“เพราะแอ๊ว ชื่อ “ศุภลักษณ์” แอ๊วจึงเป็นซูเปอร์ลักกี้ในพื้นที่นี้ (สุขุมวิท) “ It’sSuper Lucky All This Land” วันนี้เราผ่านโควิดมา 3 ปี ถึงเวลาแล้วที่เราจะปั้นกรุงเทพมหานคร ให้เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ เทียบชั้นมหานครโลก” คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท สุขุมวิทซิตี้มอลล์ จำกัด กล่าวในงาน THE EMDISTRICT “THE PULSE OF BANGKOK” เปิดตัวโครงการ “THE EM DISTRICT” กับวิชั่นสุดท้าทายในการปั้นย่านเศรษฐกิจแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท
“คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” ถูกขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งวงการค้าปลีกไทย เป็นผู้ปลุกปั้นอาณาจักร The Mall ให้ก้าวสู่รีเทลแถวหน้าของไทยตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดกับสร้างการประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการค้าปลีก แจ้งเกิดบิ๊กโปรเจ็กท์ THE EMDISTRICT กับจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย The Emsphere ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วกว่า 90% ภายใต้แนวคิด “Future Retail” สู่ค้าปลีกแห่งอนาคต ที่มากกว่า Shopping Center แต่คือการยกระดับกรุงเทพฯ สู่มหานครแห่งใหม่ของโลก
จาก Creative Economy สู่การสร้าง DNA ใหม่ ยกกรุงเทพฯ เทียบชั้นมหานครโลก
คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช กล่าวว่า หลังการระบาดของโควิดทั่วโลกเดินหน้าแผนฟื้นฟู ปลุกชีพเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ส่วนใหญ่เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเน้นพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาที่ 10 ล้านคน ก่อนจะเพิ่มเป็น 30 ล้านคนในปี 2023 และ 40 ล้านคนในปี 2024 และเป็น 80 ล้านคนในอนาคตข้างหน้า
ทำอย่างไรจึงจะดึงเม็ดเงินและนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในประเทศเพิ่มเติม เมื่อการท่องเที่ยวรูปแบบดั้งเดิมที่มีการจับจ่ายน้อย ไม่เพียงพอต่อการปลุกชีพเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว จำเป็นต้องยกระดับกรุงเทพฯ สู่มหานครโลก และต้องมีการทำแผนแม่บท การเชื่อมต่อของ Infrastructure เข้าด้วยกัน และต้องมีการเปลี่ยน DNA ของการสร้างเมืองใหม่เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไต์คนไทยและต่างชาติให้มากที่สุด
จากแนวคิดของท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร “คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เริ่มคอนเซ็ปต์การปั้นเมือง Creative Economy ที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ต่างๆเข้าไปในกรุงเทพฯ ซึ่งจำเป็นต้องสร้าง DNA และตัวตนขึ้นมาใหม่ ด้วยบทบาทเมืองแห่งคุณภาพ ต้องมีองค์ประกอบความกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม เพื่อทรานส์ฟอร์มเมือง สู่เมืองที่ทันสมัยเพียบพร้อมไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ เป็นกลมกลืนที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ลักชัวรี แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ศิลปะ และวัฒนธรรม สุขภาพ เทคโนโลยี เอนเตอร์เทนเมนต์ สวนสาธารณะ ไปจนถึงระบบขนส่ง ในการปลุกกรุงเทพฯ ให้ตื่นจากภาวะโควิด
ซึ่งในอนาคตอยากเสนอแนะผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้ปรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เชื่อมการเดินทางในย่านชั้นนำเข้าด้วยกันทั้งหมด ผ่านสกายวอล์ค ไล่เรียงมาตั้งแต่ สกายวอร์ค ศูนย์การค้า MBK มายังราชดำริ, สกายวอล์ค เชื่อมจากอโศกมาที่ทองหล่อ ทำให้คนไม่ต้องใช้รถเดินทางเข้ามาได้ลดปัญหาการติดจราจร
ขณะที่ความสำเร็จที่ผ่านมาหลัง เดอะมอลล์ กรุ๊ป จับมือกับสยามพิวรรธน์ สร้างสยามพารากอน จนกลาย “ปรากฏการณ์ค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย” (THE WORLD CLASS RETAIL & ENTERTAINMENT PHENOMENON) กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ “คุณแอ๊ว”เดินหน้าสู่ความท้าทายด้วยการประกาศผลักดันกรุงเทพฯ สู่มหานครแห่งใหม่ของโลกที่มากกว่า Shopping Center แต่คือสร้างมหานครปลายทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ของโลก ที่ต้องครบเครื่องในทุกมิติ
ปั้น THE EM DISTRICT กับแนวคิด Future Retail ขุมกำลังสำคัญ “ย่านสุขุมวิท”
จุดเริ่มต้นของ THE EMDISTRICT เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาของกับก้าวแรกคือ การเปิดให้บริการศูนย์การค้า Emporium ด้วย Vision ต้องการสร้างความแปลกใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านนวัตกรรม สิ่งแวดล้อม คน เทคโนโลยี นำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
คุณแอ๊ว เล่าว่า ความสำเร็จตลอด 30 ปีที่ผ่านมา Emporium คือบทพิสูจน์ความสำเร็จ แม้จะต้องเผชิญวิกกฤตค่าเงินบาทจาก 20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาเป็น 40-50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ทุกวิกฤตก็มีโอกาสเสมอ ในช่วงเวลาที่ค่าเงินบาทลดลง มีนักท่องเที่ยว 7 ล้านคนเท่านั้น เขามาจากเกาหลี อินโดนีเซีย มาช้อปที่ประเทศไทย การบินไปต่างประเทศที่แพง ทำให้กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงออกมาจับจ่ายสุขุมวิทแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในตลาดลักชัวรี่ของเอ็มโพเรียม
หลังการพูดคุยกับ “แจ็ก หม่า” ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group เมื่อหลายปีที่ผ่านมาของ “คุณแอ๊ว” ได้ค้นพบ 3 keywords สำคัญคือ 1.Globalization คือการมีพันธมิตรที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน 2.Digitalization การร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างๆ หรือ O2O และ 3. Tourism ที่เป็นหัวใจหลักของประเทศ เพราะปัจจุบันประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของโลกทำอย่างไรจึงจะพัฒนาด้านนี้ดึงเม็ดเงินให้ได้มากที่สุด
ยิ่งตอกย้ำแนวคิด Future Retail ของเจ้าตัว ที่ไม่ใช่แค่การสร้างย่านการค้า แต่หมายถึงการดึงนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ เข้ามา เพราะปัจจัยหนึ่งของการยกระดับการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และย่านสุขุมวิทจำเป็นต้องมีเรื่อง Creativity สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การใช้ชีวิต ลักชัวรี่แบรนด์ ไปจนถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่เข้ามาเป็นโจทย์ใหญ่ของการปั้น THE EMDISTRICT จึงไม่ใช่เรื่องของคู่แข่งทางการค้า แต่เป็นการเปลี่ยน DNA เมืองเพื่อเติมโครงข่ายและความหลากหลายให้แก่ย่านสุขุมวิท
ทำให้ THE EM DISTRICT คือขุมกำลังสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันให้เป็นมากกว่า Shopping Center แต่หมายรวมถึงการยกระดับกรุงเทพฯ สู่อีกหนึ่งมหานครของโลก ให้เป็น Global Destination ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เทียบชั้น นิวยอร์ก ปารีส เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และโซล
แต่หากโฟกัสมาที่ “ย่านสุขุมวิท” ปัจจุบันรายล้อมไปด้วยประชากรที่ลงทะเบียนประมาณ 720,000 คน แต่หากรวมที่ไม่ได้ลงทะเบียนแล้วจะมีรวมมากกว่า 1,000,000 ขณะที่ในรัศมี 5 กิโลเมตรจาก The EmDistrict ยังมีที่อยู่อาศัยมากกว่า 560,000 ยูนิต มีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่กว่า 100 โครงการรวมมากกว่า 180,000 ยูนิต ระดับราคาตั้งแต่ 160,000-600,000 และมีโครงการในระหว่างก่อสร้างมากกว่า 51โครงการ และนั่นคือโอกาสสำคัญของทางกลุ่มในการทะยานสู่เป้าหมาย
โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมาแม้จะมีการระบาดของโควิด-19 แต่ “คุณแอ๊ว” ซุ่มเงียบพัฒนาบิ๊กโปรเจ็ก THE EM DISTRICT อย่างต่อเนื่อง จนคลอดเป็น The Emsphere จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของโปรเจ็กท์ได้ตามกำหนด โดยจะเปิดให้บริการในปี 2023 ต่อจาก The Emporium และ The Emquartier ทั้งหมดมีมูลค่าโครงการร่วม 60,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ ใจกลางสุขุมวิท (BTS พร้อมพงษ์) โอบล้อมสวนเบญจสิริ
สำหรับการเปิดตัว The Emsphere มาในรูปแบบ Hybrid New Entertain & Hang Out ใจกลางสุขุมวิท โดยจะให้บริการครอบคลุมศูนย์รวมแฟชั่น ลักชัวรี เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ลิฟวิง และไดนิ่ง จากแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกและไทยที่มีกระแสกว่า 1,000 แบรนด์ โดย The Emsphere มาพร้อมแนวคิด Future Retail หรือศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่ไม่เคยหลับใหล (SLEEPLESS METROPOLIS) บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ที่ประกอบด้วยโซนต่างๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต
ที่น่าสนใจคือการเพิ่มแม็กเนตใหม่เข้ามาสร้างดีมานด์ในย่านสุขุมวิทให้มากขึ้น อย่าง EM WONDER แหล่งแฮงก์เอาต์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร สีสันของความบันเทิงที่เป็นที่สุดสำหรับชาวไทย และนักท่องเที่ยว, EM INNOVATION แหล่งรวมนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลกครั้งแรกในเมืองไทย, IKEA CITY STORE อิเกีย ซิตี้ สโตร์แห่งแรกของเมืองไทย และของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นอิเกีย City Store ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
และการเปิดตัว EMLIVE ที่สุดแห่งความบันเทิงระดับโลกกับ World Class Arena ความจุ 6,000 ที่นั่ง โดยการบริหารงานของ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาระดับโลกเป็นแห่งแรกบนถนนสุขุมวิท โดยปัจจุบันการก่อสร้างของดิ เอ็มสเฟียร์ ด้านการก่อสร้างโครงสร้างมีความคืบหน้าแล้วมากกว่า 90% ส่วนงานสถาปัตยกรรมคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าได้ช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนธันวาคม 2566
นอกจากเมกะโปรเจ็คต์นี้แล้ว ทางค่ายยังเตรียมการทรานส์ฟอร์มเอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ โฉมใหม่ภายใต้เงินลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อทำให้ THE EM DISTRICT มีความ Complete สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
โดยทั้ง 3 ศูนย์ได้วาง Positioning เจาะกลุ่มลูกค้าต่างกัน ตั้งแต่แบรนด์สินค้าแม้จะมีบริการจะคล้ายๆ กันอยู่บ้าง แต่เอ็มควอเทียร์และ ดิ เอ็มโพเรียม จะเน้นจับฐานลูกค้าเก่าที่มีกำลังซื้อสูง ขณะที่ ดิ เอ็มสเฟียร์ จะเน้นจับฐานคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อเช่นเดียวกัน มีไลฟ์สไตล์กิจกรรมมากกว่า
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการสร้างความสำเร็จในการยกระดับกรุงเทพฯ คือ การเชื่อมเครือข่ายคมนาคม เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะทำเลที่ตั้งปัจจุบันของ THE EM DISTRICT อยู่ใจกลางสุขุมวิท พาดกลางระหว่าง mrt และ bts สถานีสุขุมวิทและอโศก ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเทา รามอินทรา-ทองหล่อ ที่จะเกิดขึ้นในในอนาคต นั่นคือจุดแข็งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
ไม่เพียงแค่ย่านสุขุมวิทเท่านั้น หากแต่เดอะมอลล์ยังสยายอาณาจักรค้าปลีกทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วง Down Town เป็นสยามพารากอน Mid Town มีเอ็มดิสทริค THE EM DISTRICT และ Up Town คือ Bangkok Mall (ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างบริเวณสี่แยกบางนา) และนั่นคือจุดแข็งของเดอะมอลล์ ที่ไม่ใช่แค่การปั้นย่านใดย่านหนึ่งเพื่อสร้างกรุงเทพฯ สู่มหานครใหม่ แต่ยังวางโครงการเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกมุมเมือง
โดยมีหมุดหมายสำคัญคือการปั้นกรุงเทพฯ สู่ มหานครใหม่ ที่ครบครันในทุกด้าน และกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ยูนีคของโลก สร้างความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจอย่างแท้จริง เพื่อยกระดับกรุงเทพฯ และThe EmDistric ให้เป็นแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก
อ่านเพิ่มเติม
อภิมหาโปรเจกต์ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” ฝันใหญ่ครั้งใหม่ของ “ศุภลักษณ์ อัมพุช”