เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 เผยยอดสมาชิกลดไป 9.7 แสนราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่บริษัทเคยคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นดีดตัวขึ้นทันที 6% ด้านบริษัทเตรียมเปิดตัวแพกเกจราคาประหยัดที่มาพร้อมโฆษณา หวังดึงดูดใจให้คนใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2023 นี้
หลังจากทำนักลงทุนหวั่นวิตกกันไปพอสมควรเมื่อครั้งการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ว่า ยอด Subscribers ของ Netflix ในไตรมาส 2 ของปี 2022 อาจลดลงมากถึง 2 ล้านบัญชี ล่าสุด การประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Netflix คงทำให้หลายคนใจชื้นขึ้นมาได้แล้ว เพราะตัวเลข Subscribers ลดลงไปแค่ 9.7 แสนราย ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ ด้านผู้บริหาร Netflix ยังคาดการณ์ด้วยว่า ในไตรมาส 3 นี้ บริษัทอาจมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคนด้วย
หันมาดูในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 2 พบว่า Netflix ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 7,970 ล้านเหรียญสหรัฐ และมียอด Subscribers รวมทั้งสิ้น 220.67 ล้านคน
อย่างไรก็ดี Netflix บอกด้วยว่า ค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าอย่างมากในเวลานี้กระทบต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากตลาดนอกสหรัฐอเมริกามากถึง 60% นั่นเอง
ทุ่มเงินผลิต “หนังดีซีรีส์ดัง” ต่อ
ขณะที่ปัญหาของ Netflix ที่ผู้บริหารเคยกล่าวไว้กับนักลงทุนเมื่อไตรมาส 1 เช่น ปัญหาการแชร์พาสเวิร์ด, ปัญหาเศรษฐกิจ, ปัญหาสงครามยูเครน ฯลฯ นั้น ทางบริษัทได้ออกมาเผยถึงแนวทางการจัดการกับปัญหาเหล่านั้นแล้ว โดยทาง Netflix บอกว่าจะให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ต่อไป นั่นคือ การให้เงินสนับสนุนกับผู้ผลิตให้มากขึ้น เพื่อจะได้ผลิตคอนเทนต์ดี ๆ ให้กับแพลตฟอร์ม และยังได้ยกเคสของ Stranger Things ซีซั่น 4 ขึ้นมาว่าเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย
ส่วนปัญหาการแชร์พาสเวิร์ดนั้น ทางบริษัทได้มีการทดสอบแนวทางใหม่ ๆ เพื่อเก็บค่าบริการเพิ่มแล้วในประเทศแถบละตินอเมริกา เช่น หากพบว่ามีการใช้แอคเคาน์เดียวกันในบ้านคนละหลังนานเกินสองสัปดาห์ ทาง Netflix ก็จะส่งแจ้งเตือนไปยังแอคเคาน์หลักเพื่อชวนให้จ่ายค่าบริการเพิ่ม
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ Netflix ก็คือ การจับมือกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) ให้เข้ามาดูแลเรื่องการขายโฆษณาให้กับทางบริษัท โดยสื่อตะวันตกคาดการณ์ว่า Netflix มีแผนจะเปิดตัวแพกเกจราคาประหยัดที่มีโฆษณาออกสู่ตลาดในปี 2023 ที่จะถึงนี้