การแข่งขัน “ธุรกิจความงาม” ณ ปัจจุบัน ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อผู้เล่นแต่ละรายในตลาด ล้วนมีกลยุทธ์และโปรโมชั่นหลากหลายเพื่อจูงใจลูกค้า ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือด “รมย์รวินท์ คลินิก” ที่ยืนอยู่แวดวงความงามมานานกว่า 20 ปี ผ่านช่วงแจ้งเกิดของคลินิกมากมาย จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยนทั้งด้านพฤติกรรมผู้บริโภค สื่อ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ
หากกำลังสงสัยว่ารมย์รวินท์ คลินิก ก้าวข้ามเรื่องราวเหล่านั้นมาได้อย่างไร อะไรคือเคล็ดลับที่ไม่เคยเปลี่ยน BrandBuffet จะพาไปไขความลับที่ว่านั้นกัน
ลองเองจนศรัทธา
ย้อนกลับไปราว 20 ปีก่อน พี่จอย – ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท รมย์รวินท์ คลินิก จำกัด ที่ตอนนั้นยังทำธุรกิจขายแพ็กเกจจิ้งเครื่องสำอางอยู่ ก็ได้มีคุณหมอฐา – พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้อำนวยการ รมย์รวินท์ คลินิก แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง เข้ามาเป็นลูกค้า พี่จอยเริ่มต้นจากความประทับใจในตัวคุณหมอฐา เรื่องความทุ่มเทและใส่ใจเกี่ยวกับรายละเอียดบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเวชภัณฑ์เพื่อจำหน่ายให้กับคนไข้ และความประทับใจก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น เมื่อมาหาคุณหมอฐาที่คลินิกแล้วเห็นคนไข้ของคุณหมอเองกับตา
“พี่ก็มาหาคุณหมอ มาเยี่ยมในฐานะลูกค้าเรา ปรากฏว่าพอมาเห็นลูกค้าของคุณหมอที่นั่งรออยู่ แต่ละคนหน้าใสกันมาก จนทำให้พี่อยากลองรักษาบ้าง พอลองรักษาแล้วเพื่อนก็ทักว่าไปทำอะไรมาหน้าดีขึ้น มันทำให้เรารู้สึกอยากส่องกระจกเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงทุกวัน ยิ่งเห็นว่าตัวเองดีขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้พี่ศรัทธาในตัวคุณหมอมาก จนกระทั่งมาทำธุรกิจด้วยกัน” พี่จอย – ขวัญฤทัย เล่าย้อนความหลัง
นอกเหนือจากการรักษาแล้ว “เทคโนโลยี” เครื่องไม้ เครื่องมือ นวัตกรรมต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่รมย์รวินท์ ลงทุนแบบจริงจัง ถือเป็นคลินิกเอกชนรายแรกๆ ที่ใช้เครื่องเลเซอร์ ซึ่งทุกวันนี้ ก็บาลานซ์การลงทุนอัพเกรดเครื่องใหม่ๆ กับการทำธุรกิจอย่างสมดุล ผนวกกับ “ยา” ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ลูกค้าใช้แล้วติดใจ จนกลายเป็นโปรดักท์ขึ้นชื่อของคลินิก เพราะเมื่อลูกค้ากลับไปดูแลตัวเองแล้ว ประสิทธิภาพการรักษาก็ยังได้ผลอยู่
คลินิกผิวหนังโฉมใหม่
เมื่อมีคุณภาพในการรักษา ลูกค้าได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ก็เกิดการบอกต่อ จาก 1 สาขา ก็ขยายต่อไปเรื่อยๆ โดยเลือก ทำเล “ห้างสรรพสินค้า” เพราะพี่จอย เข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมทางการตลาดของคนไทยเป็นอย่างดี จึงเลือกเปิดสาขาในห้างฯ เป็นหลัก เพราะเข้าใจดีว่าเมืองไทยอากาศร้อน และคนไทยชอบทำกิจกรรมต่างๆ ในห้างฯ เป็นหลัก
รวมทั้งยังเปลี่ยนลุคของคลินิกผิวหนัง ที่จากเดิมเน้นการรักษาแก้ไขโรคผิวหนัง มาสู่การดูแลผิวพรรณให้ดี สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคุณหมอฐา ที่เชื่อว่าการเตรียมดูแลผิวให้ดีตั้งแต่ต้น ก็จะช่วยป้องกันปัญหาที่จะตามมา ทำให้ “รมย์รวินท์ คลินิก” เป็นคลินิกผิวหนังยุคแรกที่ๆ ที่พลิกโฉมไปจากเดิม
“พี่เป็นคลินิกแรกๆ ที่เข้าไปอยู่ในห้างฯ ตอนนี้เรามีสาขาในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักๆ แล้วเราก็มีแผนว่า อยากจะขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อให้ทุกคนสวยอย่างทั่วถึง ตรงตามสโลแกนใกล้ที่ไหนไปที่นั่น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการบริการ ที่คลินิกของเราแยกเลย ระหว่างแคชเชียร์ เจ้าหน้าที่ต้อนรับ ผู้ช่วยคุณหมอ เพื่อที่จะเน้น ให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุด เหมาะสมที่จะดูแลลูกค้า ไม่ให้เขาทำอะไรปะปนกัน” พี่จอยอธิบายวิธีคิด
“โค้ชความงามส่วนตัว” บริการดูแลลูกค้าแบบตรงจุดเฉพาะบุคคล
การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย มีส่วนทำให้ความคิดของลูกค้าต่างไปจากเดิม เพราะปัจจุบันผู้บริโภคมองว่า แต่ละคนมีความงามในแบบของตัวเอง จนทำให้รมย์รวินท์ คลินิก ต้องเร่งปรับตัว และเกิดแนวคิด “For The Better You สวยในแบบที่เป็นคุณ” ขึ้นมา พร้อมกับแคมเปญการบริการที่น่าสนใจ นั่นก็คือ “โค้ชความงามส่วนตัว” ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า เพื่อดูแลให้ลูกค้าสวยในแบบของตัวเอง เนื่องจากลูกค้าเองก็ต้องการการดูแลที่เฉพาะตัวเฉพาะบุคคลมากขึ้น
“เราต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้า คำว่าสิ่งที่ดีที่สุดนี้ ต้องเกิดจากการพูดคุยสอบถามก่อนว่าลูกค้าเขาต้องการอะไร ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเอง แล้วก็ต้องให้คำปรึกษาเขา เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เขาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตรงตามความคาดหวัง” นี่คือเคล็ดลับการทำธุรกิจความงามของ รมย์รวินท์ คลินิก ที่พี่จอยเน้นย้ำ
ในวันนี้แม้ “คลินิกความงาม” จะยังเป็นธุรกิจบริการที่ลูกค้าต้องเดินทางมาหน้าสาขา แต่ “รมย์รวินท์ คลินิก” ก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำนัด การจำหน่ายสินค้าบางกลุ่มผ่านดิจิทัล ซึ่งยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการสื่อสารบนออนไลน์ก็สามารถสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้ พี่จอยเล่าให้ฟังว่าต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้เรื่องเครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆ จากทีมงานรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันตัวเองก็มีมุมมองเรื่องการตลาดด้านธุรกิจความงามคอยแลกเปลี่ยนกับน้องๆ ในทีมด้วย
นอกจากนี้ การเทรนนิ่งยังเป็นเรื่องสำคัญและต้องทำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะสายงานที่ต้องบริการลูกค้า นี่เองจึงเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานกว่า 500 คน จาก 24 สาขา พร้อมที่จะเป็น “โค้ชความงามส่วนตัว” ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานในแบบฉบับของ “รมย์รวินท์ คลินิก”