คนอังกฤษจัดประท้วงใหญ่ภายใต้แคมเปญ “Don’t Pay” หลังค่าใช้จ่ายด้านพลังงานพุ่งไม่หยุด โดยในเว็บไซต์ที่รณรงค์เรื่องดังกล่าวที่ชื่อ Dontpay.uk ระบุว่า ค่าไฟที่คนอังกฤษต้องจ่ายเพื่อให้บ้านยังอุ่นในฤดูหนาวนี้อาจต้องพุ่งขึ้นถึง 96% จากราคาเดิมที่เคยจ่ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และที่ชาวอังกฤษรับไม่ได้มากไปกว่านั้นก็คือ บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง Shell หรือ BP กลับตั้งเป้าว่าจะมีกำไรมากกว่า 170,000 ล้านปอนด์ในอีก 2 ปีข้างหน้า
การประท้วงของชาวอังกฤษครั้งนี้ถูกจุดขึ้นผ่านแคมเปญ “Don’t Pay” โดยทางเว็บไซต์ DontPay.uk ระบุว่า หากมีคนร่วมลงชื่อในแคมเปญนี้ครบ 1 ล้านคน พวกเขาก็จะเริ่มการไม่จ่ายค่าไฟอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันมีคนลงชื่อในแคมเปญนี้แล้วมากกว่า 193,000 คน ส่วนการจัดการชุมนุมนั้นจะมีขึ้นทุกวันเสาร์แรกของเดือน ซึ่งในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีการจัดชุมนุมในเมืองต่าง ๆ นับสิบแห่งทั่วเกาะอังกฤษ เช่น London, Edinburgh, Swansea และ Liverpool โดยทางกลุ่มบอกว่าจะจัดไปจนกว่าวิกฤติค่าครองชีพนี้จะกลับสู่ระดับปกติ
It’s building up here in London 👊#EnoughIsEnough pic.twitter.com/wPOjstjc0y
— Enough is Enough (@eiecampaign) October 1, 2022
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Dontpay.uk ระบุด้วยว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่การบอกว่า พวกเขาจะไม่จ่ายบิลค่าไฟไปตลอดกาล แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถรับได้กับค่าไฟและค่าแก๊สที่พุ่งสูง และต้องการแสดงออกให้รัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อนในจุดนี้ แทนที่จะไปปรับมาตรการทางภาษีเพื่ออุ้มคนมีฐานะอย่างที่ปรากฏอยู่
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่าง Liz Truss ระบุว่า รัฐบาลจะช่วยภาคครัวเรือน โดยให้จ่ายค่าพลังงานไม่เกิน 2,500 ปอนด์ต่อปี เป็นเวลา 2 ปีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน