ในยุคเริ่มต้น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 29 สิงหาคม 2534 ด้วยพื้นที่รวม 65,000 ตารางเมตร มีพื้นที่จัดอีเวนท์ 25,000 ตารางเมตร จอดรถได้ 600 คัน รองรับผู้ใช้บริการ 5,000 คน
การเปิดตัวศูนย์ฯ สิริกิติ์ ครั้งแรก เพื่อรองรับการจัดประชุม World Bank ครั้งที่ 46 จัดงานเมื่อวันที่ 1-15 ตุลาคม 2534
หลังเปิดให้บริการมา 30 ปี ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ปิดปรับปรุงไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 ใช้เวลานาน 3 ปีครึ่ง ด้วยงบประมาณ 15,000 ล้านบาท
โฉมใหม่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า
ในวันที่ 12 กันยายน 2565 ศูนย์ฯสิริกิติ์ พร้อมกลับมาเปิดให้บริการด้วยโฉมใหม่ ขยายพื้นที่รวมมากกว่าเดิม 5 เท่า ด้วยพื้นที่ 300,000 ตารางเมตร
แบ่งเป็นพื้นที่จัดอีเวนท์ 78,500 ตารางเมตร พื้นที่ค้าปลีก 11,000 ตารางเมตร ด้วยจำนวนฮอลล์ จัดนิทรรศการ 8 ห้อง ห้องเพลนารี 4 ห้อง ห้องบอลรูม 4 ห้อง และห้องประชุม 50 ห้อง
โฉมใหม่ศูนย์ฯสิริกิติ์ รองรับผู้ใช้บริการได้มากสุด 100,000 คนต่อวัน พื้นที่จอดรถ 3,000 คัน
พื้นที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ โฉมใหม่ รวม 4 ชั้น
– ชั้น LG พื้นที่จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ มีฮอลล์ ขนาดใหญ่ 5 ฮอลล์ พื้นที่รวม 23,500 ตารางเมตร เป็นชั้นที่เชื่อมต่อกับทางเข้ารถใต้ดิน MRT สถานีศูนย์ฯสิริกิติ์ มีงานแกะสลักไม้ของเดิมประดับโชว์
– ชั้น G พื้นที่จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ ศูนย์อาหาร และพื้นที่รีเทล รวม 23,500 ตารางเมตร โดยห้องจัดแสดงชั้น G ใช้ประตูลายกัลปพฤกษ์ของเดิมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของศูนย์ฯ
– ชั้น 1 ห้องบอลรูม 5,000 ตารางเมตร เพลนารี ฮอลล์ 5,000 ตารางเมตร จะไฮไลท์โถงด้านหน้า Plenary Foyer สามารถจัดงานอีเวนท์ พื้นที่แสดงแฟชั่นโชว์ ผู้ร่วมงาน 1,000 คนได้
– ชั้น 2 ห้องประชุมย่อย ร้านอาหาร เป็นโซนผนังกระจกใสติดสวนเบญจกิติ วิวสวน 180 องศา
– พื้นที่ด้านหน้าอาคารศูนย์ฯ สิริกิติ์ ประดับด้วยโลกุตระ เหมือนเดิม
พื้นที่รีเทล
– ร้านอาหาร เช่น กลุ่มไมเนอร์ เปิดตัวคอนเซ็ปต์มัลติแบรนด์ 4 ร้านในพื้นที่เดียวกัน, Red Lobster, Tim Hortons, On The Table, Man Fu Yan เป็นต้น
– ร้านเครื่องดื่ม เช่น % Arabica เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่รูปแบบร้านเอาท์ดอร์สาขาแรก, Starbucks, True Coffee, Cafe Amazon, Seven Suns, Bake A Wish, After You เป็นต้น
– โซนแอคทีฟไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์กลุ่มรักสุขภาพ เช่น Warrix, For U Phama
– ร้านสะดวกซื้อและค้าปลีก เช่น ลอว์สัน, เซเว่นอีเลฟเว่น, มินิ บิ๊กซี, Lemon Telecom, Asia Book x Wawee
คนใช้บริการ 13 ล้านคนต่อปี
ด้วยขนาดพื้นที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ โฉมใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า ทำให้สามารถรองรับการจัดงานได้ปีละ 300-400 งาน (จากเดิม 100 งานต่อปี) จำนวนผู้ใช้บริการปีละ 13 ล้านคน (จากเดิม 6 ล้านคนต่อปี)
คอนเซ็ปต์ใหม่ศูนย์ฯสิริกิติ์ เป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุม” จัดงานไมซ์ (MICE) แต่รองรับการจัดงานไลฟ์สไตล์และอีเวนท์ทุกรูปแบบ เช่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิง จัดงานคอนเสิร์ต ไทย เกาหลี รวมทั้งแฟน มีต
คอนเสิร์ต ที่จองจัดงานเข้ามาแล้ว อย่าง T-Pop Concert Fest รวมศิลปินเพลงป๊อปแนวหน้าชั้นนำของไทย เช่น พีพี บิวกิ้น, ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป “4EVE”, โบกี้ ไลอ้อน ในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2565
สำหรับการจัดงานประชุมและอีเวนท์ต่างๆ ที่เคยจัดที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ ขณะนี้ยืนยันที่จะกลับมาจัดเหมือนเดิมแล้ว 80% เช่น งานสัปดาห์หนังสือ ที่สามารถรองรับผู้เข้าชมงานได้เพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 100,000 คน เพิ่มเป็น 200,000 คน (แบบหมุนเวียน) โดยงานแรกจัดขึ้นในวันที่ 14-16 กันยายนนี้ 2 งานคือ Asean Sustainable Energy และงาน Tissue & Paper Bangkok
ส่วนงานใหญ่สุดในปี 2565 คือ การจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ในวันที่ 13-18 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งจะใช้พื้นที่ทั้งหมดของศูนย์ฯ สิริกิติ์ คาดมีผู้เข้าร่วมประชุมหลักหมื่นคน
ค่าเช่าขยับขึ้น 5-15% รายได้ 2,000 ล้านบาท
การปรับปรุงศูนย์ฯ สิริกิติ์ ใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท มีการต่อเชื่อมทางเข้าศูนย์ฯ กับ MRT ที่ชั้น LG ทำให้เป็นศูนย์ประชุมกลางเมือง ที่มีการเดินทางสะดวก นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น จึงมีการปรับค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น 5-15% และเป็นราคาค่าเช่าสูงกว่าศูนย์ประชุมอื่นๆ 20%
จากพื้นที่ที่ขยายใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า จึงวางเป้าหมายผู้ใช้พื้นที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิม 50% และลูกค้าใหม่ 50% โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งได้แต่งตั้งตัวแทนทำตลาดในต่างประเทศ เพิ่มขึ้น ยุโรป จีน เกาหลี
หลังเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ วางเป้าหมายรายได้เต็มปีในปี 2566 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 เท่า)
ตลอดปี 2566 จะมีการจัดอีเวนท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยืนยันการจัดงานที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ มาแล้วกว่า 160 งาน
ศูนย์ฯสิริกิติ์ ยืนยันความพร้อมเปิดตัวพื้นที่จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการทั้งหมดในวันเปิดตัว 12 กันยายนนี้ ส่วนโซนรีเทล พร้อมให้บริการภายในสิ้นเดือนกันยายน