ละปี โดยจะจัดขึ้นที่ห้างทาคาชิมายะ เมืองนาโกยา ศูนย์กลางมหานครใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ในวันที่ 23-28 มิถุนายน 2565 ลูกค้าชาวญี่ปุ่นจะได้พบกับสินค้าหลากหลาย และคอลเลคชั่นสินค้าจากแบรนด์ที่รังสรรค์โดย สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นงานที่เหล่านักช้อปญี่ปุ่นตั้งตารอคอย หลังจากไม่สามารถเดินทางได้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของสยามพิวรรธน์ โดยมุ่งยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งอย่าง ทาคาชิมายะ และเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดสินค้าที่รังสรรค์โดยสยามพิวรรธน์ (Owned Brand) และแบรนด์ของคนไทยในต่างประเทศด้วยโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้สยามพิวรรธน์และพันธมิตรบรรลุผลประโยชน์ และสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต”
ถือเป็นโมเดลการสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างน่าสนใจ ซึ่งหลังจากนี้ เราคงจะได้เห็นแบรนด์ไทยไปเฉิดฉายในเวทีโลกอย่างสง่างาม ซึ่งจะสร้างทั้งรายได้และความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยอย่างมาก