HomeFoods - Life100 ปี “ซีอิ๊วกวางดาวทอง” ซีอิ๊วตำนานของตำนาน ความกลมกล่อมยืนหนึ่ง จากเมืองสุพรรณ

100 ปี “ซีอิ๊วกวางดาวทอง” ซีอิ๊วตำนานของตำนาน ความกลมกล่อมยืนหนึ่ง จากเมืองสุพรรณ

ตำนาน 100 ปี แบรนด์ "ซีอิ๊วกวางดาวทอง" ของดีรุ่นสู่รุ่นจากเมืองสุพรรณบุรี

แชร์ :

เครื่องปรุงรสอาหารของไทย ประกอบด้วย ผงปรุงรส ซอสปรุงรส  ซีอิ๊ว น้ำปลา ผงชูรส และเครื่องแกงสำเร็จรูป ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นวัตถุดิบสำคัญในการประกอบอาหารเพื่อช่วยปรุงแต่งรสชาติอาหารให้อร่อยและมีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น ซึ่งสินค้าเครื่องปรุงรสของไทยเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์การปรุงอาหารได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ ทั้งด้านการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก ซึ่งในจำนวนนี้มีเครื่องปรุงรสอาหารหลายแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ไทยแท้แต่โบราณ และยังคงยืนหยัดอยู่ในตลาดมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในนั้นก็คือซีอิ๊วกวางดาวทองในตำนาน จากอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยบริษัท กวางทองเจริญ จำกัด

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปฐมบทของ “ซีอิ๊วกวางดาวทอง” เริ่มต้นเมื่อศตวรรษที่ผ่านมา โดยบรรพบุรษผู้ก่อตั้งกิจการนี้ เดินทางมาจากเมืองจีนเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน และได้ความรู้เรื่องการทำซีอิ๊วสูตรชาววังจากเพื่อนชาวจีนที่อพยพมาด้วยกัน เมื่อถึงแผ่นดินสยามจึงชวนกันทำโรงงานซีอิ๊ว และผลิตต่อเนื่องจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมี คุณวิภา สังสรรค์ศิริ บริหารกิจการในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 และมีคุณพร้อมพงษ์ สังสรรค์ศิริ และคุณกนกวรรณ สังสรรค์ศิริ ลูกชายและลูกสาวของคุณวิภา ซึ่งทายาทรุ่นที่ 4 เป็นกำลังสำคัญ

 

“ซีอิ๊วกวางดาวทอง” ถือเป็นซีอิ๊วแท้ 100% หมักแบบธรรมชาติ สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด หมัก หรือเหยาะ ทำได้สารพันเมนู ทั้งขาหมู หมูพะโล้ เป็ดย่าง เป็ดพะโล้ เป็ดปักกิ่ง ไก่-หมูคั่วเค็ม ต้มจับฉ่าย น้ำจิ้ม ข้าวผัด ผัดซีอิ๊ว ผัดกะเพรา กุยช่าย ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว ปลานึ่งซีอิ๊ว ต้มซี่โครงหมู ด้านกระบวนการผลิตยังคงวิธีการและขั้นตอนแบบดั้งเดิมโดยโรงงานกวางทองเจริญ ซึ่งเป็นโรงงานของบริษัทฯ เอง 

ลองสังเกตดูว่าตามร้านอาหารที่ขายดิบขายดีต่าง ๆ ทั่วไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุพรรณบุรี จะมีซีอิ๊วกวางดาวทอง เป็นหนึ่งในไอเท็มลับ

 

เคล็ดลับจากรุ่นสู่รุ่น 

ทั้งนี้ “ซีอิ๊วกวางดาวทอง” ผลิตจากถั่วเหลืองและแป้งสาลี  ไม่ใช้กระบวนการเร่งหมัก ไร้การปรุงแต่ง จึงหมักบ่มด้วยวิธีทางธรรมชาติยาวนานกว่า 3 เดือน ถึง 1 ปี (แล้วแต่สูตร) โดยหมักถั่วเหลืองในโอ่งดินเผา ที่ตากแดดตั้งแต่เช้าเพื่อกักเก็บความร้อนซึ่งจะหมักบ่มถั่วเหลืองให้หอมมีระยะเวลาในการเปิดโอ่งและคนเพื่อให้ได้รับแสงแดดและอากาศที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยใช้จุลินทรีย์ที่มีในธรรมชาติ ค่อย ๆ ดึงรสชาติถั่วเหลืองทีละเล็กละน้อย จนได้ซีอิ๊วหมักที่มีความหอมพิเศษ รสชาติเข้มข้นเฉพาะตัว ให้กลิ่นหอม และอร่อย นอกจากนี้ยังไม่เจือสี ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย จึงเหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ กลุ่มผู้บริโภคอาหารเจและอาหารมังสวิรัติ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตตามแนวทาง Microbiotics (การดูแลร่างกายแบบองค์รวม รวมถึงการเลือกเครื่องปรุงจากแหล่งธรรมชาติ)

ลองไล่เรียงกระบวนการผลิตแบบเจาะลึกดู แล้วจะเห็นว่ากว่าจะมาเป็นซีอิ๊วกวางดาวทองแต่ละหยดนั้นไม่ธรรมดาและซับซ้อนมาก จึงไม่แปลกใจว่าแม้จะมีราคาสูงกว่าท้องตลาดโดยเฉลี่ย แต่ด้วยคุณภาพ รสชาติ กลิ่น และสี ที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้ซีอิ๊วแบรนด์นี้อยู่คู่ครัวไทยมาเนิ่นนาน 

 

เริ่มจากล้างถั่วเหลืองที่มีแหล่งผลิตจากภาคเหนือ เพราะสีจะสวย ให้รสดี และมีกลิ่นหอม โดยต้องล้างน้ำเปล่าให้สะอาดประมาณ 3 น้ำ แล้วแช่น้ำไว้อีก 1 คืนเต็ม ๆ วันรุ่งขึ้น นำไปแช่น้ำร้อนต่ออีก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ถั่วเหลืองอิ่มตัวเต็มที่ หลังจากนั้นนำไปนึ่งต่ออีก 4 ชั่วโมง แล้วนำมาผึ่งให้เย็นลง โดยแผ่บนกระด้งไม้ไผ่ รอจนแห้ง แล้วใช้หัวเชื้อเดิมที่ใช้มาจากรุ่นสู่รุ่นมาผสมเพาะเชื้อ และคลุกเคล้ากับแป้งสาลี ทิ้งไว้อีก 7 วัน ก็จะได้หัวเชื้อที่ต้องการ จากนั้นนำถั่วเหลืองที่เพาะเชื้อไว้ทั้งหมดมาลงโอ่งดินเผาเพื่อทำการหมัก ผสมน้ำเปล่าอีก 40% แล้วบ่มต่ออีก 5 ชั่วโมง เมื่อได้ที่แล้วใส่เกลือสมุทรลงไป 35 กิโลกรัม แล้วคนส่วนผสมด้วยใช้ไม้พายเท่านั้น หมักไว้ในโอ่งดินเผาที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอีก 3 เดือน โดยต้องเปิดฝาคนทุกเช้า ทุกเย็นให้เข้ากัน ทุกวันหยุดไม่ได้เด็ดขาด ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวย่อยโปรตีน ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทั้งสี กลิ่น และรส จึงเกิดจากกระบวนการหมักตามธรรมชาติ เมื่อครบ  3 เดือนแล้ว นำซีอิ๊วที่ได้มากรอง แล้วหมักต่ออีก 1 ปี จากนั้นนำมาต้มให้เดือดจัด โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มความหอมและความเข้มข้นให้มากขึ้น เคี่ยวต่ออีก 5 ชั่วโมง พักให้เย็น แล้วบรรจุขวดเพื่อจัดจำหน่าย 

 

3 สูตร ตอบโจทย์​ความหลากหลาย

ปัจจุบันซีอิ๊วกวางดาวทองมีสินค้า 3 สูตร ตอบโจทย์การปรุงอาหารที่แตกต่างกัน ได้แก่ ซีอิ๊วเค็ม ชั้นพิเศษ สูตรเข้มข้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม สำหรับปรุงอาหารที่ต้องการเพิ่มสีสัน กลิ่นหอม กลมกล่อม, ซีอิ๊วเค็มชั้น 1 คุณภาพระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม ใช้ปรุงอาหารที่ต้องการสีสัน และซีอิ๊วขาว สูตร 1 คุณภาพระดับมาตรฐาน มีสีน้ำตาลแดงอ่อน ใช้แทนน้ำปลาได้ สำหรับปรุงอาหารที่ไม่ต้องการสีเข้ม 

แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ และอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ดูล้าสมัย (แต่ขลัง) แต่ในการทำการตลาดของซีอิ๊วกวางดาวทองก็นับว่าทันสมัยเอาการ เพราะใช้ช่องทางดิจิทัลในการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างจริงจังโดยเฉพาะแฟนเพจเฟซบุ๊ก ไลน์ออฟฟิเชียล และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท รวมถึงมาร์เก็ตเพลสอย่างชอปปี้ และลาซาด้า ภายใต้ชื่อ golddeershop ซึ่งทำให้ตำนานเครื่องปรุงรส ของดีเมืองสุพรรณ สามารถแจกจ่ายความอร่อยได้ทั่วไทยอย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าใครอยากเลือกสินค้าของบริษัทฯ แบบจุใจ ต้องไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกิมเต๊ก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายของฝากของบริษัทฯ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของกวางทองเจริญอีกมากมาย เช่น ไข่เค็มซีอิ๊ว กวางดาวทอง เต้าเจี้ยวตรากวางดาวทอง และซีอิ๊วหวานตราหัวเรือจำหน่ายอีกด้วย 

 

ขณะเดียวกันก็มีจำหน่ายในช่องทางแบบ Brick-and-Mortar เช่นกัน แม้จะไม่ครอบคลุมเหมือนกับซีอิ๊วแบรนด์ดัง เพราะไม่ได้อวดโฉมอยู่บนชั้นวางของคอนวีเนียนสโตร์ ซูเปอร์มาเก็ต และดิสเคาน์ทสโตร์ต่าง ๆ แต่สำหรับแฟนคลับที่เป็นพลพรรคนักปรุง หากตั้งใจจะซื้อจริง ๆ ก็ถือว่าหาซื้อได้ไม่ลำบากมากนัก โดยจะเน้นวางจำหน่ายในร้านทางเลือกต่าง ๆ เช่น ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีจำหน่ายที่ร้านโดยเฉพาะ ศิริราช, ร้านพลังบุญ(บุญนิยม) ซอยนวมินทร์ 48, ชีวาธรรมะชาติ ตลาดบองมาเช่ต์, ร้านแสงแดดเฮลท์มาร์ท เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ร้านเอเดน รัชวิภา และร้านฮั่วเซ่งฮง สาขาศาลายา ส่วนที่ต่างจังหวัดก็มีจำหน่ายในหลายจังหวัด เช่น จังหวัดสิงห์บุรี วางจำหน่ายที่ไชยแสง ซูเปอร์สโตร์ 

 

ขอขอบคุณภาพจาก  Facebook: ซีอิ๊วกวางดาวทอง 


แชร์ :

You may also like