ทุกวันนี้มีร้านสินค้าไลฟ์สไตล์จำนวนมากปรากฎให้เห็นในท้องตลาด ตั้งแต่ร้านขนาดเล็กในท้องถิ่น ไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องกว่าปีละ 20.4% (ปี 2564-2569) ในขณะที่มูลค่าตลาดค้าปลีกทั่วไปมีอัตราการเติบโตเพียงปีละ 7.5% เท่านั้น (ปี 2564-2569) (จากรายงานของ Frost & Sullivan) จึงเรียกได้ว่า สินค้าไลฟ์สไตล์เป็น Sub-Segment ที่น่าสนใจของตลาดค้าปลีก
รู้หรือไม่ว่า บริษัทที่เป็นผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยนั้น สามารถก้าวสู่การเป็นบริษัทที่มี Market Share สูงสุด หลังเข้าสู่ธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ได้เพียง 3 ปี และยังครอง Market Share อันดับหนึ่งจนถึงปัจจุบัน แม้มีภาวะโรคระบาด รวมถึงการแข่งขันอันดุเดือดในตลาด และเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
‘บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI’ คือบริษัทที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ โดย MOSHI ถือเป็นผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีก สินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ ภายใต้ชื่อร้าน Moshi Moshi ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องสินค้าที่มีความทันสมัย คุณภาพดี ในราคาย่อมเยา โดยกำลังจะ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
หลายคนอาจเข้าใจว่า MOSHI เป็นแบรนด์ต่างชาติ ด้วยรูปแบบสินค้า การจัดร้าน หรือแม้แต่ชื่อบริษัท แต่ MOSHI เป็นบริษัทสัญชาติไทยแท้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 และสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก 4 สาขาในปีแรก โดยมี Market Share ที่ 3% เพิ่มขึ้นเป็น 37.6% ในปี 2564 ภายใต้ช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งเครือข่ายสาขาของบริษัท จำนวน 100 สาขา, Online Platform และ Pop-up Store ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ภายใต้แรงขับเคลื่อนที่ว่า “เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเน้นคุณภาพ สรรสร้างการออกแบบที่เป็นเลิศในราคาที่แข่งขันได้ และคงไว้ซึ่งความนิยมของผู้บริโภคเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Moshi Moshi เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า”
แม้ MOSHI เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ได้เพียงไม่กี่ปี แต่ที่จริงแล้ว MOSHI มีประสบการณ์มายาวนาน โดยเริ่มต้นของธุรกิจเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2516 จากการทำร้านค้าปลีกเครื่องเขียนและสินค้ากิ๊ฟช็อป จนในปี 2530 ได้ขยายธุรกิจไปยังร้านค้าส่งแบบดั้งเดิมในสำเพ็ง ทำให้ MOSHI มีความรู้เข้าใจในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความต้องการของลูกค้า ความสัมพันธ์ที่ดีกับ Supplier อย่างต่อเนื่อง และมีความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างต้นทุนของสินค้าแต่ละประเภท โดยมีกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการวางแผนซื้อล่วงหน้ารายปี การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือโดยการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การออกแบบที่สามารถช่วยลดต้นทุนโดยยังคงเอกลักษณ์และความน่าสนใจของสินค้าไว้ได้
โดย MOSHI มีความได้เปรียบจากการเป็นบริษัทไทย ท่ามกลางผู้ประกอบการหลากหลายสัญชาตินั้น ทำให้ MOSHI เข้าใจตลาดและความต้องการของคนไทยเป็นอย่างดี MOSHI จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองเทรนด์และความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อซ้ำ ซึ่งแต่ละปีมีสินค้าใหม่ที่ออกจำหน่ายรวมถึงสินค้าตามเทศกาลมากกว่า 8,000 รายการ โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ของ MOSHI ซึ่งเป็นแบบ Exclusive ที่ออกแบบมาเพื่อจำหน่ายในร้าน MOSHI โดยเฉพาะ นอกจากนี้ MOSHI ยังมีการนำ Visual Merchandise หรือการจัดแสดงสินค้าภายในร้าน ตกแต่งร้านให้สวยงาม และจัดแผนผังร้านให้เหมาะสม เพื่อช่วยส่งเสริมทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้มากขึ้นด้วย
สำหรับการ IPO ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ MOSHI ได้ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ และส่งมอบความสุขในการเลือกซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภคต่อไปในอนาคต …
Reference:
-แบบแสดงรายการหนังสือชี้ชวนหรือไฟลิ่ง สำนักงาน ก.ล.ต.