HomeInsightดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย ทำเล “ซื้อ-เช่า” อสังหาฯ มาแรง ครองใจคนหาบ้านประจำปี 65

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย ทำเล “ซื้อ-เช่า” อสังหาฯ มาแรง ครองใจคนหาบ้านประจำปี 65

แชร์ :

แม้ในรอบปี 2565 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงอยู่ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยยังมีต่อเนื่อง ล่าสุด ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้เผยผลสำรวจเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.ddproperty.com  และแอปพลิเคชัน DDproperty ในรอบปี 2565 พบ พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคน่าสนใจ ดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คนเปลี่ยนพฤติกรรม หัน “เช่า” มากกว่า “ซื้อ” อสังหาฯ

จากผลสำรวจพบว่า ความท้าทายทางการเงินจากสภาพเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาเลือก “เช่า” แทนการ “ซื้อ” ที่อยู่อาศัย เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสะดวกในการโยกย้ายถิ่นฐานมากกว่า ข้อมูลจากจำนวนการเข้าชมประกาศอสังหาฯ ให้เช่าบนเว็บไซต์ DDproperty พบว่า ในปี 2565 นี้ “บางจาก” เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุด ด้วยความโดดเด่นจากการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของวัยทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ อยู่ใกล้ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีรถไฟฟ้าผ่าน ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีคอนโดฯ ที่มีราคาเอื้อมถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับ 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจ “เช่า” มากที่สุดในรอบปี 2565 ได้แก่ 

  • อันดับ 1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
  • อันดับ 2 แขวงบางนา เขตบางนา
  • อันดับ 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
  • อันดับ 4 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
  • อันดับ 5 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย
  • อันดับ 6 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
  • อันดับ 7 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
  • อันดับ 8 แขวงดินแดง เขตดินแดง
  • อันดับ 9 แขวงจอมพล เขตจตุจักร
  • อันดับ 10 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ

เมื่อแบ่งตามประเภทของอสังหาฯ พบว่า “สวนหลวง” ครองอันดับ 1 ของการค้นหาที่อยู่อาศัยแนวราบเพื่อเช่ามากที่สุด เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงระดับบนที่สามารถเดินทางได้สะดวก ขณะที่ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าคอนโดฯ สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง ส่วนทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าบ้านเดี่ยวสูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง และทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าทาวน์เฮ้าส์สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง

คอนโดฯ – ทาวน์เฮ้าส์ต่ำ 2 หมื่น ครองใจผู้เช่า

ในฝั่งตลาดเช่าที่อยู่อาศัยพบว่า “คอนโดฯ” ยังคงครองความนิยมและเป็นประเภทอสังหาฯ สำหรับเช่าที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี 2565 ด้วยสัดส่วนถึง 86% เนื่องจากเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมเมือง ซึ่งมีทั้งวัยทำงานและวัยเรียนเข้ามากระจุกตัวเป็นจำนวนมาก ด้านที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มีความสนใจเช่าในสัดส่วนเท่ากันที่ 7%

เมื่อพิจารณาระดับค่าเช่าต่อเดือนตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ระดับค่าเช่าคอนโดฯ ที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี เกือบ 4 ใน 5 ของผู้เช่า (74%) สนใจค้นหาที่ระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการเช่าคอนโดฯ บนทำเลที่เดินทางสะดวก มีระบบความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้ และระบบบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน

  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 38%
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่า ไม่เกิน 10,000 บาท สัดส่วน 36%
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 15%

ส่วนระดับค่าเช่าบ้านเดี่ยวที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี ผู้เช่ามากกว่าครึ่ง (59%) สนใจเช่าที่ระดับราคา 30,000 บาทขึ้นไป โดยให้ความสำคัญไปที่การเช่าบ้านเดี่ยวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งอยู่ในทำเลทองที่หาซื้อบ้านใหม่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาก มีพื้นที่เพียงพอรองรับการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากเทียบกับการมีภาระหนี้ก้อนโตในระยะยาวจากการซื้อบ้านในเวลานี้

  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 59%
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 19%
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 20,000-30,000 บาท สัดส่วน 16%

ขณะที่ระดับค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์ที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี พบว่า ผู้เช่าส่วนใหญ่ (38%) ต้องการเช่าที่ระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท โดยมองว่าเป็นราคาที่สอดคล้องและสมเหตุสมผลในการเช่าทาวน์เฮ้าส์ ที่ได้พื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการเช่าห้องพักหรือคอนโดฯ ซึ่งสามารถต่อยอดในการทำธุรกิจได้ด้วย

  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 38%
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 27%
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 20,000-30,000 บาท สัดส่วน 20%

กรุงเทพฯ ยังมาแรง ครองใจคนซื้อบ้าน

สำหรับทำเลที่ได้รับความสนใจ “ซื้อ” อสังหาฯ มากที่สุดในรอบปี 2565 คือ “กรุงเทพฯ” ตามมาด้วยอันดับ 2 นนทบุรี, อันดับ 3 สมุทรปราการ, อันดับ 4 ปทุมธานี, อันดับ 5 ชลบุรี, อันดับ 6 เชียงใหม่, อันดับ 7 ประจวบคีรีขันธ์, อันดับ 8 ภูเก็ต, อันดับ 9 พัทยา และอันดับ 10 นครปฐม โดย 4 อันดับแรกอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

หากดูทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ สวนหลวง เขตสวนหลวง ตามด้วยบางจาก เขตพระโขนง และบางนา เขตบางนา ขณะเดียวกัน การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมขนส่ง และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ครอบคลุม และเชื่อมต่อการเดินทาง ยังทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยไม่ได้กระจุกตัวแค่ในเมืองหลวงอีกต่อไป

ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่นอกเมืองหลวงกลายเป็นทำเลที่น่าจับตามองและเติบโตตามไปด้วย โดย “คอนโดฯ” กลายเป็นประเภทอสังหาฯ ที่มีการค้นหามากที่สุดทั่วประเทศในรอบปีที่ผ่านมา ด้วยสัดส่วน 42% ตามมาด้วยบ้านเดี่ยว ในสัดส่วน 40% และทาวน์เฮ้าส์ 18% สะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ที่อยู่อาศัยแนวดิ่งยังคงเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ แม้จะไม่มีการเติบโตอย่างหวือหวา แต่การแข่งขันเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ออกไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ถือเป็นการขยายโอกาสไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ยังคงมีดีมานด์อีกด้วย

คอนโดฯ – ทาวน์เฮ้าส์ ราคาจับต้องได้ตอบโจทย์ผู้ซื้อ ด้านกลุ่มรายได้สูงมองหาบ้านเดี่ยว

ขณะที่ประเภทอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 พบว่า ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (55%) ค้นหาคอนโดฯ มาเป็นอันดับ 1 สะท้อนให้เห็นว่า คอนโดฯ ยังคงมีดีมานด์ทั้งจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือนักลงทุน เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายในการอยู่อาศัยชัดเจน และมีจุดเด่นที่อำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตในเมืองหลวงได้คล่องตัวกว่า ตามมาด้วยบ้านเดี่ยว (28%) และทาวน์เฮ้าส์ (17%)

โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวกรุงสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ระดับราคาคอนโดฯ ที่มีการค้นหามากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ระดับราคา 1-3 ล้านบาท มีการค้นหามากถึง 42% สะท้อนให้เห็นดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-ล่างที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ (Affordable price) หรือซื้อที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรก จึงเลือกที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ และคุ้มค่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยบวกที่ได้จากมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์-ค่าจดจำนอง เหลือเพียง 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้สามารถกู้ได้เต็ม 100% ภายในสิ้นปี 2565 นี้ ตามมาด้วยระดับราคา 5-10 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท (ในสัดส่วน 18% และ 16% ตามลำดับ)

สวนทางกับระดับราคาบ้านเดี่ยวที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยสัดส่วน 36% ตามมาด้วยระดับราคา 5-10 ล้านบาท (30%) และระดับราคา 3-5 ล้านบาท (20%) สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ในกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีเงินเก็บเพียงพอ ที่สนใจเป็นเจ้าของบ้านหรู (Luxury) โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ และผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่รองรับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว จำเป็นต้องเลือกพิจารณาบ้านเดี่ยวที่ราคาสูงขึ้น เพื่อแลกกับพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์

ส่วนระดับราคาของทาวน์เฮ้าส์ที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี พบว่า ผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) ค้นหาทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 1-3 ล้านบาทมากที่สุด ตามมาด้วยระดับราคา 3-5 ล้านบาท ( 27%) และ 5-10 ล้านบาท (15%) จะเห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคาที่จับต้องได้ เช่นเดียวกับในกลุ่มคอนโดฯ

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองดัน “สวนหลวง” ทำเลยอดนิยมในหมู่ผู้ซื้อ 

สำหรับตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะในทำเลที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ยิ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมบนทำเลที่ตอบโจทย์ เมื่อพิจารณาจากจำนวนการเข้าชมประกาศอสังหาฯ สำหรับขายบนเว็บไซต์ DDproperty พบว่า “สวนหลวง” เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 ด้วยความที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบให้เลือก และมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่รองรับการเดินทางที่หลากหลาย เมื่อรวมกับอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่จะเปิดให้บริการในปี 2566 ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าได้หลายเส้นทาง จึงทำให้ “สวนหลวง” กลายเป็นสุดยอดทำเลยอดนิยมในฝั่งผู้ซื้อประจำปีนี้

นอกจากนี้ จากแบบสอบถามความคิดเห็นผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย ยังพบว่า ปัจจัยภายนอกที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ เมื่อเลือกซื้อที่อยู่อาศัย มากกว่าครึ่งต้องการโครงการที่เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (53%) ตามมาด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ (50%) สะท้อนให้เห็นว่าคนหาบ้านปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมรองรับการเดินทางไปทำงานและไลฟ์สไตล์ทุกด้านด้วยนั่นเอง


แชร์ :

You may also like