ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอัตราการบริโภคน้ำอัดลมของคนไทยสูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน หรือคิดเป็น 41.13 ลิตร/คน/ปี แต่การเข้ามาของเทรนด์สุขภาพก็ส่งผลต่อความต้องการบริโภคน้ำอัดลมในไทยมีทิศทางลดลง เพราะผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น และการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลคาร์บอเนต และเครื่องดื่มสปาร์คกลิ้ง ที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มคนรักสุขภาพ
โดยในช่วง 1-2 ปีที่ ผ่านมา จะได้เห็นยักษ์ใหญ่ในเครื่องดื่มหลายรายเริ่มมองหาโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ในการตอบโจทย์เทรนด์เครื่องดื่มสุขภาพ แต่ยังคงความสด ซ่า เช่นเดียวกับน้ำอัดลม โดยมี สิงห์ฯ ขยายตลาดเป็นเจ้าแรกๆ กับ 2 โปรดักท์ไลน์ สิงห์ เลมอน โซดา และยูซุ เลมอน โซดา ขณะที่แบรนด์ “ชเวปส์” หลังเป็นผู้ครองตลาดมาอย่างยาวนาน ก็ออกมาเคลื่อนไหวรับเทรนด์ดังกล่าวด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่ พร้อมเดินหน้ากิจกรรมการตลาดครบวงจร จนมูลค่าตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซแบบกระป๋องในประเทศไทยทะยานมูลค่า 13,172 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
ล่าสุด “ทิปโก้” (Tipco) ยักษ์ใหญ่ในตลาดน้ำผลไม้เมืองไทย ก็ตอกย้ำปรากฏการณ์ความแรงของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลคาร์บอเนต และเครื่องดื่มสปาร์คกลิ้งเมืองไทย ด้วยการขยายพอร์ตสินค้า 2 โปรดักท์ไลน์ใหม่ “ทิปโก้ อิซซี่” (Tipco Izzi) รุกตลาด “เครื่องดื่มโซดา” Carbonated Drink และ “ทิปโก้ โซซ่า” (Tipco Soza) รุกตลาดกลุ่มน้ำผลไม้อัดก๊าซ Sparkling Juice นับเป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปีที่ “ทิปโก้” ขยายพอร์ตโฟลิโอไปยังกลุ่มที่ไม่เคยทำมาก่อน
ต่อยอดจุดแข็งเจ้าตลาดน้ำผลไม้ที่มีทั้ง “น้ำโซดากลิ่นผลไม้ และ นำ้ผลไม้อัดก๊าซ”
การขยายพอร์ตสินค้าใหม่ของ “ทิปโก้” ในครั้งนี้ มีประเด็นที่น่าใจคือการเข้ามาในตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซ ของเจ้าตลาดน้ำผลไม้อย่างเบอร์ 1 จะทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างความเอกลักษณ์และความแตกต่างในการปั้นจุดแข็งของแบรนด์ไปยังลูกค้าได้ในระยะยาว ที่นอกจากจะรองรับเทรนด์สุขภาพแล้ว ยังต้องมีศักยภาพเพียงพอในการสร้างยอดขายเข้ามาทดแทนกลุ่มสินค้าหลักเดิมอย่างน้ำผลไม้ที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และการเข้ามาของเครื่องดื่มใหม่ๆ ทดแทนตลาดเครื่องดื่มสุขภาพเดิมอย่าง “น้ำผลไม้”
ขณะที่เทรนด์ตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซในเมืองไทยหากเทียบกับช่วง 5 ปี ผู้บริโภคหรือตลาดอาจจะยังไม่รู้จักการใส่ฟังก์ชันในเครื่องดื่ม และการเปิดตัวสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มอัดก๊าซส่วนใหญ่จะมีรสชาติเพียงไม่กี่ชนิด อย่าง ส้ม สตรอเบอรี่ เป็นต้น แต่ในตลาดปัจจุบันไม่ได้แข่งที่การออกรสชาติใหม่ ๆ เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการแข่งด้วยฟังก์ชันซึ่งใครมีเบเนฟิตมีมากกว่าก็เลือกอันนั้น
ดังนั้น “ทิปโก้” จึงนำจึงสร้างโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการเพิ่มความเป็น Functional Benefit หลากหลาย ตั้งแต่ วิตามิน คอลลาเจน ไปจนถึง ไฟเบอร์ เข้ามาเป็นส่วนผสมสำคัญในการทำตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์เครื่องดื่มสุขภาพดีตอบรับดีมานด์คนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตสนุก แบบดูแลตัวเอง เป็นการเพิ่มโอกาสพร้อมสร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค จากเดิมที่อาจจะมีแบรนด์ให้เลือกอยู่ 2-3 แบรนด์
จึงตกผลึกมาที่การนำจุดแข็งของแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดนำ้ผลไม้ ต่อยอดสู่พอร์ตสินค้าเครื่องดื่มอัดก๊าซใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ที่ต้องมีทั้งความหลากหลายของรสชาติและตัวสินค้า โดย “ทิปโก้ อิซซี่” (Tipco Izzi) จะใช้เจาะตลาด Carbonated Drink โดยมี 4 รสชาติ ได้แก่ พีช, ส้มยูสุ, มิกซ์เบอร์รี่ และ มะม่วง ปริมาณ 330 มล. ในราคา 16 บาท
ต่อมากับ “ทิปโก้ โซซ่า” (Tipco Soza) เป็นการตอกย้ำแบรนด์น้ำผลไม้อันดับ 1 ในการรุกตลาดนำ้ผลไม้แท้สปาร์คกลิ้ง Sparkling Juice โดยผลิตจากน้ำผลไม้แท้ ๆ ที่ผ่านกระบวนการอัดก๊าซเข้าไป มีจุดเด่นคือความหวานจากธรรมชาติแบบไม่เติมน้ำตาล ใหม่ มี 2 รสชาติ ได้แก่ สับปะรดหอมสุวรรณ และ องุ่นแดง ราคา 35 บาท ต่อยอดจากน้ำผลไม้ที่ทิปโก้ถนัด และเลือกรสชาติที่ทิปโก้ขายดี
ทั้งหมดเน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนที่ชื่นชอบกลิ่นและความซ่าของนำ้ผลไม้ ชื่นชอบปาร์ตี้สนุกสาน แม้จะอยู่ในวัย 40-50 ปีก็ตาม
เติม Function เพิ่ม Benefit สร้างการรับรู้แบรนด์ แบบ Right Timing
คุณจักรภพ ฉิมอำพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ในกลุ่ม บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากเล็งศักยภาพในตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซ ประกอบกับเทรนด์การดูแลสุขภาพ เป็นการนำความเชี่ยวชาญของแบรนด์มาต่อยอดตามกระแสของตลาด ที่ต้องมีมากกว่าการเป็นเครื่องดื่มอัดก๊าซ ทำให้ “ทิปโก้” เร่ิมมองหาโอกาสทางการตลาดจากความต้องการดังกล่าว การเข้ามารุกตลาดดังกล่าวแม้จะมีผู้เล่นที่ทำตลาดและมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ด้วยช่องว่างในตลาดเครื่องดื่มที่มีเซกเมนต์ย่อยอยู่มากมายมาใช้ในการพัฒนาสินค้าใหม่
“หลายคนถามว่าเรามาช้ากับตลาดนี้ไปหรือไม่ แต่เรามองว่าการเข้ามาในจังหวะนี้ถือเป็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะคนเริ่มเรียนรู้เทรนด์สุขภาพ รู้จักเครื่องดื่มอัดก๊าซมากขึ้น ซึ่งเรานำจุดแข็งอย่าง Know How หรือความเชี่ยวชาญในตลาดน้ำผลไม้ มาต่อยอดสู่สินค้าใหม่ๆเข้ามารองรับเทรนด์ตลาดที่ไม่ช้าไม่ช้าไปหรือเร็วไป การมาเร็วไปตลาดยังไม่ Educate อาจจะทำให้สุ่มเสี่ยงกว่ามาก แต่การเข้ามาจังหวะเวลานี้คือการตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ที่คนเริ่มมองหาเบเนฟิตในการดื่มควบคู่กันไปถือเป็นช่วง Right Timing ที่จังหวะถูกพอดี”
นอกจากจุดเด่นเรื่องของสินค้าแล้ว กลยุทธ์การตลาดแบบ 4P ( Marketing Mix ) อย่าง Product, Price, Promotion และ Place ทั้งการเปิดตัวแคมเปญการตลาด การเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านรูปแบบการ ชงชิมได้ลิ้มรสเกิดเป็นรสชาติประจำ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดการทดลองชิม จนเกิดการบอกต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวงกว้างมากขึ้น
ควบคู่กับการสื่อสารผ่านโฆษณาทางทีวี (TVC) / สื่อ Outdoor รูปแบบต่างๆ รวมถึงอินฟูลเอ็นเซอร์ โดยในช่วงแรกจะเป็นการวางจำหน่ายในช่วงแรกที่กำลังทยอยวางขายในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนจะขยายเข้าไปในช่องทางเซเว่น อีเลฟเว่นในอนาคต เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอแผนงานเพื่อเข้าไปวางจำหน่าย
อย่างไรก็ตามด้วยความที่ตลาดมีการแข่งขันกันสูงขึ้น จำนวนผู้เล่นแต่ละรายล้วนเป็นบิ๊กเนมในวงการเครื่องดื่ม ทำให้เป้าหมายในช่วงปีแรก “ทิปโก้ อิซซี่” (Tipco Izzi) และ “ทิปโก้ โซซ่า” (Tipco Soza) มองเป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค อยากให้เปิดตู้เย็นเจอเครื่องดื่มสปาร์กกลิ้งของทางแบรนด์ ขณะที่ในระยะยาวตั้งเป้าว่าจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในตลาดของกลุ่มเครื่องดื่ม Carbonated Drink และมุ่งสู่ความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องดื่มประเภท Sparkling Juice