HomePR Newsน้ำมากแค่ไหน “ไปรษณีย์ไทย” ก็ไปส่ง…ส่องภารกิจสู้สุดใจจากพี่ไปรฯ แห่งเกาะเกร็ด

น้ำมากแค่ไหน “ไปรษณีย์ไทย” ก็ไปส่ง…ส่องภารกิจสู้สุดใจจากพี่ไปรฯ แห่งเกาะเกร็ด

แชร์ :

 flood thailandpost

ท่ามกลางสมรภูมิรบที่ดุเดือดของธุรกิจขนส่งพัสดุเมืองไทยตลอดช่วงที่ผ่านมา ทว่าพี่ใหญ่อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” คงยังเดินหน้าให้บริการเติมเต็มความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูน้ำหลากอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในหลาย ๆ พื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม และทำให้กิจกรรมหลาย ๆ อย่างไม่สามารถดำเนินได้ตามปกติ 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แม้ที่ผ่านมา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะประกาศอัพเดทการให้บริการสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ที่ส่งผลให้การนำจ่ายของไปรษณีย์ไทย ไม่สามารถนำจ่ายได้บางแห่ง แต่ในส่วนของพื้นที่หลักยังคงเดินหน้าให้บริการนำจ่ายสิ่งของ ด้วยการใช้เครือข่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึง โดยในจุดที่มีน้ำท่วมขังระดับสูงเกินกว่าที่รถจักรยานยนต์จะเข้าถึง จะนำจ่ายด้วย รถขนส่งขนาดใหญ่ – เรือ พร้อมกำชับให้ดูแลของที่นำจ่ายทุกชิ้นอย่างปลอดภัย และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

พี่ไปรฯ กับภารกิจส่งพัสดุท่ามกลางสถานการณ์นำ้ท่วม

อีกหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นใหญ่ช่วยขับเคลื่อนการขนส่งพัสดุให้ถึงมือลูกค้า คือ “พี่ไปรฯ” หรือ “บุรุษไปรษณีย์” ผู้ที่ทำหน้าที่หลักในการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า หลายคนสงสัยว่าในสถานการณ์นำ้ท่วมเช่นนี้  พี่ไปรฯ มีวิธีการทำงาน หรือจัดส่งสินค้าอย่างไรให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย

ผ่านมุมน่ารัก ๆ จากพี่ไปรฯ แห่งเกาะเกร็ด นนทบุรี นามว่า “พี่ไปรฯ สนอง พัทคำ” เจ้าหน้าที่นำจ่าย สังกัด ปณ.ปากเกร็ด วัย 56 ปี ทำหน้าที่นำจ่ายมาแล้วถึง  21 ปี กับภารกิจนำของสำคัญส่งถึงมือผู้รับท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมและการจัดส่งที่ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ มาบอกเล่าถึงการทำงาน

 “พี่ไปรฯ สนอง” เล่าว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่นำจ่าย สังกัด ปณ.ปากเกร็ด รับผิดชอบนำจ่ายพื้นที่ตำบลเกาะเกร็ด ทั้ง 7 หมู่ ตามปกติแล้วพื้นที่เกาะเกร็ดจะมีน้ำท่วมทุกปี เนื่องจากลักษณะของพื้นที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทุกครั้งที่ระดับน้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของขึ้นไปไว้บนที่สูง บางปีก็เกือบถึงระดับหัวเข่า บางปีก็เกือบถึงเอว ผลกระทบที่ตามมาคือของบางอย่างโดนน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และรูปแบบการสัญจรเปลี่ยนไป ต้องใช้เรือในการเดินทาง

“เราอยู่กับชาวบ้านมาถึง 21 ปี มีความคุ้นชิน และรู้ว่าทุกบ้านมีความจำเป็นต้องใช้ของที่ส่งมากับช่องทางขนส่ง โดยในปีนี้ รูปร่างหน้าตาของพาหนะนำจ่ายอาจแปลกตาไปสักเล็กน้อย เพราะต้องใช้กล่องพลาสติกใส่พัสดุนำจ่าย เนื่องจากเราไม่อยากให้ของได้รับความเสียหาย และทำให้ชาวบ้านทุกคนรู้สึกว่าไม่ว่าจะในสถานการณ์ปกติ หรือในภาวะน้ำท่วมไปรษณีย์ไทยก็ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอยู่เสมอ ทั้งนี้ของที่ส่งมีทั้งยารักษาโรค จดหมายที่อาจมีการแจ้งเตือนหรือเพื่อการทำธุรกรรม รวมถึงพัสดุ และไม่ว่าจะกี่อุปสรรคพี่ไปรฯ ทุกคนก็พร้อมสู้ไปกับคนไทยอย่างแน่นอน”

 

thailandpost-flood

พี่ไปรฯ “สนอง พัทคำ” เจ้าหน้าที่นำจ่าย สังกัด ปณ.ปากเกร็ด

 

เพิ่มบริการส่งด่วน-หั่นราคา รับไลฟ์สไตล์ 24 ชม.

นอกจากการบริการในช่วงสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมแล้ว ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยยังลดราคาแบบไม่มีวันหยุด ด้วยการจัด  “โปรคุ้ม EMS ลดทุกวัน” โปรโมชันสุดคุ้มเพื่อคนไทยกับการส่งของทุกชิ้น ทุกวัน ทุกพื้นที่ ส่งด่วนในวันจันทร์ – วันเสาร์ราคาเริ่มต้น 25 บาท และในวันอาทิตย์เริ่มต้นในพิกัดแรกเพียง 19 บาท ทุกพื้นที่ทั่วไทยราคาเดียว สามารถส่งสิ่งของที่มีน้ำหนักได้มากถึง 20 กิโลกรัม มาตรฐานความเร็วที่ 1-2 วัน 

พร้อมเปิดให้บริการรับฝากและนำจ่ายทุกวัน ทุกสาขาไม่มีวันหยุด เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายขึ้น โดยขยายเวลาให้บริการถึง 20.00 น. สำหรับที่ทำการไปรษณีย์ขนาดใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และในบางสาขาจะเปิดทำการถึง 24.00 น. ทั้งนี้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของคนเมืองที่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้าน – หลังเลิกงานเพิ่มอย่างต่อเนื่องส่วนไปรษณีย์ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3,300 สาขา จะให้บริการทุกวันจันทร์ – วันเสาร์

นอกจากนี้ยังมีบริการเข้ารับฝากสิ่งของถึงหน้าบ้าน หรือ Pick up Service โดยนัดหมายในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จะมารับฝากสิ่งของในช่วงบ่าย และนัดหมายในช่วงบ่ายจะมารับฝากสิ่งของในช่วงเช้าวันถัดไป และบริการเข้ารับสิ่งของถึงบ้าน 24 ชม.  นำร่องที่เขตหลักสี่ปากเกร็ด รามอินทรา ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน “ไปรษณีย์ไทย” ยังคงรักษาบัลลังก์ผู้นำในตลาดขนส่ง E-Commerce ด้วยส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 57% (เชิงมูลค่า)  โดยปี 2564 ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย มีรายได้ราว 22,000 ล้านบาท  แบ่งเป็น ลูกค้าทั่วไป 95% และลูกค้าองค์กร 5% ขณะที่ผลประกอบการในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งการทำงานของไปรษณีย์ไทยนับจากนี้จะโฟกัสลูกค้าใหม่ๆ และสร้างการเข้าถึงให้ตรงจุดมากขึ้น 

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสร้างความแข็งแกร่ง Network การให้บริการเข้าถึงชุมชน รวมถึงการทำโปรโมชั่นค่าบริการ และการสื่อสารการตลาด ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ

 


แชร์ :

You may also like