HomeBrand Move !!75 ปี “เซ็นทรัล” สู่เส้นทาง “ลักชัวรี่รีเทล” สร้างเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ปักธงห้างฯหรูระดับโลก

75 ปี “เซ็นทรัล” สู่เส้นทาง “ลักชัวรี่รีเทล” สร้างเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ปักธงห้างฯหรูระดับโลก

แชร์ :

ครบรอบ 75 ปี “กลุ่มเซ็นทรัล” จากจุดเริ่มต้นของ “ร้านหนังสือ” ในยุคแรก ที่ก่อตั้งโดย “คุณเตียง จิราธิวัฒน์” และ “คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์” ในปี 2490 ในนาม บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง หรือชื่อการค้า “ห้างเซ็นทรัล”   จวบจนวันนี้  จากรุ่นสู่รุ่นกลุ่มเซ็นทรัล  เดินหน้าบริหารงานด้วยการนำของ “จิราธิวัฒน์” มากกว่า 4 เจเนอเรชั่น สามารถสยายปีกอาณาจักรค้าปลีกระดับโลกที่ครอบคลุมหลายภูมิภาค อีกทั้งยังมีเครือข่ายของห้างสรรพสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุม 11 ประเทศ  80  เมือง  120 สาขา  และห้างแฟลกชิปหรู 16 แห่ง ในหัวเมืองหลักของยุโรปและเอเชีย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลประสบความสำเร็จ ในการเดินหน้ารุกตลาดแผนงานสู่การเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ “กลยุทธ์ลักชัวรี่” เป็นแผนงานสำคัญของกลุ่มในการสร้างการเติบโต ผ่านเครือข่ายห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้าที่แข็งแกร่ง  เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการ “ห้างรีนาเชนเต” เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับจังหวะที่แบรนด์ลักชัวรี่ของยุโรปกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ห้างรีนาเชนเต

“ห้างรีนาเชนเต” ห้างสรรพสินค้าแรกที่เซ็นทรัลเข้าซื้อกิจการในยุโรปเมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา

 

75 ปี “เซ็นทรัล”  สู่เส้นทางผู้นำค้าปลีกระดับโลก

คุณทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า บนเส้นทางกว่า 75 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของกลุ่มเซ็นทรัล  มีพื้นฐานมาจากความมุ่งมั่นในการเลือกสรร และนำเสนอประสบการณ์ บริการ และสินค้า ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อช่วยผลักดันให้ห้างสรรพสินค้าของเราเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต หรือ “Central of Life” ยังมีเป้าหมายในการนำพาชุมชนในทุกเมืองที่เราเข้าไปทำธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และการรักษาไว้ซึ่งมรดกทางประวัติศาสตร์ของแต่ละอาคาร

 

ทั้งนี้ด้วยกระแสของการท่องเที่ยวทั่วโลก ถึงแม้เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนในระยะที่ผ่านมา ตลาดลักชัวรี่ได้แสดงศักยภาพสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จากความต้องการผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในรอบสิบปีที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้สร้างความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับแบรนด์ลักชัวรี่ยักษ์ใหญ่หลากหลายแบรนด์  ซึ่งได้มีการร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ  ของบริษัทตลอดมาเพื่อพัฒนาห้างของเราให้เป็นจุดหมายแห่งการช้อปปิ้งที่โดดเด่น  ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของคนท้องถิ่น และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ปัจจุบันห้างในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัลต้อนรับลูกค้ากว่า 130 ล้านคนต่อปี กว่า 200 เชื้อชาติ และมีสมาชิกกว่า 6 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในธุรกิจลักชัวรี่ของกลุ่ม

 

ทศ จิราธิวัฒน์

ทศ จิราธิวัฒน์

 

เส้นทาง “กลุ่มเซ็นทรัล” สยายปีกห้างหรูในยุโรป

กลุ่มเซ็นทรัล ได้ขยายธุรกิจในภูมิภาคยุโรป และตลาดลักชัวรี่รีเทล โดยเริ่มต้นจากการเข้าซื้อกิจการ “ห้างรีนาเชนเต”ในปี 2554 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 9 สาขาทั่วประเทศอิตาลี ตามด้วยการเข้าซื้อกิจการ “ห้างอิลลุม” ประเทศเดนมาร์ก ในปี 2556 

นอกจากนี้ยังได้ร่วมทุนกับ “ซิกน่า” ในการเข้าซื้อกิจการ “กลุ่มคาเดเว” ที่มีห้างสรรพสินค้า 3 แบรนด์ ได้แก่ คาเดเว โอเบอร์โพลลิงเกอร์ และอัลสเตอร์เฮาส์ ประเทศเยอรมนี ในปี 2558 อีกทั้งยังร่วมกันเข้าซื้อกิจการ “ห้างโกลบุส” ที่มี 10 สาขา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2563 

และในปี 2565 ได้ร่วมกันซื้อกิจการ “กลุ่มเซลฟริดเจส” ที่เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า 18 แห่ง ได้แก่ เซลฟริดเจส ในอังกฤษ ห้างสรรพสินค้าดีแบนคอร์ฟ ในเนเธอร์แลนด์ และห้างสรรพสินค้า บราวน์ โธมัส และอาร์นอตส์ ในไอร์แลนด์

 

กลุ่มเซลฟริดเจส

กลุ่มเซลฟริดเจส ห้างสรรพค้าล่าสุดที่เซ็นทรัลเข้าซื้อกิจการเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา

 

นั่นทำให้ “กลุ่มเซ็นทรัล” ก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ระดับโลกอย่างแท้จริง ด้วยจำนวนของห้างแฟลกชิปหรูในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลักชัวรี่และการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ถึง 19 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 1 ศตวรรษ และล้วนตั้งอยู่บนทำเลเด่นใจกลางเมืองสำคัญ ของยุโรป อาทิ ลอนดอน ซูริค โรม โคเปนเฮเกน ดับลิน และ เวียนนา 

ผลทำให้ตลาดลักชัวรี่ และยุโรป กลายเป็นโฟกัสสำคัญของกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมเร่งเดินหน้าวิสัยทัศน์ในการนำธุรกิจรีเทลของไทยไปสู่ระดับโลก เพื่อบรรลุเป้ายอดขายในปีนี้ (2565) กว่า 6.7 พันล้านยูโร หรือ 2.6 แสนล้านบาท

 

 

กลยุทธ์ “ลักชัวรี่รีเทล” เสริมแกร่งเครือข่าย ปักธงห้างฯหรูในยุโรป 

สำหรับก้าวต่อไป กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นในการขับเคลื่อน “กลยุทธ์ลักชัวรี่” ในสองด้าน ในการเป็นห้างสรรพสินค้าที่จุดศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต หรือ “Central of Life” ใน 2 กลยุทธ์หลักดังนี้ 

กลยุทธ์ที่ 1. พัฒนาและขยายห้างสรรพสินค้าที่มีเอกลักษณ์ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญด้วยการร่วมมือกับลักชัวรี่แบรนด์  การพัฒนาแปลงโฉมห้างสรรพสินค้าเป็นหัวใจหลักของการดำเนินการในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น LVMH, Kering และ Richemont เพื่อยกระดับและเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยแต่ละห้างได้ถูกออกแบบให้แสดงถึงเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง เพื่อให้คนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวได้ชื่นชม  นอกจากนี้ แต่ละห้างยังมีสินค้าอาหารระดับพรีเมี่ยม และมีร้านอาหารหลากหลายไว้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ห้างคาเดเว ในเบอร์ลิน ห้างรีนาเชนเตในมิลานและโรม และห้างโกลบุส ในซูริก ที่ได้ถูกปรับปรุงและพัฒนาไปเมื่อไม่นานมานี้ 

โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในหลายประเทศ รวมถึงการสร้างโครงการใหม่ อีก 3 แห่ง ด้วยงบการลงทุนกว่า 900 ล้านยูโร หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า  3.3 หมื่นล้านบาท ใน เยอรมนี-ออสเตรีย-สวิสเซอร์แลนด์  ได้แก่ 

  • 1.คาร์ช เฮาส์ (Carsch-Haus) ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี – ดำเนินการปรับปรุงตึกคาร์ช เฮาส์ ให้เป็นห้างหรูใจกลางเมืองดุสเซลดอร์ฟ จุดเด่นของโครงการนี้ประกอบไปด้วยการขุดจัตุรัสเมืองบริเวณข้างหน้าห้าง เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่รีเทลชั้นใต้ดินที่โดดเด่น ซึ่งจะมีร้านค้าแบรนด์ดังหลากหลายเข้าร่วม และบนระเบียงชั้นสูงจะมีร้านอาหารขนาดใหญ่ให้บริการ ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะเปิดตัวภายในปี 2566
  • 2. เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย – ห้างหรูแห่งแรกของเมืองเวียนนา บวกกับ โรงแรม ทอมป์สัน และพื้นที่สีเขียวสวยงามบนหลังคาตึก ซึ่งโครงการนี้ถูกออกแบบโดย O.M.A ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2567
  • 3.โกลบุส บาเซิล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ – เป็นการพัฒนาตึกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ที่มาร์กแพลตซ์ (Markplatz) ณ ศูนย์กลางของเมืองบาเซิล ให้กลายเป็นห้างหรูที่คงไว้ซึ่งความสวยงามที่เป็นมรดกดั้งเดิม โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2568

นอกจากนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาโอกาสเพื่อพัฒนาเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ทำเลทอง ใจกลางเมืองลอนดอน ที่มีเซลฟริดเจสเป็นแฟลกชิปสำคัญ บนถนนออกซ์ฟอร์ด อีกด้วย

กลยุทธ์ที่ 2. ขึ้นแท่นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเป็นพันธมิตรคู่ค้าที่มีเครือข่ายทั่วโลกให้กับแบรนด์ลักชัวรี่และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ  ปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรปมียอดจำนวนผู้มาเยือนกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน มีการจัดส่งสินค้าไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก และสร้างยอดขายได้ถึง 1 พันล้านยูโร (3.8 หมื่นล้านบาท) ต่อปี คิดเป็น 17% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งยอดขายออนไลน์ในต่างประเทศของ Selfridges.com มีสัดส่วนสูงถึง 40% สะท้อนถึงการมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่แข็งแกร่ง เทียบได้กับคู่แข่งที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ  

 

 

นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลได้วางยุทธศาสตร์ให้ Selfridges.com เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ลักชัวรี่ระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยเน้นใช้จุดแข็ง ดังนี้ 1.ความเป็นแบรนด์เซลฟริดเจส ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักดีทั่วโลก 2.แบรนด์และสินค้า พร้อมคอลเลคชั่นพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากทุกห้างสรรพสินค้าชั้นนำในเครือ  3.เทคโนโลยี และฐานข้อมูลลูกค้า ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์  และมอบบริการให้ลูกค้าได้แบบเฉพาะบุคคล

และ 4.เครือข่ายห้างสรรพสินค้าใน 11 ประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์และเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงให้บริการแบบออมนิแชแนล ที่แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งอีคอมเมิร์ซทั่วไป  โดยเฉพาะในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานการดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่ม

สำหรับในส่วนของ Omni- Channel นับจากนี้คือการเสริมแกร่งฐานลูกค้าสมาชิก The 1 ที่มีอยู่กว่า 14 ล้านรายในปัจจุบัน  ที่นอกจากจะสามารถสะสมแต้ม และได้รับข้อเสนอพิเศษต่างๆ เมื่อช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต อิลลุม และคาเดเว ยังจะสามารถรับสิทธิประโยชน์ในรูปแบบเดียวกันที่ห้างสรรพสินค้าเซลฟริดเจส และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในยุโรปภายใต้กลุ่มเซ็นทรัลได้เร็วๆ นี้ โดยกลุ่มเซ็นทรัล ยังคงเดินหน้ารังสรรค์สิทธิพิเศษ และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเตรียมมอบให้กับสมาชิก The 1  Exclusive ที่ไปช้อปปิ้งในยุโรปอีกด้วย 

 

กลุ่มเซ็นทรัล ปิดบิ๊กดีล 1.8 แสนล้านเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ฮุบห้างหรู 18 แห่ง ใน 3 ประเทศ


แชร์ :

You may also like