HomeBrand Move !!ผ่าแนวคิด Gen 4 ‘เจียรวนนท์’ คุมทัพธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ‘แม็คโคร’ กิจการ 3 แสนล้านในเครือซีพี

ผ่าแนวคิด Gen 4 ‘เจียรวนนท์’ คุมทัพธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ‘แม็คโคร’ กิจการ 3 แสนล้านในเครือซีพี

แชร์ :

CEO Makroบมจ.สยามแม็คโคร หนึ่งในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 326,376 ล้านบาท (ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2565)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“แม็คโคร” เป็นธุรกิจที่ “เจ้าสัวธนินท์” Gen 2 ตระกูลเจียรวนนท์ ก่อตั้งขึ้นด้วยการร่วมทุนกับ SHV เจ้าของห้างแม็คโครในปี 2531 ช่วงวิกฤติปี 2540 ทำให้ต้องขายกิจการแม็คโครออกไป แต่ในที่สุดได้ซื้อกิจการกลับคืนมาในปี 2556 พร้อมเดินหน้าขยายสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ

นอกจากกลุ่ม Gen 3 “เจียรวนนท์” ที่กำลังนำทัพบริหารกิจการเครือซีพีในปัจจุบัน เริ่มเห็น Gen 4 รุ่นหลานของ “เจ้าสัวธนินท์” เข้ามามีบทบาทบริหารกิจการที่ Gen 2 เป็นผู้ก่อตั้งมากขึ้น

จับตากิจการค้าส่งค้าปลีกที่ปรากฏชื่อ “ธนิศร์ เจียรวนนท์” ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโครประเทศไทย” เพื่อนำทัพ “แม็คโครยุคใหม่” สู่เป้าหมายการเป็น “ผู้นำค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย”

คุณธนิศร์ เป็นบุตรชายคนโตของ คุณสุภกิต เจียรวนนท์ (บุตรชายคนโตของเจ้าสัวธนินท์) -คุณมาริษา เจียรวนนท์  จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จากนั้นไปทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ให้กับ ธนาคาร UBS AG ในฮ่องกง 2 ปีครึ่ง และกลับมาทำงานในแผนกต่างประเทศ ดูแลด้านการขยายสาขาให้แม็คโคร ตั้งแต่ปี 2558

จากนั้นได้รับโจทย์ที่ท้าทาย อย่างการเข้าไปขยายสาขาแม็คโคร ในประเทศใหม่ๆ ที่การทำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งไม่ใช่เรื่องง่ายอย่าง “อินเดีย” นับเป็นบทพิสูจน์ กฎเหล็กของทายาท “เจียรวนนท์” ในการเข้ารับตำแหน่งเครือซีพี ต้องมีผลงานการบุกเบิกธุรกิจใหม่ให้เห็น

MAKRO cover

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

จุดเริ่มต้นกับ “โจทย์สุดหิน”

คุณธนิศร์ เล่าว่าภารกิจของเขาในขณะนั้น คือการศึกษาความเป็นไปได้ของการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย จึงต้องสร้างความเข้าใจ “ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก” เซ็กเม้นท์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เรียนรู้จาก “ทีมผู้เชี่ยวชาญ” ของแม็คโครที่เป็น “มือเก๋าในวงการ” คอยให้คำแนะนำ โดยเริ่มทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ LOTS Wholesale Solution (แม็คโคร อินเดีย) และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จ ขยายได้ถึง 3 สาขาในอินเดีย

“ตอนไปทำที่อินเดีย ผมอายุ 27 ปี ต้องบอกว่า ตลาดนี้มีความท้าทายมาก เพราะฝั่งที่เป็นการค้าปลีกแบบดั้งเดิมมีถึง 91% และฝั่งที่เป็นการค้าสมัยใหม่มีสัดส่วนเพียง 9% เป็นตลาดที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เวลาศึกษา ทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องทำให้พนักงานของเราไม่คิดว่าตลาดอินเดียยาก หรือจะทำแต่สิ่งเดิมๆ ที่เคยทำ เราต้องผลักดันให้พนักงานกล้าที่จะก้าวออกมาจากกรอบเดิมๆ ดังนั้นการทำธุรกิจที่อินเดียจึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่อง คน ที่จะทำอย่างไรให้เขาเชื่อว่า เขาชนะคู่แข่งได้”

หลังผ่านภารกิจแห่งความท้าทายในตลาดค้าส่งในประเทศที่ถือว่า “หิน” ที่สุดแห่งหนึ่ง ตลอด 4 ปีในอินเดีย พร้อมสร้างบทพิสูจน์ในฐานะผู้นำองค์กรและสร้างผลงานทางธุรกิจได้ดี จนได้รับการเลื่อนขั้นกลับมารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโครประเทศไทย ในปี 2565

ธนิศร์ เจียรวนนท์

One Team กับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

หลังกลับมาประจำที่แม็คโคร สำนักงานใหญ่ ประเทศไทย เขาได้รับหน้าที่ในแผนกพัฒนาธุรกิจค้าปลีก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “บัดดี้มาร์ท” รูปแบบธุรกิจทางเลือกของโชห่วย ที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมปลุกปั้น ต้องลงพื้นที่ไปช่วยจัดร้านค้า ขนของ ลงแรงด้วยตัวเองร่วมกับทีมงานทุกคน เพื่อเข้าถึงผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตรสำคัญ

เมื่อขยับก้าวไปสู่ “ซีอีโอ” ของหน่วยธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อลงสนามแข่งขันในธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ที่ตลาดในเมืองไทยกำลังเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด

“สำหรับแม็คโคร เราอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 33 ปีในประเทศไทย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยน ก้าวเข้าสู่ S- Curve ใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบบ Omni Channel เรามี Makroclick และ maknet แพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล ตอบโจทย์การซื้อสินค้าตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนส่งถึงมือลูกค้า (End to end)”

นอกจากนี้ก็ต้องต่อยอดจุดแข็งในด้านการเป็นผู้นำอาหารสด ศูนย์รวมสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ ที่แม็คโครมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีมายาวนาน บางรายเริ่มต้นมากับแม็คโคร จากการเป็น SMEs จนเติบโตเป็นบริษัทใหญ่

แม้ภารกิจไม่ง่าย แต่มองว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ จากความร่วมมือของพนักงานทุกคน ทุกแผนก ทุกสาขา โดยทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ภายใต้ One Team One Makro

คิดนอกกรอบ ต่อยอดจากปัจจุบัน

“ตั้งแต่เรียนจบ ผมต้องทำงานที่มีความรับผิดชอบสูง แต่ผมก็จะแบ่งเวลาระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตให้สมดุล ด้วยการทำงานผมต้องตื่นเช้า เลิกงานค่อนข้างดึก แต่ก็พยายามหาเวลาออกกำลังกาย ฟังดนตรีแนวร่วมสมัย เพลงคันทรี่ ที่ช่วยผ่อนคลายในเวลาเครียดกับงาน หลายครั้งก็คิดงานได้ ขณะฟังเพลง”

“ผมมักชอบตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ทำงานได้ดีพอหรือยัง? สำเร็จดีพอหรือยัง? การตั้งคำถามเหล่านี้ เหมือนเป็นการกดดันตัวเอง แต่ก็ช่วยทำให้ผมคิดนอกกรอบและต่อยอดจากปัจจุบันได้”

ทุกวันนี้ “คุณธนิศร์” ยังขยันตั้งคำถามกับตัวเอง เพื่อวิเคราะห์ ตกผลึก และกระโจนออกจากกรอบความคิดเดิมๆ แก้โจทย์อันสุดแสนท้าทายใหม่ๆ โดยไม่ละทิ้งการทำงานแบบทุ่มเทเกินร้อย ลงพื้นที่ทุกสาขา พร้อมเปิดรับการเรียนรู้จากผู้มากประสบการณ์อย่าง ผู้บริหารรุ่นเก่าที่เต็มไปด้วยเทคนิคและองค์ความรู้นอกตำรา

นับเป็นจังหวะก้าวสำคัญของแม็คโคร ที่มีการผสมผสานความเชี่ยวชาญจากผู้มากประสบการณ์ กับพลังของคนรุ่นใหม่ ภายใต้การนำทัพของ ซีอีโอ Gen 4 “เจียรวนนท์” ที่กำลังนำพาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของไทย ก้าวสู่ผู้นำในภูมิภาคด้วยแนวคิด One Team One Makro

ณ สิ้นปี 2564 “แม็คโคร” ในประเทศไทยมี 142 สาขา, กัมพูชา 2 สาขา, อินเดีย 3 สาขา (ภายใต้แบรนด์ LOTS Wholesale Solutions, จีน 1 สาขา และเมียนมา 1 สาขา มีธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส (Food Service) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้ แม็คโคร เน้นการนำเข้า ส่งออก และจัดจำหน่ายสินค้าอาหารพรีเมี่ยม พร้อมบริการด้านอาหารและจัดส่งสินค้า ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ปัจจุบัน สยามแม็คโคร มี 2 ธุรกิจหลัก คือ 1. กลุ่มธุรกิจค้าส่ง “แม็คโคร” ในประเทศไทยและต่างประเทศ และธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส 2. ธุรกิจค้าปลีก Lotus’s และธุรกิจบริการพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทยและมาเลเซีย (กลุ่มธุรกิจค้าปลีกเข้ามารวมกับ บมจ.สยามแม็คโคร เมื่อเดือนตุลาคม 2564)

ในปี 2564 บมจ.สยามแม็คโคร ทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก มีรายได้รวม 266,434 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13,686 ล้านบาท เฉพาะธุรกิจค้าส่ง “แม็คโคร” ทำรายได้ 221,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% กำไรสุทธิ 6,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2%


แชร์ :

You may also like