กำลังจะมีอีเวนท์ใหญ่คืนนี้แล้วแท้ ๆ แต่ Apple ก็เจอปัญหาจนทำให้หุ้นตกจนได้ โดยคราวนี้เกิดขึ้นที่บราซิล เมื่อรัฐบาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้ Apple ขายไอโฟน (iPhone) ที่ไม่มีอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่มาด้วยอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งดังกล่าวหมายถึง iPhone 12 เป็นต้นไป ด้านผู้บริหาร Apple เผยว่า ทางบริษัทได้เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลบราซิลแล้ว
หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลง 0.82% เมื่อตอนปิดตลาดในวันที่ 6 กันยายน ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา โดยลงมาอยู่ที่ 154.53 เหรียญสหรัฐ พร้อมกับคำชี้แจงของทางบริษัท Apple ที่พยายามบอกว่า การตัดอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ออกไปจากการขายตัวผลิตภัณฑ์นั้นเป็นไปเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศ ขณะที่ทางการบราซิลโต้ว่า ไม่มีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่า การตัดอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ออกไปนั้น สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศได้จริง
อย่างไรก็ดี ทาง Apple ได้มีอีเมลอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้แล้ว โดยบอกว่า ในการผลิตอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่นั้น มีการใช้สังกะสี และพลาสติกเป็นจำนวนมาก การตัดไอเท็มดังกล่าวออกจากกล่องบรรจุภัณฑ์ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 2 ล้านเมตริกตัน หรือเท่ากับการนำรถออกจากถนนมากถึง 5 แสนคันต่อปี
สำหรับการขาย iPhone โดยไม่มีอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ และหูฟังมาด้วยนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2020 โดยในตอนนั้น Apple อ้างว่า เป็นแนวคิดรักษ์โลก เพราะช่วยให้เกิดการประหยัดวัตถุดิบในการผลิต รวมถึงสามารถลดขนาดกล่องบรรจุภัณฑ์ของ iPhone ลงได้ และอาจรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้กับองค์กรได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนเรื่องของค่าปรับนั้น พบว่า ทางการบราซิลได้มีการสั่งปรับ Apple เป็นเงิน 2.38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 87.32 ล้านบาท นอกจากนี้ หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของบราซิลอย่าง Senacon บอกว่า Apple มีทางเลือกอีกมากมายในการลดมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิต เช่น การเปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบ USB-C ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้สะดวกกว่านั่นเอง