ธุรกิจการเดินรถไฟของญี่ปุ่นที่เคยเป็นอุตสากรรมสุดเท่ห์มาวันนี้อาจถึงคราวต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยผู้ให้บริการอย่าง JR East ซึ่งให้บริการในพื้นที่ที่เป็นหัวใจสำคัญของญี่ปุ่นอย่างกรุงโตเกียว รวมถึงพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ เผยว่า มีแผนจะเลย์ออฟพนักงานมากถึง 4,000 คน
สาเหตุที่ทำให้ JR East ต้องเลิกจ้างพนักงาน ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางที่ลดลงของผู้คน ทั้งจากการระบาดของ Covid-19 และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เห็นได้จากรายได้ของ JR East ในไตรมาสที่ผ่านมา ที่ลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงปี 2019
ปัจจุบัน JR East มีพนักงานในธุรกิจรถไฟ 34,000 คน ซึ่งการเลิกจ้างพนักงาน 4,000 คนนี้ ทาง JR East เผยว่า ยังไม่มีการระบุว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไร โดยหลังจากนี้ ทางบริษัทจะมีการโยกย้ายพนักงานบางส่วนไปทำในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการเดินรถไฟ รวมถึงปรับให้การเดินรถไฟมีคนขับเป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ช่วยบนรถไฟเหมือนที่เคยเป็นมา
อย่างไรก็ดี หากยังจำกันได้ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์เลิกจ้างพนักงานนั้น ทางผู้ให้บริการอย่าง JR East ก็เคยเปิดทดสอบรถไฟไร้คนขับมาแล้วเช่นกัน
หลังจากนี้ไป มีความเป็นไปได้ว่า JR East จะหันไปโฟกัสในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงกว่า เช่น ธุรกิจค้าปลีก และสมาร์ทการ์ด ส่วนนักเดินทางไทยที่เคยนั่งชินคันเซนเที่ยวทั่วญี่ปุ่นเมื่อในอดีต บางที การกลับไปญี่ปุ่นครั้งต่อไป อาจเป็นภาพที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วก็เป็นได้