สื่อตะวันตกรายงานว่า ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) อาจประกาศเลย์ออฟพนักงาน 8,000 ตำแหน่งในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อนำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปทุ่มให้กับตลาดรถยนต์ EV อย่างไรก็ดี ทางสำนักข่าว Bloomberg ซึ่งอ้างแหล่งข่าวภายในของ Ford ระบุด้วยว่า แผนดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในภายหลังก็เป็นได้
ทั้งนี้ หากการปรับลดพนักงานเกิดขึ้นจริง ก็จะสอดคล้องกับสิ่งที่ซีอีโอของบริษัทอย่าง Jim Farley เคยระบุว่า บริษัทมีแผนจะลดค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2026 และต้องการทรานสฟอร์ม Ford Blue หน่วยงานที่ดูแลธุรกิจรถยนต์ใช้น้ำมัน ซึ่งเป็นรถยนต์แบบเดิมให้เป็นหน่วยงานที่ทำกำไรและสร้างรายได้ให้กับองค์กรโดยเร็ว
ส่วนในเรื่องการลดพนักงานนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นในหลากหลายแผนก โดย Bloomberg ชี้เป้าไปที่การจ้างงานในสหรัฐอเมริกาที่ Ford ว่าจ้างมากถึง 31,000 ตำแหน่ง และคาดว่าการปรับลดพนักงานจะเกิดขึ้นในส่วนนี้เป็นหลัก
ด้าน Mark Truby ผู้บริหารฝ่ายการสื่อสารของ Ford ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลย์ออฟพนักงาน โดยบอกเพียงแต่ว่า บริษัทโฟกัสที่การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ความสำคัญกับการเติบโตของตลาดรถ EV ซึ่งส่วนหนึ่งของแผนการอาจต้องลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง เพื่อให้บริษัทมีความ Lean มากขึ้น และสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในอุตสาหกรรมนี้
ขณะที่ Farley เคยกล่าวในงานสัมมนา Wolfe Research auto conference เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า Ford มีพนักงานมากเกินไป และการปรับลดพนักงานก็คือกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัท ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของต้นทุนชิ้นส่วนต่าง ๆ
ทั้งนี้ ในปี 2021 Ford สามารถขายรถ EV ในตลาดสหรัฐอเมริกาไปได้แค่ 27,140 คัน ซึ่ง Farley มองว่า บริษัทจำเป็นต้องกระตุ้นให้ธุรกิจรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทำเงินให้มากขึ้น เพื่อนำเงินเหล่านั้นมาสนับสนุนตลาดรถ EV และนั่นคือสาเหตุที่ Ford ตั้งธุรกิจ Ford Blue ขึ้นมา เพื่อให้ทำกำไร และนำเงินที่ได้มาสนับสนุนรถ EV ของบริษัทนั่นเอง