Translucia (บริษัท ทรานส์ลูเซีย จำกัด) ผู้ก่อตั้งและพัฒนาศูนย์รวมเมทาเวิร์ส ในเครือ T&B (ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล ประเทศไทย จำกัด) เดินหน้าเต็มกำลัง ล่าสุด ดึงพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกรายใหม่เข้าร่วมเพิ่มอีก 4 ราย จากเดิม 3 ราย เพื่อเติมเต็มระบบอีโคซิสเต็มด้านการพัฒนาบน Translucia ให้พร้อมรองรับโครงการเมทาเวิร์สต่าง ๆ ที่จะมาเข้าร่วม มูลค่าร่วมแสนล้านบาทนี้
ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมณ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร T&B และ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Translucia (ทรานส์ลูเซีย) กล่าวว่า การจับมือกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของโลกในสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมทาเวิร์ส เพิ่มเติมในครั้งนี้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการออกแบบโครงสร้างของ Translucia ให้พร้อมรองรับ metaverse ต่างๆ ที่พัฒนาโดยพันธมิตรและคู่ค้าที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Translucia ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ Translucia มุ่งพัฒนาจักรวาลโลกเสมือนที่เป็นมากกว่า metaverse ทั่วไป แต่เป็นศูนย์รวมเมทาเวิร์ส (Interconnected Metaverses) ที่มีโครงการ metaverse ในรูปแบบต่างๆ อยู่ร่วมกันและเชื่อมต่อกันได้ โดย Translucia ทำหน้าที่สร้างระบบเศรษฐกิจ สังคม ระบบสาธารณูปโภค เทคโนโลยี ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์โปรแกรม เพื่อรองรับทุก ๆ metaverse ให้สามารถมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อการใช้ชีวิตระหว่างโลกเสมือนและโลกจริงแบบ 360 องศา
“Translucia รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำในสาขาต่างๆจากทั่วโลกเพิ่มเติม ในการผนึกกำลังพัฒนาโครงการ Translucia และยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ความเชี่ยวชาญ ความสามารถและเทคโนโลยีขั้นสูงของเหล่าพันธมิตรที่เข้ามารวมตัวกันในโครงการนี้ จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผลักดันให้ Translucia สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้”
สำหรับ 4 พันธมิตรรายใหม่นั้น ล้วนเป็นบริษัทระดับชั้นนำของโลกที่เป็นกำลังสำคัญ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการนี้ ได้แก่ Sunovatech (ซูโนวาเทค) ซึ่งจะร่วมออกแบบประสบการณ์ โลกเสมือนแบบ 3 มิติให้กับ Translucia นี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน creative technology (เทคโนโลยีสร้างสรรค์) จากประเทศอินเดีย มีความเชี่ยวชาญการออกแบบ 3D Modeling & Rendering ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา 3D assets และ environment สำหรับ Translucia ที่สำคัญ Sunovatech ยังนับเป็นสตูดิโอแถวหน้าของโลกที่สร้าง Visualization โดยใช้เทคโนโลยี Unreal Engine (อันเรียล เอนจิ้น) และมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีนีซึ่งจัดว่าหาได้ยาก
Sygnum (ซิกนัม) ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัล รายแรกของโลก จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นธนาคารแห่งแรกของโลกที่ให้บริการระบบดิจิทัลแบงค์กิ้งความปลอดภัยสูงที่เรียกว่า “Custody” นอกจากนี้ Sygnum ยังให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธนาคารดิจิทัล ทั้งตัวแทนจำหน่าย ระบบโทเคน ระบบกู้ยืมและบริหารสินทรัพย์ โดย Translucia จะร่วมงานกับ Sygnum สาขาสิงคโปร์ ในฐานะของหนึ่งในผู้วางโครงสร้างระบบการเงินให้กับ Translucia
Economics Design (อีโคโนมิคส์ดีไซน์) อีกหนึ่งพันธมิตรที่จะทำงานร่วมกับ Sygnum ในการวางรากฐานโครงสร้างเศรษฐกิจให้กับ Translucia โดยจะเป็นที่ปรึกษาด้านการวางรากฐานโครงสร้าง Tokenomics หรือ กลไกการควบคุมปริมาณเหรียญในระบบอีโคซิสเต็ม ไปจนถึงพัฒนาโปรเจค Web 3.0 DeFi GameFi และระบบ Metaverse จากประเทศสิงคโปร์
และพันธมิตรใหม่อีกรายที่เปิดตัวรวมกันในครั้งนี้ ได้แก่ Black Flame (แบล็คเฟลม) บริษัทครีเอทีฟชั้นนำจากประเทศจีน ที่เชี่ยวชาญการออกแบบงาน Visual Design จะมามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ ทัศนียภาพ อวตาร สถาปัตยกรรม และ สิ่งแวดล้อม และคอนเซ็ปต์องค์รวมและร่วมพัฒนาการสร้างเรื่องราวให้กับ Translucia โดย Black Flame มีผลงานการออกแบบมากมาย อาทิ งานภาพยนตร์ NeZha และ The Monkey King 2
ก่อนหน้านี้ Translucia ได้ประกาศความร่วมมือกับ 3 พันธมิตรระดับโลกผู้มาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาโครงการ Translucia ได้แก่ Pellar Technology (เพลลาร์ เทคโนโลยี) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและผู้ออกแบบอีโคซิสเต็ม ของระบบเศรษฐกิจบนเทคโนโลยีบล็อคเชนให้กับ Translucia ส่วน ITEC Entertainment (ไอเทค เอ็นเทอร์เทนเมนท์) รับหน้าที่การออกแบบประสบการณ์และเทคโนโลยีด้านความบันเทิง
ส่วนรายที่สาม Two Bulls (ทูบูลส์) บริษัทด้านพัฒนาเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์จากประเทศออสเตรเลีย นอกจากเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบประสบการณ์การใช้งาน ของ Translucia เพื่อเชื่อมประสบการณ์ผู้ใช้ระหว่างโลกจริง และ โลกเสมือนแล้ว ยังเป็นพันธมิตรที่ร่วมทำการวิจัยในศูนย์วิจัย Metaverse R&D Center ที่มีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ Two Bulls ได้เป็นส่วนหนึ่งของ DEPT บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการด้านเทคโนโลยีและการวางแผนการตลาดอันดับต้นๆ ของโลก สู่การขยายฐานตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ขณะนี้ การทำงานร่วมกับสามพันธมิตรดังกล่าวในการออกแบบรูปแบบและโครงสร้างของโครงการก็มีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนี้ Translucia คาดว่าจะเปิดตัวพันธมิตรใหม่อีกอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทระดับโลกในสาขาต่าง ๆ อีกหลายราย
ทั้งนี้ ดร. ชวัลวัฒน์ กล่าวว่า การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรระดับโลกเหล่านี้ จะทำให้โครงการ Translucia เป็นส่วนสำคัญในการสร้างและพัฒนาเมกาเทรนด์ของโลก และเนรมิตการใช้ชีวิตในทุกๆ แง่มุมในโลกจริง โดยดำเนินควบคู่กับโลกเสมือนกันได้อย่าง ไร้รอยต่อและสมบูรณ์แบบรวมไปถึงการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม ขับเคลื่อนธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ สอดรับกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ในอนาคตอย่างยั่งยืน
“ในต้นปีหน้า เราจะเผยให้เห็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นรูปธรรมของ Translucia ชัดเจนยิ่งขึ้น ในงาน Virtual Experience กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาสัมผัส Translucia ศูนย์รวมเมทาเวิร์ส เป็นครั้งแรก” ดร. ชวัลวัฒน์ กล่าว