“50% ของคนที่ไปที่ Topgolf ฟลอริด้า คือ คนที่ตีกอล์ฟไม่เป็น” นี่คืออินไซต์ที่น่าจะนิยามความหมายของ “ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้” สนามไดร์ฟกอล์ฟ ที่จัดเต็มทั้ง แสง – สี- เสียง – เทคโนโลยี และชูจุดขายเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเต็มพิกัด
และนี่คือ เรื่องราวของ Topgolf อีกหนึ่งแม่เหล็กบนอาณาจักรเมกาซิตี้ ที่หวังให้เห็น Destination ใหม่ที่จะดึงดูดไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเท่านั้น แต่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม จากทุกพื้นที่ รวมถึงลูกค้าจากในเมือง
1. ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยเงินลงทุน แต่ “ท็อปกอล์ฟ” ก็ตั้งอยู่บนพื้นที่ 29 ไร่ หรือคิดเป็นพื้นที่ใหญ่เกือบเท่ากับสนามฟุตบอล 7 สนามรวมกัน รวมทั้งมีพนักงาน 400 คน ก็น่าจะบอกถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี ของ บริษัท ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการ Topgolf ในประเทศไทย มีแผนจะเปิดสาขาอื่นๆ เพิ่มเติม มีทั้งสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยกำลังอยู่ในช่วงหาพื้นที่ๆ เหมาะสม
2. Topgolf สาขาแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่ “เมกาซิตี้” เรียกง่ายๆ ว่า “เมกา บางนา” ที่คุ้นเคยกันก็ได้ โดยทางศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ คาดหวังว่าทั้งตัวโครงการเอง รวมกับ Topgolf จะช่วยเสริมแรงซึ่งกันและกัน ดึงดูดลูกค้า วันละ 250,000 คน
3. ปัจจุบัน ท็อปกอล์ฟ ดำเนินงาน 77 แห่ง ใน 6 ทวีป ก่อตั้งขึ้น จากแนวคิดที่ต้องการยกระดับกีฬากอล์ฟ ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นแหล่งสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันมีค่าที่ซึ่งคนทุกวัยสามารถเชื่อมโยงถึงกัน ผสานกับเทคโนโลยีและความบันเทิงด้านกีฬา ภายในสนามของ Topgolf อาศัยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ตัวสนามขนาดยักษ์ระยะ 205 หลา – ลูกกอล์ฟฝังไมโครชิพไปยังเป้าหมาย ทำให้เมื่อไดร์ฟกอล์ฟมีเกมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท็อปกอล์ฟเกม แองกรี้เบิร์ด เกมสะสมเพชร หรือถ้าเล่นตีเพื่อพัฒนาศักยภาพก็มีการเก็บสถิติไว้ให้ด้วย ผ่านการเล่นกอล์ฟบนสนามเสมือนจริง รวมทั้งมีเกมส์มินิกอล์ฟ 18 หลุม พาร์ 55 ให้ตียาวๆ
4. “ราคา” สำหรับผู้เล่นที่มาใช้บริการครั้งแรก จะมีค่าลงทะเบียนแรกเข้า 150 บาท เพื่อลงทะเบียนเก็บข้อมูล สถิติ หลังจากนั้น ลูกค้าของ Topgolf จะต้องจอง Bay โดยมีค่าบริการประมาณ 850 – 1,450 บาทต่อชั่วโมงต่อเบย์ โดยแต่ละเบย์สามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 6 คน
5. ที่บอกว่าสถานที่แห่งนี้เป็น Sport + Entertainment แต่ดูเหมือนว่าในความจริงแล้ว ด้านเอนเตอร์เทนเทนต์จะแอบแซงหน้านิดๆ ด้วยซ้ำ กับ อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพสูงหลากหลายรายการ นับตั้งแต่อาหารอเมริกันคลาสสิกไปจนถึงอาหารไทยฟิวชั่น โดยอาหารแต่ละโซนจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มีทั้งสปอร์ตบาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ตกแต่งสไตล์อเมริกัน มาพร้อมกับจอรับชมกีฬาขนาดใหญ่ ความละเอียด 4K ขนาด 550 นิ้ว โซน Pink Giraffe รูฟท็อปบาร์ รับอากาศยามเย็นและค่ำคืนที่ชั้น 4 ที่โซนนี้จะเน้นอาหารสไตล์ Cali-Japanese พอดีคำ ทั้งแบบโรลและแบบเสียบไม้ โดยรวมแล้ว มีการตกแต่งพื้นที่ๆ ให้ Instagrammable มีมุมถ่ายรูปเพียบบบบ โดยทาง ท็อปกอล์ฟ มองว่า ถึงแม้ “สนามกอล์ฟ” จะเป็น Destination ระดับภูมิภาคได้ แต่หลังจากโควิด-19 ก็ทำให้ได้บทเรียนถึงการเน้นตลาด “ภายในประเทศ” จับลูกค้าท้องถิ่นเป็นหลัก
คุณโน๊ต-ณิชา เรือนทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวกับ BrandBuffet ว่า “50% ของคนที่ไปที่ Topgolf ฟลอริด้า คือ คนที่ตีกอล์ฟไม่เป็น เราก็คาดการณ์ว่า ที่ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ก็จะเกิดปรากฏการณืเดียวกัน เราอยากให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่สนุก พักผ่อน จะมากับเพื่อน ครอบครัว หรือทำกิจกรรม Team Building ก็ได้ และไม่ต้องเป็นคนที่ตีกอล์ฟเป็น มาที่นี่เรามีการสอนเบื้องต้น รวมทั้งมีไม้กอล์ฟให้ใช้งาน”