HomeBrand Move !!แค่วันเดียวไม่พอ “เซ็นทรัล-โรบินสัน” อัดแคมเปญ “Double Digit Day” วันช็อปปิ้งเลขเบิ้ล ยาวไปเลย 4 เดือน

แค่วันเดียวไม่พอ “เซ็นทรัล-โรบินสัน” อัดแคมเปญ “Double Digit Day” วันช็อปปิ้งเลขเบิ้ล ยาวไปเลย 4 เดือน

แชร์ :


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าธุรกิจ B2C E-commerce ปี 2565 มีมูลค่าตลาดราว 5.65 แสนล้านบาทขยายตัว 13.5% จากปีที่ผ่านมาการเติบโตส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาสินค้าที่ไม่สูง ทำให้รู้สึกถึงความคุ้มค่า โดยเฉพาะจากการจัดทำโปรโมชั่นของผู้ประกอบการที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีความถี่ขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก และคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจ B2C E-commerce ในปี 2565  จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 16% จากปี 2564 ที่มีสัดส่วน 14% จากมูลค่าตลาดค้าปลีกสินค้ารวม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล-โรบินสัน” ในเครือเซ็นทรัลรีเทล หนึ่งในพี่ใหญ่วงการค้าปลีก ก็หนีไม่พ้นการถูก Disrupt ทั้งจากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบการเข้ามาของคู่แข่งใหม่อย่าง Digital Platform (E-commerce) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว  ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ผลักดันให้ช่องทางออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการช้อปปิ้งยุคใหม่  จนนำไปสู่การปรับตัวครั้งใหญ่ของ “ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล-โรบินสัน” กับการประกาศทรานฟอร์มองค์กรก้าวสู่ “ค้าปลีกแห่งอนาคต” อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์พร้อมสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel ในการรองรับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

โควิดคลี่คลาย พฤติกรรมลูกค้าชาช้อปหลากหลาย ดันทราฟฟิกห้างฯดีดกลับ 100% 

ขณะที่ข้อมูลจากเซ็นทรัลตั้งแต่ 1 มกราคม – 15 สิงหาคม พบว่า กำลังซื้อและจำนวนลูกค้าเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา มียอดจับจ่ายเพิ่มขึ้น 50% โดยมี 3 กลุ่มสินค้าขายดีได้แก่ กลุ่มความงาม นาฬิกา  และแฟชั่น ขณะที่ทราฟฟิกภายในศูนย์เติบโตเพิ่มขึ้น 25% หรือมีอัตราผู้เข้าใช้บริการ 100% ขณะที่ในบางสาขาทราฟฟิกในศูนย์เพิ่มมากกว่าปี 2019 แล้ว

คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า สถานการณ์ในธุรกิจค้าปลีกเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว แต่การตลาดช่วงนี้เป็นเรื่องของการลงทุนมากกว่า เพราะเป็นโอกาสอันดีในการเรียกลูกค้าเข้ามาใช้บริการ การสื่อสาร การกระตุ้นสำคัญ  ทุก category มีโปรโมชั่น-อีเวนต์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมองหาสินค้าใหม่ในช่องทางออนไลน์  และขยายสินค้าเดิมเติมพอร์ตตามความต้องการ เพื่อผลักดันยอดขายให้ถึง โดยทุกแคมเปญโปรโมชั่นจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักเพิ่มขึ้น รองรับทราฟฟิกกลับม 100% แล้ว 

“พฤติกรรมลูกค้ายุคหลังโควิดลูกค้าอยากลองของใหม่ มาที่ห้างฯลองสินค้าก่อน ใช้บริการออมนิชาแนลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ เริ่มหันมาใช้ดิจิทะลคูปองมากขึ้น แทนที่คูปองกระดาษแบบเดิม นอกจากนี้ยังกลับมาใช้แอพเป็นตัวช่วยบริการการช้อปปิ้งมากขึ้น ไม่ใช่แค่ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างเดียวแต่ช้อปในห้างฯ หรือที่สาขาด้วยด้วย”

สำหรับแนวโน้มช่วงปลายปีนี้จะเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์   Omnichannel  สร้างประสบการณ์ที่ดี ที่สุด ผ่านเซ็นทรัลและโรบินสัน ในทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยปัจจุบัน Central App มียอดดาวโหลดแล้ว  5.2 ล้านราย

โดยใน ไตรมาส 4 หรือช่วง 4 เดือนนับจากนี้ คือช่วง “highlight period” ในการทำตลาดของกลุ่มค้าปลีก รวมถึงเซ็นทรัลอโดยจะได้ไม่ต่ำกว่า 4  อีเวนต์หลัก ได้แก่ แคมเปญ Double Digits, แคมเปญฉลอง 75 ปี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ,มิดไนท์เซลล์ และ let’s celebrate เป็นต้น

 

คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์

คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์

 

ทุ่ม 250 ล้าน ส่งแคมเปญ “Double Digits” ลากยาว 4 เดือนปลุกยอดโต 15%

โดยมีแคมเปญ  “Double Digits” เป็นหนึ่งในคีย์หลักของการผลักดันยอดขายอีคอมเมิร์ซในเครือซีอาร์ซี ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยุคแรกด้านยอดขาย สะท้อนให้เห็นว่าทางค่ายมาถูกทางในการรองรับพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้เป็นอย่างดี 

สำหรับแคมเปญ “Double Digits” ประกอบไปด้วย 9.9 ช้อปฟิน วินทุกดีล เริ่ม 1 – 11 กันยายน , 10.10 ช้อปชิล ดีลชนะเลิศ , 11.11 โปรแรง แซงทุกดีล และ 12.12 ช้อปเด่นให้เป็นแชมป์ ซึ่งเป็นแคมเปญต่อเนื่องของเลขดับเบิล ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ต่อจากปีที่แล้วที่ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี

ผ่าน 3 กลยุทธ์สร้างเอกลักษณ์แคมเปญ “Double digits” ของทางห้างฯ ที่ไม่ใช่แค่งานขาย แต่คือการสร้างเครือข่ายของการช้อปปิ้ง ได้แก่ 1. Synergy ร่วมกันทั้งปัจจุบัน 75 สาขาของเครือเข้ามาใช้รองรับบริการ ,  2.การ Seamless  ผสานออนไลน์ออฟไลน์ทุกที่ทุกเวลา และ 3. Super Best  ร่วมการจัดโปรโมชั่น คูปอง กับพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยปีนี้ได้ใช้เพิ่มงบการตลาดกับแคมเปญใหญ่นี้รวม 250 ล้านบาท และความพิเศษในครั้งนี้คือ

เป็นครั้งแรกที่ “ห้างเซ็นทรัล-โรบินสัน”  และ Central App ผนึกกำลัง Synergy ภายใต้ กลยุทธ์ “Together is Better Than One” มอบดีลสุดพิเศษที่ผสานความแกร่งทุกมิติ จัดกิจกรรมการตลาดที่แปลกใหม่เพื่อลูกค้า เพื่อเป็น ‘The Winning Sale’ อย่างที่ตั้งใจ

ตอกย้ำไม่ใช่แค่ช่วงโปรโมชั่น Peak Time  แต่สามารถช้อปได้ตลอดเวลา กับดีลสุดคุ้ม ที่ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่มีเรื่อง CRM โปรโมชั่นให้ลุกค้ามาช้อปกับห้างฯ ผ่านรูปแบบโปรโมชั่นที่หลากหลายตลอดเวลา

ตอบสนองความต้องการผ่านรูปแบบ Shopping Festival สำหรับทุกคนด้วยระยะเวลา 9-12 วัน/ครั้งซึ่งจะเป็นการเพิ่ม  opportunity ในการช้อปปิ้ง ตอบโจทย์อินไซส์ฐานลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้เทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ให้มีระยะเวลาในการซื้อสินค้ามากขึ้น

โดยวางเป้าหมายผลักดันยอดขายของแคมเปญตามเป้าหมายการเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาทุกช่องทางพร้อมมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า  พร้อมเพิ่มสัดส่วนยอดขายที่มาจากออนไลน์ 15% ใน 5 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 10% 

ทั้งหมดเพื่อย้ำกลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มห้างเซ็นทรัลและโรบินสันสู่ “ค้าปลีกแห่งอนาคต” เพื่อปั้นสู่ Top of Mind Shopping Destination ของคนไทย

 

 

“เซ็นทรัล – โรบินสัน” งัด 6 กลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มสู่ “ห้างแห่งอนาคต” พร้อมเฝ้าจับตาเทรนด์ “Cypto – Metaverse”


แชร์ :

You may also like