ในวันที่ “กรุงศรี ออโต้” ตัดสินใจเปิดบริการ “สินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล” หรือ “Digital Auto Lending” ช่วงนั้นตลาดสินเชื่อยานยนต์ท้าทายอย่างมาก จากสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ใหม่หดตัวลง 4% ในขณะที่ตลาดสินเชื่อยานยนต์โดยรวมลดลง 2.5% ในตอนนั้นแต่ละค่ายจึงชะลอการออกบริการใหม่ แต่ กรุงศรี ออโต้ ไม่คิดเช่นนั้น เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มคุ้นชินกับดิจิทัลมากขึ้น เป็นโอกาสใหม่ที่กรุงศรี ออโต้ มองเห็น และทำให้ตัดสินใจลุยเปิดบริการ Digital Auto Lending บนแอปพลิเคชัน Go by Krungsri Auto ในเดือนตุลาคม 2564 ในทันที
หลังจากเปิดตัวได้เพียง 1 ปี วันนี้ กรุงศรี ออโต้ สามารถปล่อยสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลไปแล้วกว่า 9,900 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 83% ปัจจัยที่ทำให้ “Digital Auto Lending” ของกรุงศรี ออโต้ เติบโตท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ คุณคงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บอกว่า มาจาก 4 กลยุทธ์ หลักคือ
1.ผลิตภัณฑ์ครบ และครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า
หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้สินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลของ กรุงศรี ออโต้ แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว คือ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ตอบทุกความต้องการของผู้ใช้รถ โดยในช่วงแรกเริ่มจากการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และรถยนต์มือสอง ต่อมาได้ขยายบริการสำหรับคาร์ ฟอร์ แคช ตามด้วยสินเชื่อรถจักรยายนต์ บิ๊กไบค์ และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการทุกเซ็กเม้นต์
ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้บริการพบว่า 34% ของยอดสินเชื่อใหม่เป็นสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า และผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำ นอกจากนี้ 96% ยังอาศัยคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรกคือ Honda, Toyota และ BYD ขณะที่สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลของ กรุงศรี ดิจิทัล ในช่วง 10 เดือนแรก มาจากสินเชื่อรถยนต์ใหม่ 45% สินเชื่อรถยนต์มือสองและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 46% และสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 9%
2.ระยะเวลาอนุมัติรวดเร็ว
การอนุมัติเร็ว หรือรู้ผลไว เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อนำมาใช้กันมากขึ้นในช่วงหลังๆ เพราะนอกจากจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์บริการที่ดี และเกิดความประทับใจ จนกลายเป็นการจดจำแบรนด์ตามมา โดยบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล ของกรุงศรี ออโต้ จะใช้เวลาอนุมัติไม่เกิน 30 นาที และเร็วสุดใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
3.วงเงินที่ออกแบบมาเฉพาะลูกค้า
นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ตอบทุกความต้องการของผู้ใช้รถแล้ว กรุงศรี ออโต้ ยังออกแบบการอนุมัติสินเชื่อตามรายบุคคล (Customer-based Lending) ผ่านออนไลน์ทั้งหมดอีกด้วย โดยพิจารณาตามความสามารถในการชำระเงินในแต่ละเดือนของลูกค้า พร้อมตัวเลือกในการปรับระยะเวลาการผ่อนชำระตามความต้องการ จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนทางการเงินและการผ่อนชำระสินเชื่อได้ไม่มีสะดุด
4.เทรนด์รถ EV
ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลของกรุงศรี ออโต้ เติบโตรวดเร็ว สะท้อนได้จากตัวเลขผู้ใช้บริการตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา พบว่า 34% ของยอดสินเชื่อใหม่เป็นสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในปีหน้าคาดว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ไฟฟ้า จะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากค่ายรถยนต์ต่างๆ เปิดตัวรถ EV กันอย่างคึกคักในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้การปล่อยสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลของกรุงศรี ออโต้เติบโตต่อเนื่องเช่นกัน
ถึงแม้บริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลของ “กรุงศรี ออโต้” จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้รถทุกกลุ่มได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางนับจากนี้ของ กรุงศรี ออโต้ จะเดินหน้าสร้าง Ecosystem ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งแบรนด์ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย และผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อสร้างโซลูชันสินเชื่อยานยนต์ให้ตอบทุกความต้องการด้านการเงินและบริการไลฟ์สไตล์ที่ตอบสนองการใช้ชีวิต
โดยในปี 2565 นี้ กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล 10,600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6% ของยอดสินเชื่อทั้งหมด ส่วนยอดสินเชื่อใหม่ในปี 2565 คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1.73 แสนล้านบาท