เส้นทางตลอด 11 ปีของ “กลุ่มเซ็มทรัล” หลังเดินหน้าขยายอาณาจักรศูนย์การค้าในยุโรปมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้าสิทธิการบริหารงานในห้างฯ หรูและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำมากมาย โดยปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีห้างหรูใน 8 ประเทศในทวีปยุโรป รวม 45 แห่ง หลังจากปิดดีลกิจการของกลุ่มเซลฟริดเจส (Selfridges Group) จากตระกูลเวสตัน ไปได้เมื่อสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท
ล่าสุดกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรอย่างซิกน่า ก็เคลื่อนไหวในยุโรปอีกครั้งด้วยการเปิดเผยชื่อห้างสรรพสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่นามว่า “ลามาร์” (LAMARR) ห้างสรรพสินค้าหรู ใจกลางกรุงเวียนนา ออสเตรีย หลังเคยได้ประกาศลงทุนครั้งสำคัญในการสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเวียนนา เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดบริการในช่วงปลายปี 2567
“ลามาร์” ห้างหรูแห่งใหม่ ใจกลางกรุงเวียนนา ออสเตรีย ในรอบ 80 ปี
สำหรับห้างฯ “ลามาร์” ห้างสรรพสินค้าสุดหรูแห่งใหม่ใจกลางกรุงเวียนนา ครั้งนี้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 80 ปี ที่ได้มีห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่แบรนด์ใหม่ถูกเปิดตัวขึ้นในยุโรป โดย “ห้างลามาร์” เมืองเวียนนา นับเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งที่ 5 ของกลุ่มคาเดเว ที่ประกอบด้วย ห้างคาเดเว (KaDeWe) เมืองเบอร์ลิน, ห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpolliger) เมืองมิวนิก, ห้างอัลสเตอร์เฮาส์ (Alsterhaus) เมืองฮัมบูร์ก, และ ห้างคาร์ช เฮาส์ (Carsch-Haus) เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี
นอกจากชื่อที่ปรับใหม่แล้ว การดีไซน์ภายในยังได้รับแรงบันดาลใจจาก “เฮดี้ ลามาร์” (Hedy Lamarr) นักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดในตำนานซึ่งเป็นไอคอนของชาวออสเตรีย ในยุคศตวรรษที่ 20 ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดในโลก ชื่อของห้าง “ลามาร์” จึงไม่เป็นเพียงแค่การรำลึกถึงเธอ แต่ยังเสมือนการนำพา เฮดี้ ลามาร์ กลับสู่อ้อมกอดของชาวออสเตรียอีกครั้ง
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตและผลงานของเฮดี้ โดยการออกแบบของ โอ.เอ็ม.เอ (O.M.A.) บริษัทสถาปนิกชื่อดัง และการจัดสรรของ “ดาเนียล สเปอร่า” (Danielle Spera) อดีตผู้อำนวยการของ Jewish Museum ในกรุงเวียนนา โดยผู้มาเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศ และสามารถเข้าถึงชีวิตของเฮดี้ ใน Museum Café บนชั้น 5 ของห้างลามาร์ และพบภาพบนโปรเจคเตอร์ ซึ่งเป็นภาพถ่ายหรือถ้อยคำของเธอตามจุดต่างๆ ภายในห้าง
คุณทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “ผมมีความภาคภูมิใจที่ห้างลักชัวรี่แห่งใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล ได้รับเกียรติให้ใช้ชื่อของ เฮดี้ ลามาร์ ผู้เป็นที่รักของทุกคนโดยเฉพาะชาวออสเตรีย ทั้งในฐานะไอคอนฮอลลีวูดที่โด่งดังระดับโลก และนักประดิษฐ์ผู้บุกเบิกซึ่งมีพรสวรรค์ไม่เหมือนใคร ความเพียบพร้อมโดดเด่นในหลากหลายแง่มุมของ “เฮดี้ ลามาร์” สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงเอกลักษณ์ของโปรเจกต์เวียนนา
นอกจากจะเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ชั้นนำระดับโลกแล้ว ยังจะสร้างความประทับใจเหนือระดับผ่านเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรม และการส่งมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบลักชัวรี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับลูกค้า
นั่นจึงทำให้ห้างลามาร์ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่น่าภาคภูมิใจของเวียนนา และยังเป็นการต้อนรับเฮดี้ผู้เป็นไอคอนคนสำคัญในบ้านเกิดของเธอ เฮดี้ทั้งฉลาด สวย น่าหลงใหล และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้สร้างตำนานที่ทำให้พวกเราโดยเฉพาะชาวเวียนนารำลึกถึงจวบจนปัจจุบัน
รู้จัก “เฮดี้ ลามาร์” นักแสดงฮอลลีวูดตำนานไอคอนของชาวออสเตรีย แรงบันดาลใจการดีไซน์
“เฮดี้ ลามาร์” เป็นที่รู้จักครั้งแรกในฐานะนักแสดงชื่อ “เฮดวิก คีส์เลอร์” (Hedwig Kiesler) เกิดในปี พ.ศ. 2457 ที่กรุงเวียนนา และต่อมาในปี พ.ศ. 2476 เธอได้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักแสดงจากบทบาทนำสมัยในภาพยนตร์เรื่อง Ecstasy ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปยังฮอลลีวูด ในปี พ.ศ. 2480 เธอได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เฮดี้ ลามาร์” ตามคำแนะนำของ “หลุยส์ บี. เมเยอร์” (Louis B. Mayer) ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ และ ผู้ร่วมก่อตั้งเอ็มจีเอ็ม (MGM) เฮดี้เปิดตัวในฮอลลีวูดครั้งแรกกับภาพยนตร์เรื่อง Algiers ที่ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งนี้ ชื่อของ เฮดี้ ลามาร์ ได้ถูกจารึกอยู่ที่ Hollywood Walk of Fame ในปี พ.ศ. 2503 หนึ่งในประโยคเด็ดของเฮดี้ซึ่งเป็นที่จดจำก็คือ “เงินมีไว้ใช้ คนส่วนใหญ่เอาแต่ประหยัดเงินเพื่อเก็บไว้ให้คนอื่น เราควรใช้เงินเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง”
นอกจากความงามอันสะดุดตา และทักษะด้านการแสดงแล้ว เฮดี้ยังมีความสามารถในฐานะนักประดิษฐ์อีกด้วย ในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอได้มีส่วนร่วมในการคิดค้นวิธีส่งคลื่นวิทยุนำวิถีที่สามารถหลบหลีกการตรวจจับของฝ่ายตรงข้ามได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่พัฒนามาเป็น “ไวไฟ” และ “บลูทูท” ในเวลาต่อมา ทำให้ในปี พ.ศ. 2557 “เฮดี้ ลามาร์” ได้รับการบรรจุชื่อใน National Inventors Hall of Fame นอกจากนั้น นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 กรุงเวียนนาได้จัดให้มีรางวัล “เฮดี้ ลามาร์” เพื่อมอบให้กับนักวิทยาศาสตร์สตรีที่มีผลงานโดดเด่นเพื่อรำลึกถึงอัจฉริยภาพของเธอ
ไม่ใช่แค่ห้างฯ แต่ยังเป็นมิกซ์ยูส บนที่ดิน 4.5 ไร่ มาพร้อมโรงแรมทอมป์สัน
ไม่ใช่แค่ห้างสรรพสินค้าแต่ลามาร์ ยังเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 4.5 ไร่ บนถนน มาเรียฮิลเฟอร์ สตรัส (Mariahilfer Straße) เมื่อแล้วเสร็จจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 58,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย “ห้างลามาร์ ห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ โรงแรมทอมป์สัน เวียนนา พร้อมพื้นที่สวนลอยฟ้าสีเขียว” กว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นลานอเนกประสงค์เพื่อสาธารณะ โดยห้างลามาร์ จะมี 8 ชั้น พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร
ประกอบไปด้วย ส่วนโรงแรม ทอมป์สัน เวียนนา มี 150 ห้อง มุ่งเน้นการบริการด้านอาหารเป็นพิเศษเพื่อเป็นจุดหมายใหม่ของเหล่านักชิมและนักเดินทาง โดยผู้มาเยือนสามารถนั่งรับประทานอาหารบนระเบียงทางเชื่อมระหว่างโรงแรมกับห้างลามาร์พร้อมชมบรรยากาศสวนลอยฟ้า ในส่วนของล็อบบี้สามารถเป็นจุดพบปะสังสรรค์ หรือนั่งทำงานแบบ co-working โดยรองรับได้ถึง 170 ที่นั่ง โรงแรมทอมป์สัน เวียนนา ได้ถูกออกแบบให้มีความร่วมสมัยและผสมผสานเอกลักษณ์ของเมืองเวียนนาไว้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังได้รวบรวมพันธมิตรลักชัวรี่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) กุชชี่ (Gucci) พราด้า (Prada) โบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) และแบรนด์ชั้นนำของออสเตรีย พร้อมสินค้าเครื่องประดับ สินค้าตกแต่งบ้าน อาหาร บริการด้านสุขภาพและสปา รวมทั้ง พื้นที่ จัดกิจกรรม พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะ มาไว้ในโครงการ
ทั้งนี้ ห้างลามาร์และโรงแรมทอมป์สันคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567
อ่านเพิ่มเติม
ย้อนไทม์ไลน์ 11 ปี “เซ็นทรัล” บุกยุโรป เสริมแกร่งห้างสรรพสินค้า-อสังหาริมทรัพย์ ระดับโลก
กลุ่มเซ็นทรัล ปิดบิ๊กดีล 1.8 แสนล้านเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ฮุบห้างหรู 18 แห่ง ใน 3 ประเทศ