“อิมแพ็ค เมืองทองธานี” ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าขนาดใหญ่ของไทย ด้วยพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ที่มีทั้งโครงการบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ผู้พักอาศัยราว 200,000 คน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีร้านค้า สถานบริการ อาคารสำนักงานภาครัฐ-เอกชน สถานศึกษา เปิดดำเนินการหลายแห่งในพื้นที่ และมีผู้หมุนเวียนเข้ามาใช้บริการกว่า 10 ล้านคนต่อปี ปัจจัยดังกล่าวทำให้ อิมแพ็คฯ กลายเป็นอีกหนึ่งรูปแบบเมืองขนาดย่อยที่มี ระบบนิเวศน์เป็นของตัวเอง
ขณะที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดปัญหา วิกฤตต่างๆมากมาย ทั้งภัยธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ทุกส่วน ทั้งเจ้าของสถานที่ ผู้จัดงาน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญในการจัดงานอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวก็เริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทย
นั้นทำให้ทางอิมแพ็คฯ ตระหนักถึงการขับเคลื่อนธุรกิจที่ยั่งยืนทุกมิติ ทั้ง สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะใน ธุรกิจไมซ์ (MICE) ที่ไม่ได้มุ่งหวังแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่พร้อมที่จะเติบโตและรับผิดชอบส่วนรวมในทุกด้านควบคู่กันไปในการ เพื่อผลักดันให้เกิดการจัดงานอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมไมซ์ไทย พร้อมทั้งสร้างความยั่งยืนให้แก่แหล่งชมชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้คำนึกถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สร้าง 3 ค่านิยมใหม่ “สังคม-เศรษฐกิจ-สิ่งแวดล้อม” หนุนธุรกิจยั่งยืน
คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชาคมโลกมีข้อตกลงร่วมกันที่จะใช้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป็นกรอบในการพัฒนาของโลกใน 3 มิติ ได้แก่ มิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งอิมแพ็ค ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ตระหนักถึงความสำคัญและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
จึงขอเป็นหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างค่านิยมภายในองค์กร ภายใต้ 3 มิติ ผ่านโครงการต่างๆที่เกิดขึ้น ดังนี้
- ด้านสังคม การว่าจ้างงานและใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างยุติธรรม เคารพความแตกต่างต่อโอกาสความเท่าเทียม การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น เช่น โครงการกล้าไมซ์ สนับสนุนการศึกษาฝึกงานให้แก่นักศึกษา โครงการดูแลสุนัขจรจัดพื้นที่โครงการเมืองทองธานี เป็นต้น
- ด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การจัดซื้อที่โปร่งใสและสมเหตุสมผล การส่งเสริมนวัตกรรม เช่น โครงการอิมแพ็คฟาร์ม ทำหน้าที่ในการรับซื้อผักออร์แกนิกจากเกษตรกร มาจำหน่ายโดยตรงและใช้เป็นวัตถุดิบหลักในร้านอาหารเครืออิมแพ็ค เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้ยั่งยืน เป็นต้น
- ด้านสิ่งแวดล้อม ลดขยะของเสีย การใช้ซ้ำและการนำกลับมาใช้ใหม่ การใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการไปแล้วหลายโครงการ เช่น โครงการติดตั้ง Solar Roof รวม 3 อาคาร คือ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค ฟอรั่ม และอาคารจอดรถ 3 เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 โครงการลดการใช้พลังงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โครงการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง โครงการเปลี่ยนขยะอาหารเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเครื่อง Food Waste Composter ในการรีดของเหลวส่วนเกินออกจากขยะเศษอาหาร แล้วนำเศษอาหารที่รีดน้ำออกไปทำเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้น
เปิดแพ็คเกจ Impact Sustainable Meeting ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวแพ็คเกจ Impact Sustainable Meeting เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้จัดงานประชุม อีเวนต์ คอนเสิร์ต ได้มีส่วนร่วมในการจัดงานที่สามารถลดผลกระทบเชิงลบต่อสภาพแวดล้อมได้ เช่น การลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดแพ็คเกจ Impact Sustainable Meeting นั้น หน่วยงาน องค์กร สามารถเลือกรูปแบบการจัดงานอย่างยั่งยืนได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดงานของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งอิมแพ็ค จะทำหน้าที่บริหารจัดการงานอย่างยั่งยืน 3 ส่วน ได้แก่
1. การให้บริการสถานที่ อุปกรณ์สำหรับการจัดงานอย่างยั่งยืนเบื้องต้น เช่น การเผยแพร่นโยบายความยั่งยืนแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ การจัดห้องประชุมอย่างยั่งยืน การงดใช้ผ้าคลุมโต๊ะและเก้าอี้ในการจัดประชุม การตั้งจุดบริการแบบกลุ่มแทนการจัดให้รายบุคคล งดใช้หลอดพลาสติกในทุกกิจกรรม ควบคุมเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จัดให้มีการแยกขยะรีไซเคิล ขยะเปียก ขยะทั่วไป เป็นต้น
2. ลูกค้าสามารถเลือกรายการอาหารสำหรับจัดการประชุมแบบรักษ์โลก ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ผ่านการเลือกรับประทานเมนูมังสวิรัติหรือโปรตีนจากพืช และ 3.กรณีที่จำนวนอาหารเหลือจากการจัดงาน อิมแพ็คฯ มีบริการจัดสรรแบ่งปันอาหารที่เหลือบริจาคให้แก่มูลนิธิต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม
นับเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมรายแรกของประเทศไทยที่วางแนวทางปฎิบัติการจัดงานแบบยั่งยืนในทุกรูปแบบการจัดงาน ทั้งงานแสดงสินค้า คอนเสิร์ต การจัดประชุม งานเลี้ยงสังสรรค์ โดยมีเป้าหมาย เพื่อลดผลกระทบทางตรงและทางอ้อมที่เกิดจากการจัดงาน พร้อมๆกับสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจควบคู่ไป