เชื่อว่าคนที่เคยเดินทางไปจังหวัด “จันทบุรี” มักจะได้ความประทับใจกลับมามากมาย ทั้งจากตัวทริปการเดินทางที่ได้เห็นสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ภูมิประเทศที่มีความครบเครื่อง ทั้งหาดทราย ภูเขา น้ำตก อาหารทะเลที่สดหวาน อาหารพื้นเมืองที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนผลไม้ตามฤดูกาลที่มีมากมายให้เลือกซื้อหา โดยเฉพาะ “ทุเรียน – มังคุด” ราชาและราชินีแห่งผลไม้ไทย
จังหวัดที่อยู่ติดกับอ่าวไทย แต่กลับมีจุดขายมากกว่าทะเลอย่าง “จันทบุรี” นี้ จึงกลายเป็นอัญมณีเม็ดงามที่หลายคนเมื่อได้ไปเยี่ยมเยือนแล้วก็อยากแวะเวียนกลับไปค้นหาใหม่อยู่เรื่อย ๆ รวมถึงเพื่อนรักสามคนที่มีความผูกพันกับจังหวัดจันทบุรีตั้งแต่เด็กอย่าง คุณสี่รัก คุณประภากร, คุณสุนิสา อรรถการวงศ์ และคุณบุสรา มหาผลเจริญ ที่ในที่สุด พวกเธอก็ตัดสินใจนำเอกลักษณ์ของจังหวัดมานำเสนอให้กว้างขึ้น ผ่านแบรนด์ “จันท์เจ้ามาร์เก็ต” ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวยังสามารถช่วยให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน (Community sustainability) รวมถึงแนวคิดการพัฒนาต่อยอดสินค้าโดยใช้หลักการจัดการ Food Waste อีกด้วย
“จุดเริ่มต้นของการสร้างร้านจันท์เจ้ามาร์เก็ต คือการที่เราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก และจะไปเที่ยวจันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสี่รักด้วยกันเสมอ แม้พอโตแล้วเจอกันน้อยลง แต่จันทบุรีก็ยังเป็นจังหวัดที่เราต้องแวะเวียนไป ทุกครั้งที่ไปเราได้เจอผู้คน ได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นจันทบุรีจริง ๆ และของฝากจากจันทบุรี เช่น ข้าวพองน้ำปลา ท็อฟฟี่ทุเรียน ก็เป็นของฝากที่ทุกคนติดใจ และมักถามถึงที่มาเสมอ” คุณสุนิสาเล่า
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเธอทั้ง 3 คนตัดสินใจเปิดร้านจันท์เจ้ามาร์เก็ตมาจากช่วงปี 2020 ที่มีการระบาดของ Covid-19 และเกิดการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปจันทบุรีได้อีก
“ตอนนั้นมีคนถามถึงผลไม้จากจันทบุรีกับเรามากมาย และเราก็เห็นว่า ผลผลิตที่จันทบุรีก็ออกมาเป็นจำนวนมาก เราก็เลยสร้างร้านจันท์เจ้ามาร์เก็ตขึ้นมาในกรุงเทพฯ หวังให้เป็นฮับนำผลไม้จากจันทบุรีเข้ามา เพื่อช่วยคนท้องถิ่นให้สามารถขายผลไม้ได้” คุณสี่รักกล่าว
สะท้อนเสน่ห์เมืองจันท์สไตล์ “จันท์เจ้ามาร์เก็ต”
ไม่แปลกหากเราจะได้เห็นเมนู หรือสินค้าชื่อไม่คุ้น ปรากฏอยู่ในร้านจันท์เจ้ามากมาย เช่น น้ำปลาตราสามกระต่าย ข้าวคลุกพริกเกลือ เส้นจันท์ผัดปู ไอศกรีมรสมะปี๊ดน้ำผึ้ง คุ้กกี้กระบก ซอสพริกโกศลตรานกนางนวล พริกไทยดำป่นจันทบูร น้ำตาลอ้อยหนองบัว ซอสบ๊วยเจี่ยตรานกนางนวล ฯลฯ โดยสินค้าท้องถิ่นหลาย ๆ รายการก็ถูกนำมาแต่งตัวเสียใหม่ให้ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการความพกพาง่าย หยิบจับสะดวก แต่สินค้าบางส่วนก็ยังคงหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองจากภาคตะวันออกเอาไว้
“ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเป็นคนที่ชอบทานอาหารเหมือนกัน แต่เมื่อกินแล้ว เรายังเห็นถึงความเป็น Authenticity เราเห็นความตั้งใจของคนท้องถิ่นในการทำเครื่องปรุง ทำอาหารอะไรสักอย่างให้ดีที่สุด เราจึงอยากจะเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้คนรู้จักมากขึ้น กอปรกับเราอยากทำให้สินค้าเหล่านั้นได้รับการสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย เพราะเราเชื่อว่า มันจะถูกส่งต่อกลับไปยังชุมชนที่เรารักให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน” คุณสี่รักกล่าว
ตัวตนของ “จันท์เจ้า มาร์เก็ต”
การเติบโตโดยชูเสน่ห์ของจันทบุรีใน “จันท์เจ้ามาร์เก็ต” กำลังได้รับความสนใจ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ของหวาน รวมถึงการออกบูธในพื้นที่ต่าง ๆ ของทางแบรนด์เพื่อสร้างการรู้จักในวงกว้าง ตลอดจนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเหมาะเจาะ
คุณสี่รักเล่าถึงจุดนี้ว่า “เราอยากเล่าเรื่องราววัฒนธรรมการกินของจันทบุรี ผ่านเมนูต่าง ๆ ของร้าน ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นหลายอย่างที่เกือบจะถูกลืมไปแล้ว มาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มากได้ง่าย ทั้งเป็นการรักษาวัฒนธรรม เป็นการรักษาอาชีพ และแก่นเดิมของภูมิปัญญาด้านอาหารนั้นไว้ ซึ่งเรามองว่าสามารถต่อยอดไปสู่การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อออกค้นหาเรื่องราวเหล่านั้นได้”
คุณบุสรา อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งเสริมด้วยว่า “ตั้งแต่เราเริ่มทำธุรกิจจนถึงวันนี้ เราพบผู้ร่วมทางที่รักในสิ่งเดียวกันกับเราเพิ่มขึ้นทุกวัน เรามีความสุขทุกครั้งที่ผู้แวะมาเยี่ยมเยียนเห็นคุณค่า และยินดีที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน การส่งต่อของความรักในคุณค่า ของรากเหง้าทางวัฒนธรรม มีพลังในการผลักดันธุรกิจให้ไปได้”
“เราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้า ที่เรามองว่าเป็นกลุ่มผู้ร่วมทาง เป็นกลุ่มที่ให้ Value ในการมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่มารับประทานอาหาร แต่ต้องเป็นอาหารที่มีรสชาติแท้ ๆ หรือรสชาติดั้งเดิมของท้องถิ่น ที่มาพร้อมกับเรื่องราว กลุ่มผู้ร่วมทางเหล่านี้พร้อมจะช่วยกันรักษาวัฒนธรรมพื้นถิ่นให้ยั่งยืนต่อไป นี่จึงอาจเป็นความแตกต่างของ Model ทางธุรกิจของจันท์เจ้า มาร์เก็ตค่ะ” คุณสุนิสากล่าว
ความท้าทายของการเปิดร้านใจกลาง Covid-19
อย่างไรก็ดี การเปิดร้านใหม่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ถือเป็นสถานการณ์ปราบเซียน เพราะผู้คนไม่สามารถเดินทางไปมาหากันได้เหมือนที่เคยเป็นมา นั่นจึงทำให้ “เทคโนโลยีดิจิทัล” กลายเป็นสิ่งที่มีบทบาทอย่างมากในการสร้างร้านจันท์เจ้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“เดิมการเปิดร้านก็คือการที่ลูกค้าเดินเข้ามาในร้านและถ้าพอใจก็ซื้อสินค้ากลับไป แต่พอ Covid-19 ระบาด มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เทคโนโลยีจึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเราในทุกมิติ เราต้องเล่าเรื่องสินค้าของเราผ่านโซเชียลมีเดีย ต้องมีการทำ Artwork ต่าง ๆ มีการใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ในวันที่ประเทศล็อกดาวน์ ต้องมีระบบหลังบ้าน ดูแลเรื่องการซื้อขาย มีฝ่าย Customer Service ที่สามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว” คุณสุนิสากล่าว
และในที่สุด ฮับผลไม้นั้นก็ได้ต่อยอดออกมาเป็นร้านจันท์เจ้ามาร์เก็ตในแบบฉบับที่เป็นตัวของตัวเองอย่างทุกวันนี้ โดยต้องยอมรับว่า นอกจากจะฝ่าวิกฤติมาได้แล้ว ความทรงจำเกี่ยวกับจันทบุรีของสามผู้ก่อตั้งในวัยเด็ก ก็ได้ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างกลมกล่อมผ่านพื้นที่ของร้านจันท์เจ้ามาร์เก็ต ที่แบ่งออกเป็นส่วนของอาหาร คาเฟ่ และมาร์เก็ต โดยทุกส่วนมีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่การนำสินค้าของดีจากชุมชนต่าง ๆ ที่พวกเธอชื่นชอบ เป็นของดี พิเศษ ของหายากมานำเสนอ หรือการนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวที่พวกเธอทั้ง 3 คนประทับใจ มาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม หรือไอศกรีม ภายใต้แนวคิด “รักษา สร้างสรรค์ ส่งเสริม (ภูมิปัญญาด้านอาหารของท้องถิ่น)” ซึ่งในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน (Community sustainability) และการจัดการด้าน Food Waste ได้เป็นอย่างดี
ผู้ชนะในแคมเปญ “Business We Love” จากเดลล์
ความมีเอกลักษณ์ของจันท์เจ้ามาร์เก็ตยังทำให้แบรนด์ดังกล่าวได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ชนะในแคมเปญ Business We Love จากเดลล์ เทคโนโลยีส์ที่ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและสามารถช่วยเหลือชุมชนให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวมาจากการที่เดลล์ เทคโนโลยีส์มองเห็นว่า ความท้าทายที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องเผชิญในยุคดิจิทัลนั้นมีมากมาย และการจะรับมือได้ดีนั้น ต้องมีตัวช่วยด้านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเหมือนอย่างที่จันท์เจ้ามาร์เก็ตสามารถขับเคลื่อนร้านต่อไปได้แม้ลูกค้าจะไม่สามารถมาที่ร้านได้นั่นเอง โดยหนึ่งในเครื่องมือที่เดลล์มองว่าตอบโจทย์ และช่วยให้ธุรกิจยุคใหม่แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็คือ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป Dell XPS 13 Plus ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์พลังแรงอย่าง Intel® Evo™ platform powered by Intel® Core™ i7 processor และระบบปฏิบัติการ Windows 11 ตัวล่าสุด น้ำหนักเบา พกพาง่าย แถมยังมาพร้อมดีไซน์เรียบหรูสุดพรีเมี่ยม Seamless glass touchpad ไร้รอยต่อ Zero-lattice keyboard แป้นพิมพ์ที่ใหญ่ขึ้น พิมพ์สะดวกกว่าเดิม Express Charge ที่ชาร์จแบตได้รวดเร็วขึ้น และฟีเจอร์อีกมากมายที่ลงตัวสำหรับธุรกิจของคุณ
จะเห็นได้ว่า การสร้างแบรนด์ให้แตกต่าง Story Telling คือเครื่องมือสำคัญ และการจะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาบนโลกดิจิทัลให้ดีด้วยนั้น การมีเทคโนโลยีดี ๆ อย่าง Dell XPS 13 Plus มาเป็นตัวช่วยก็ถือว่ายิ่งเสริมแกร่งให้ธุรกิจได้มากขึ้น
จันท์เจ้ามาร์เก็ต
ณ เอกมัย ซอย 2
Tel : 092-2644945
Facebook : chanchaomarket
IG : chanchaomarket
Line : @chanchaomarket