การทำธุรกิจยุคนี้มี Passion อย่างเดียวอาจจะไม่พอ ยิ่งเป็น SMEs แบรนด์เล็กที่ยังขาดประสบการณ์ การมีพาร์ทเนอร์ และบิ๊กเนมตัวจริงเข้ามาช่วย Scale Up ธุรกิจให้โตขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น
“เซ็นทรัลพัฒนา” (CPN) ผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศและพี่ใหญ่ในวงการรีเทลไทย เข้าใจและเล็งเห็นความท้าทายของ SMEs และ Start Up ยุคนี้เป็นอย่างดี จึงจับมือกับ ม.ธรรมศาสตร์ สานต่อหลักสูตร “LEAD รุ่น 4” คอร์สรีเทลที่ดีที่สุดของไทย เพื่อสร้างความสำเร็จและการเติบโตให้กับ โดยกลับมาอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังการระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลาย เพื่อปั้น SMEs ดาวรุ่งใหม่ๆให้กับวงการรีเทล ยกระดับวงการรีเทลไทย และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมย้ำภาพขององค์กรที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของทุกคน ภายใต้แนวคิด “Imagining Better Futures For All”
เซ็นทรัลพัฒนาได้ทำหน้าที่เป็น Incubator ที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวงการรีเทลอย่างครบวงจรแก่ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อดึง SMEs เข้ามาอยู่ในระบบ Business Ecosystem ของกลุ่มเซ็นทรัล สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปกับเครือข่ายของกลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศ
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา เผยถึงสูตรสำเร็จของ “LEAD รุ่นที่ 4” ในครั้งนี้ว่า นโยบายของ “คุณทศ จิราธิวัฒน์” ตั้งแต่ Day1 คือ การเดินหน้าเป้าหมายพัฒนา SMEs ในประเทศด้วยการเปิดพื้นที่ 10% ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ให้เป็นพื้นที่ของ SMEs รุ่นใหม่ ได้มีพื้นที่ขายในศูนย์การค้า ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้าธรรมดา หรือช่องทางออนไลน์ และได้ลงมาปฏิบัติจริง ทดลองตลาดจริง ก่อนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้เช่า โดยมีหลักสูตร LEAD เป็นฟันเฟืองสำคัญในการค้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพเข้ามาเติมเต็มนโยบาย โดยเซ็นทรัลพัฒนามีหน้าที่เชื่อมโยง SMEs เข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของกลุ่มเซ็นทรัล แล้วผลักดัน SMEs ขนาดไมโครให้เป็น Small SMEs
“ประเทศไทยมี SMEs ที่บริหารโดยคนรุ่นใหม่เก่งๆ และมี Potential ที่จะเติบโต แต่อาจยังขาดโอกาส ช่องทางในการ ขยายธุรกิจ เซ็นทรัลพัฒนา เป็นพี่ใหญ่ในวงการรีเทล มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมายาวนานมากกว่า 40 ปี และมี Business Ecosystem ที่แข็งแกร่งของทั้งกลุ่มเซ็นทรัล และพาร์ทเนอร์จากหลากหลายธุรกิจ เราจึงอยากปั้น SMEs ดาวรุ่งใหม่ๆให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
#LEAD4 สร้าง Ecosystem ด้วยคอนเซ็ปต์ “เรียนจริง ทำจริง โตจริง”
ภายใต้วิสัยทัศน์ดังกล่าวทำให้เซ็นทรัลพัฒนาเดินหน้าคอร์ส LEAD อย่างต่อเนื่อง สู่การสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งและโตไปด้วยกัน ด้วยคอนเซ็ปต์ “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” เข้มข้นด้วย Knowledge & Know-How จากกูรูแถวหน้าของวงการรีเทล และผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัล มาถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน ครอบคลุมทุกเรื่องรีเทล ที่ผู้ประกอบการต้องรู้
สำหรับคอร์ส LEAD รุ่น 4 ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับเทรนด์ของธุรกิจรีเทลใน 2 เรื่องหลัก อย่างการ “Co-Creation” ที่เชื่อเรื่องไอเดีย การใช้จุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ ผนวกเข้ากับเรื่องของ “Omnichannal” จนเกิดเป็นหัวข้อ “Omni Retail for Sustainable business” ภายใต้ความเชื่อว่าโลกธุรกิจในทุกวันนี้ต้องเชื่อมโยงทั้ง Ecosystem เข้าด้วยกัน จึงได้เกิด ความเป็น Omni Retail ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญและทำให้ธุรกิจโตอย่างยั่งยืน มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Lead to Success” ผ่านจุดเด่นของคอร์ส 3 ด้าน ได้แก่
1. Success in Retail Knowledge Optimization : แชร์ประสบการณ์ Retail Knowledge & Know-How โดยกูรูตัวจริงทั้งผู้บริหารในเครือกลุ่มเซ็นทรัล พาร์ทเนอร์จาก ม.ธรรมศาสตร์ และกูรูชั้นนำแบรนด์ต่างๆ
2. Success in Disruptive Innovation : ด้วย Sandbox Workshop ที่เปิดโอกาสให้คิดนอกกรอบและทดลองไอเดียใหม่ พัฒนาสินค้า หรือบริการรูปแบบใหม่ ทั้งการเรียนรู้และทดลองทำ NPD Workshop (ร่วมกับ Pizza Hut) พร้อมทดลองตลาดจริง ขายจริงใน “LEAD Pop-up market” ในศูนย์การค้า prime location อาทิ centralwOrld และ Central พระราม2
3. Sustainable Business : การได้เข้ามาอยู่ใน Retail Ecosystem ที่ดีที่สุดของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีทั้งศูนย์การค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ และยังมีแผนธุรกิจขยายโครงการอื่นๆ ในรูปแบบ Retail-Led Mixed-Use ที่มีทั้ง ศูนย์การค้า-ที่อยู่อาศัย-โรงแรม และออฟฟิศ
โดยสเต็ปถัดไปเซ็นทรัลพัฒนาจะมีการต่อยอดเพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการผ่านเครื่องมือทางการตลาดอย่าง Data หรือ CRM Marketing รวมถึงเรื่องออนไลน์ ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อ SMEs ในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็น Online Communication, Database และ CRM และ THE1 ที่มีฐานสมาชิก 19 ล้านราย เพื่อช่วยสนับสนุนเหล่าผู้ประกอบการ และผู้เช่าของเซ็นทรัลอีกด้วย
#เน้นขายจริงจาก Signature Model – Creative Pop Up Market ที่หาไม่ได้จากคอร์สไหน
หนึ่งในความพิเศษของหลักสูตรที่ทำให้ LEAD เป็นรีเทลคอร์สที่ดีที่สุดในไทยคือคือการเปิดโอกาสให้ให้ผู้เรียนได้ทำ Collaboration & Co-Branding ที่เน้นปฏิบัติจริง ผ่าน Pop Up Market ให้ผู้เรียนได้ทดลองตลาดจริง บนพื้นที่จริงขายจริง ด้วยการทำ Brand Co-Creation นำความแตกต่างมาพัฒนาสินค้าใหม่ หรือบริการใหม่ ได้อย่างลงตัว พร้อมทดลอง เปิดร้านร่วมกันในรูปแบบ Pop-up Store ซึ่งเป็น Signature Module ของหลักสูตร ที่เน้นการทำ Co-creation
พร้อมทั้งช่วย Transform SMEs ให้เกิด Innovation ใหม่ๆ และทำในแบบข้าม Category ระหว่าง Food, Fashion และ Specialty ซึ่งจากคอร์สที่ผ่านมา โมเดลนี้ช่วยให้ SMEs แตกไลน์สินค้า และต่อยอดธุรกิจได้จริง ได้มาทดลองไอเดีย และ Test ตลาดที่ศูนย์การค้าของทางเซ็นทรัลในสาขาต่างๆ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้ผู้เรียน ได้เจอลูกค้าตัวจริง รู้ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (Know Your Customers) ด้วยการปฏิบัติจริง ตั้งแต่ต้นจนจบ
จากจุดเด่นทั้งหมด ส่งผลให้ LEAD ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามตลอดทั้ง 4 รุ่น ด้วยการปั้นแบรนด์ SMEs ให้ประสบคววามสำเร็จไปแล้วกว่า 150 แบรนด์ หรือ 30-40 แบรนด์ต่อรุ่น สามารถขยายได้ 228 ร้านค้า กระจายไปใน 20 สาขาของศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ มีมูลค่าการเติบโตมากกว่า 1,000 ล้านบาท (จาก SMEs) ในพื้นที่ 21,000 ตร.ม. ถือเป็นจำนวนผู้ประกอบการและมูลค่าที่สามารถสร้างศูนย์การค้าขนาดย่อมได้หนึ่งแห่งเลยทีเดียว
ขณะที่เป้าหมายต่อไปของเซ็นทรัลพัฒนาคือการใช้จุดแข็งการมีเครือข่ายศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ภายในศูนย์การค้า เป็นพื้นที่ของ SMEs รุ่นใหม่ได้มีพื้นที่ขายในศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้น ผ่านหลักสูตร LEAD ยังคงมีเรื่อยๆ เพื่อเติมเต็มนโยบายดังกล่าว แน่นอนว่าไม่ใช่แค่รุ่น 4 หากแต่ยังเดินหน้าเปิดโอกาสพร้อมผลักดันหลักสูตร อย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 5 และปีต่อๆไป
“โจทย์ที่ทำให้หลักสูตรเราประสบความสำเร็จคือ การเรียนจริง ขายจริง ให้ผู้เรียนรู้สึกว่าได้สัมผัสกับลูกค้า เห็นดิสเพลย์ เห็นตัวเลขจริง ว่าหากขายไม่ได้จะต้องทำอย่างไร จะโปรโมทอย่างไรต่อไป นั่นคือสิ่งที่คอร์สอื่นไม่มี จากนี้เรายังคง เดินหน้าผลักดัน SMEs อย่างต่อเนื่อง โดยปีหน้าอาจจจะได้เห็นเซ็นทรัลพัฒนาเข้าไปคัดเลือก SMEs ที่มีศักยภาพ เข้ามาร่วมหลักสูตรด้วยก็ได้” ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กล่าวถึงการปั้นหลักสูตรอย่างต่อเนื่องในปีถัดไป
นับเป็นอีกหนึ่งสูตรความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ SMEs ขนาดย่อม ที่ต้องการเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ พร้อมต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ๆในอนาคต สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ด้วยการต้องพาตัวเองหรือแบรนด์เข้ามาอยู่ใน Environment ที่จะกระตุ้นการเติบโตได้ต่อไป