เพราะไม่มีใครอยากให้ข่าวเศร้าอย่างการมีเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงถูกลืมไว้บนรถจนเสียชีวิต Volvo เลยขอพัฒนาเทคโนโลยีเรดาห์สำหรับช่วยตรวจสอบว่า ยังมีเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง หรือใครก็ตามถูกลืมไว้บนรถอีกหรือไม่ ซึ่งถ้าเจอ ระบบจะไม่ยอมให้เกิดการล็อกรถ และจะเปิดแอร์ให้จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดกันเลยทีเดียว
สาเหตุที่ระบบดังกล่าวเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นนั้นมาจากปัญหาการลืมเด็ก – สัตว์เลี้ยงไว้บนรถมีเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ในสหรัฐอเมริกาเอง มีรายงานว่า ตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา มีเด็กกว่า 900 คนที่เสียชีวิตจากเรื่องดังกล่าว
ในมุมผู้พัฒนา Volvo บอกว่า ช่วงเวลาที่เรดาห์ควรจะเริ่มทำงานก็คือตอนที่คนขับลงจากรถ และพยายามจะล็อกประตู โดยเรดาห์จะตรวจสอบภายในห้องโดยสารว่ายังมีใครถูกลืมทิ้งไว้หรือเปล่า โดยตัวเรดาห์วิเคราะห์จากการเคลื่อนไหว และแพทเทิร์นการหายใจ ที่ Volvo บอกว่า แม้จะเป็นเด็กที่ห่มผ้าอยู่ก็สามารถตรวจพบได้เช่นกัน และถ้าระบบพบว่ายังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในรถ มันจะไม่ล็อกรถให้ และจะมีการแจ้งเตือนไปที่หน้าคอนโซลว่าให้คนขับตรวจสอบภายในห้องโดยสาร
เปิดแอร์ให้จนกว่าแบตจะหมด
นอกจากนั้น หากมีใครถูกลืมทิ้งไว้จริง ๆ และคนขับก็ไม่กลับมา สิ่งที่รถจะทำต่อไปก็คือ การเปิดแอร์ในห้องโดยสารต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าแบตจะหมด (หรือถ้าเป็นประเทศที่อากาศเย็นก็จะเปิดเครื่องทำความร้อน) เพื่อให้ผู้โดยสารไม่เสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดย Volvo บอกถึงจุดนี้ว่า การประหยัดพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่การรักษาชีวิตคนนั้นสำคัญกว่ามาก
ทั้งนี้ Volvo บอกว่า จะติดตั้งเทคโนโลยีเรดาห์ดังกล่าวลงในรถ SUV รุ่น Flagship อย่าง XC90 ในทุกประเทศที่วางจำหน่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ใช้คลื่น 60GHz ในการส่งสัญญาณแจ้งเตือน ซึ่งประเทศที่อนุญาตมีตั้งแต่เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ สเปน สหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศที่ยังไม่อนุญาตให้ใช้คลื่น 60GHz ในรถอย่างจีนและอินเดียนั้น ทางบริษัทบอกว่าจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมถึงในประเทศที่บริษัทยังไม่ได้ทำตลาดรถรุ่นดังกล่าวด้วย