ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลการดำเนินการของ AP Thailand เจ้าตลาดเซกเมนต์นี้ถือว่ายังคงท็อปฟอร์ม เพราะหลังจากที่ผ่านมา 5 เดือนแรก สามารถสร้างยอดขายรวมแนวราบไปได้แล้วกว่า 16,810 ล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 45% ของเป้ายอดขายอสังหาริมทรัพย์แนวราบทั้งปีที่วางไว้ที่ 38,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมือง ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีเกือบหนึ่งพันคนต่อสัปดาห์ที่มาเยี่ยมชมโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวของ AP ล่าสุดเพื่อรักษาการเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมือง ด้วยการเปิดโรดแมปภายในทิศทางการพัฒนา “UNLOCK VERTICAL LIFE…พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้” ซึ่งอัดแน่นไปด้วย 3 กลยุทธ์เด็ดที่ช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดและเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคในตลาดทาวน์โฮมต่อไป
ปูพรมเปิดทาวน์โฮม 6 แบรนด์ 29 โครงการใหม่ พร้อมรุกทำเลใหม่ เจาะอินไซต์คนเมือง
คุณเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) อธิบายว่า สินค้าทาวน์โฮมเป็นหนึ่งใน Flagship Product ของ AP และการเดินเกมรุกหนักในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดการทำงานในปีนี้จากภารกิจหลัก “Empower Living ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้” ด้วยทิศทางการพัฒนา “UNLOCK VERTICAL LIFE” หรือพื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้ เพื่อพลิกทุกข้อจำกัดและนำเสนอความเป็นที่สุดในทุกมิติ ผสานสุนทรียะเข้ากับการใช้ชีวิตวิถีใหม่อย่างสมบูรณ์
ซึ่งปีที่ผ่านมา AP เปิดตัวโครงการทาวน์โฮมใหม่เพียง 8 โครงการเท่านั้น แต่ในปีนี้รุกหนักกว่าเดิม ด้วยการเปิดตัวมากถึง 29 โครงการ ในทุก Strategic location ทั่วกรุงเทพฯ และโซนปริมณฑล ด้วยมูลค่าโครงการรวม 25,200 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อทดแทนโครงการเก่าที่สามารถปิดการขายไปได้แล้ว ซึ่งประกอบด้วย 6 แบรนด์เด่น ได้แก่ กลุ่มแบรนด์ทาวน์โฮม 4 แบรนด์ คือ บ้านกลางเมือง CLASSE, บ้านกลางเมือง, Pleno และ Pleno Town ต่อมาคือ กลุ่มแบรนด์ทวินโฮมหรือบ้านแฝด 2 แบรนด์ คือ บ้านกลางเมือง THE EDITION และ Grande PLENO ถือว่านำเสนอโปรดักส์ได้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ซึ่งการแบ่งเซกเมนต์ถี่ยิบและชัดเจนสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีโปรไฟล์แตกต่างกัน พร้อมตีแตก Consumer Insight ด้วยการนำเสนอดีไซน์ใหม่ถึง 20 แบบ ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ ซึ่งมีหลายฟังก์ชันไม่เคยถูกนำเสนอมาก่อนในตลาดทาวน์โฮม ทำให้โครงการดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านตลาดทาวน์โฮมในเมืองด้วย 3 กลยุทธ์หลัก จาก AP Thai ในปีนี้
กลยุทธ์ที่ 1 รักษาบัลลังก์ตลาดทาวน์โฮม พร้อมพัฒนา 20 โมเดล ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย จาก 6 แบรนด์
แม้ในภาพรวมตลาดทาวน์โฮม AP จะยืนหนึ่งมาเนิ่นนาน แต่สำหรับเซกเมนต์ทาวน์โฮมหรูเกรดเอที่ AP สร้างชื่อมานาน ก็ห่างหายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ไปนานถึง 7 ปี เมื่อถึงเวลาต้องบุกตลาดทาวน์โฮมให้ครบทุกเซกเมนต์ จึงนำแบรนด์ “บ้านกลางเมือง CLASSE” ซึ่งนำเสนอทาวน์โฮมหรูใจกลางเมืองในราคา 10-20 ล้านบาท มาปัดฝุ่นใหม่ ประเดิมที่สุขุมวิท 77 พร้อมเตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 ปีนี้
ด้านการออกแบบถือว่ามีความโดดเด่นและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก เพราะจะเผยให้เห็นมุมมองนอกเหนือไปจากหน้าบ้าน มีมุมมองสวนสวยจากข้างบ้านที่ไม่ติดกับบ้านข้าง ๆ เป็นการเปิดมุมมองที่กว้างขึ้นสองด้าน ทว่ายังคงมีความเป็นส่วนตัวสูง ขณะเดียวกันก็เน้นเพดานสูงโล่งโปร่งสบายแบบ Double volume จากชั้น 2 ไปชั้น 3 ด้วยความสูง 6 เมตร ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว ส่วนชั้น 3 จะเป็นเพนต์เฮาส์หรู บริเวณหน้าบ้านมีความกว้างถึง 8 เมตร
ส่วนในกลุ่ม Upper class หรือกลุ่ม B ยังคงยืนหยัดด้วย “บ้านกลางเมือง” ที่นำเสนอทาวน์โฮมระดับบนในราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและมีการรับรู้เป็นอย่างดีในผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ในกลุ่ม Main Class หรือตลาดหลักของทาวน์โฮม จะใช้แบรนด์ Pleno ในราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งจากเดิม Pleno จะถูกล็อกด้วยพื้นที่เพียง 18-20 ตารางวา แต่ต้องการให้มีฟังก์ชันเหมือนบ้านเดี่ยว โปร่ง โล่งสบาย จึงออกแบบโปรดักส์ใหม่ ที่มอบพื้นที่ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดิน 25 ตารางวา หน้ากว้าง 7 เมตร เป็นทาวน์โฮมพรีเมียมเซกเมนต์หน้ากว้างที่สูงที่สุดในตลาด และเป็นครั้งแรกที่ AP จะเปิดตัวโปรดักส์นี้ในตลาด
กลยุทธ์ที่ 2 ปักหมุดตะลุยน่านน้ำใหม่ โซนปริมณฑล พร้อมขยายฐานลูกค้า เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่อง
เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ได้ทยอยเปิดให้บริการ รวมถึงกำลังเร่งก่อสร้างอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ความเป็นเมืองขยายตัว เกิดการเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัยของประชากรจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่การมองหาที่อยู่อาศัยถาวร จากความต้องการที่จะลงปักฐานชีวิตใหม่ ในย่านใหม่ หรือต้องการเปลี่ยนสถานะจากผู้เช่าเป็นเจ้าของ จึงมีผู้บริโภคไม่น้อยที่กำลังมองหาทาวน์โฮมที่ดีมีคุณภาพ พรั่งพร้อมด้วยส่วนกลางและ Facilities ที่ครบครัน ภายใต้ราคาที่เอื้อมถึงได้ ซึ่งเป็นดีมานด์ที่ซ่อนเร้นอยู่ แต่ยังไม่มีผู้เล่นรายใดตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้
AP จึงเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนชานเมือง จนถึงขั้นปลดล็อกตัวเอง สลาย pain point ของผู้บริโภค และเปิดตลาดเซกเมนต์นี้เป็นครั้งแรก ด้วยการปั้นแบรนด์น้องใหม่ “Pleno Town” เจาะตลาดใหญ่ ภายใต้แนวคิด
“พื้นที่ความสุขทั้งชีวิต” เพื่อสานฝันบ้านหลังแรกในรูปแบบของทาวน์โฮมที่เอื้อมถึงได้ง่าย โดยนำเสนอทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 1.99-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมอบส่วนกลาง และ facilities ที่เทียบเท่ากับมาตรฐานที่ AP เคยนำเสนอมาในโครงการอื่น ๆ ก่อนหน้า ซึ่งจากทั้งหมดที่กล่าวมาได้หลอมรวมเป็นจุดขายที่โดดเด่นและแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาดอย่างชัดเจน นำร่องเจาะทำเลศักยภาพใกล้เมือง ได้แก่ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก – บางนา เทพารักษ์ โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก – ปิ่นเกล้า พุทธมณฑล สาย 5 นนทบุรี และโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ – ลำลูกกา และรังสิตคลอง 5 วางแผนเปิด 6 โครงการแรกในปีนี้ มูลค่ารวม 5,530 ล้านบาท
กลยุทธ์ที่ 3 ไม่พลาดเจาะตลาดบ้านแฝด ยิ่งโตดี ยิ่งต้องบุก
จากการที่ AP เป็นเจ้าตลาดบ้านแฝด 3 ชั้น อยู่แล้ว จึงยังคงปักหมุดทำตลาดนี้อย่างจริงจัง โดยชู “บ้านกลางเมือง THE EDITION” ราคา 7-9 ล้านบาท เจาะกลุ่ม High Class หรือ B+
นอกจากนี้ AP ยังส่งแบรนด์ “Grande PLENO” โครงการบ้านแฝด 2 ชั้น ลุยในตลาดบ้านแฝด เพราะตลาดบ้านแฝดกำลังเติบโตมาต่อเนื่อง 2-3 ปี ด้วยอัตราการเติบโตเกือบ 30% แต่เป็นตลาดที่ AP ยังไม่ลงไปเล่นอย่างเต็มตัว ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อชูจุดขายบ้านแฝดที่แตกต่าง ยังเริ่มมิกซ์โปรดักส์เข้าไปในบางโครงการของ AP เช่นกัน เป็นบ้านแฝดบวกกับทาวน์โฮม เป็นต้น นำร่อง 4 ทำเลแรก ได้แก่ ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี – ศาลายา – บางนา และพหลโยธิน – วิภาวดี
ฉีกทุกกฎทาวน์โฮม ด้วย Customized Design
ซึ่งการดีไซน์ทั้ง 20 แบบ ของ AP ที่นำเสนอในครั้งนี้ ถือเป็นแบบทาวน์โฮมที่ผู้อยู่อาศัยออกแบบเองได้ครั้งแรก โดยเห็นได้ชัดเจนว่า AP ตั้งใจมอบประสบการณ์ทาวน์โฮมที่เหนือความคาดหมายและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปให้กับผู้อยู่อาศัย โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ในทาวน์โฮม ได้ตรงความพฤติกรรมการใช้งานจริงของแต่ละครอบครัวด้วย เพื่อให้นิยามของความสุขของทุกคนเป็นจริงได้ เป็น Customized Design ตามไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง เช่น ปกติแพนทรีจะอยู่ชั้นล่างของทาวน์โฮม แต่หากอยากตื่นนอนแล้วลงมารับประทานอาหารเช้าได้สะดวก ก็ย้ายแพนทรีมาอยู่ชั้นสองที่มีมุมมองเปิดรับวิวแทน ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ ถือเป็นการปลดล็อกจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ที่อยู่อาศัยในทาวน์โฮมจริง ๆ ที่นิยมใช้พื้นที่ Living & Dining มากที่สุด หรือกระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เคยมีใครให้ความสำคัญมาก่อน เช่น หากที่บ้านมีแต่คนถนัดซ้าย ก็ติดตั้งประตูสำหรับคนถนัดซ้าย แทนที่จะติดตั้งสำหรับคนถนัดขวาเหมือนโครงการทาวน์โฮมอื่น ๆ เป็นต้น
พฤติกรรมของผู้บริโภคเมื่อจะตัดสินใจเลือกซื้อทาวน์โฮม โดยส่วนใหญ่จะประเมินจากราคาของทาวน์โฮมว่าอยู่ในช่วงราคา ทำเลที่ตั้งความสะดวกในการเดินทางและใช้ชีวิต มีการเชื่อมต่อกับขนส่งมวลชนหลัก ส่วนกลางและ Facilities ที่ รวมถึงชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือของ Developer ซึ่ง AP ก็สามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
จึงไม่น่าแปลกใจว่า AP เป็นหนึ่งใน Top of Mind ในตลาดทาวน์โฮมอยู่เสมอ โดยครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 46% ในตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้น ในช่วงปี 2018-2021 ด้วยยอดขายรวม 11,040 ล้านบาท ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 มากถึงเกือบ 7,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าการเหยียบคันเร่งครั้งนี้ของ AP ถือเป็นการเขย่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก และเป็นการสร้างโจทย์ยากให้กับคู่แข่งมากขึ้น
รับชมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ AP Create Your Blueprint พลิกทุกข้อจำกัดกับ 6 แบรนด์ ทาวน์โฮมที่คุณออกแบบเอง ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=fdpLqhxi8mA
#APThai #APTOWNHOME #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้