เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่มักถูกจัดมาวัดฟอร์มกันอยู่บ่อยครั้งสำหรับเฟซบุ๊ก (Facebook) และติ๊กต่อก (TikTok) โดยสิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์มักเปรียบเทียบกันก็คือภาพการเติบโตของทั้งสองแพลตฟอร์ม พร้อมความเห็นว่าความนิยมของติ๊กต่อกนั้นได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เฟซบุ๊กกลับเผชิญปรากฏการณ์ผู้ใช้งานลดลงครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีผลทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างกู่ไม่กลับจนถึงทุกวันนี้
การออกมาเปิดเผยของอดีตผู้บริหารเฟซบุ๊ก และปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของติ๊กต่อกอย่าง Blake Chandlee จึงเป็นสิ่งที่น่ารับฟัง โดย Blake Chandlee บอกว่า จุดกำเนิดของติ๊กต่อกนั้น มีที่มาที่แตกต่างจากเฟซบุ๊กอย่างชัดเจน และทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ไม่มีวันเหมือนกัน
“ติ๊กต่อกถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ความบันเทิงผู้ใช้งาน ในขณะที่อัลกอริธึมของเฟซบุ๊กถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน และนั่นคือจุดเด่นของเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ติ๊กต่อกไม่มีวันเป็น”
ไม่เพียงเท่านั้น Chandlee ยังได้เล่าถึงสมัยที่เขาทำงานอยู่ที่เฟซบุ๊กด้วยว่า ในตอนที่เฟซบุ๊กเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น กูเกิล (Google) เองก็เร่งพัฒนา Google+ ขึ้นมาหวังเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแข่งกับเฟซบุ๊กเช่นกัน (Chandlee ทำงานที่เฟซบุ๊กมานาน 12 ปีและเริ่มทำงานกับติ๊กต่อกในปี 2019)
“ในเวลานั้น คนที่เฟซบุ๊กกังวลเกี่ยวกับ Google+ มาก เราสร้าง War Room ขึ้นเพื่อรับมือกับเรื่องดังกล่าว แต่สุดท้าย Google+ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กูเกิลนั้นเก่งในด้านเสิร์ชเอนจิน ในขณะที่เฟซบุ๊กเด่นในเรื่องโซเชียล”
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็เช่นกัน เรา (ติ๊กต่อก) เก่งในสิ่งที่เราทำ เรานำเทรนด์ต่าง ๆ มาสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานบนติ๊กต่อก ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถหาได้บนเฟซบุ๊ก เว้นแต่เฟซบุ๊กจะเลิกให้คุณค่ากับโซเชียล ซึ่งเรา (ติ๊กต่อก) ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้น”
ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ของ Chandlee อาจเป็นการบอกเป็นนัย ๆ ว่า แม้จะมีการพัฒนาฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกันกับติ๊กต่อกออกมา อย่างเช่น ฟีเจอร์ Reels แต่เฟซบุ๊กไม่มีทางสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานได้เหมือนที่พวกเขาได้รับจากติ๊กต่อกนั่นเอง