HomeSponsoredนักการตลาดต้องรู้ 6 เทคนิคทำ Cross Targeting บน LINE ด้วย BUSINESS MANAGER ดันยอดขายให้จึ้งงงงงง

นักการตลาดต้องรู้ 6 เทคนิคทำ Cross Targeting บน LINE ด้วย BUSINESS MANAGER ดันยอดขายให้จึ้งงงงงง

แชร์ :

การทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ให้ปัง และสร้างยอดขายได้เป็นจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องท้าทายของแบรนด์ และนักการตลาด หลายคนพยายามหาสูตรลับ เทคนิคพิเศษ เพื่อนำมาสร้างยอดขายให้กับตัวเอง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่สิ่งที่เราอาจลืมไปก็คือ เราอยู่ในโลกที่มีทั้ง Data และเครื่องไม้เครื่องมือมากมายเต็มไปหมด  บางทีกลยุทธ์ที่ต้องการนั้น อาจอยู่ตรงหน้าเราแล้วก็เป็นได้ โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่แบรนด์สามารถทำได้เลยก็คือการทำ Cross Targeting หรือการส่งข้อมูลกลุ่มเป้าหมายระหว่างผลิตภัณฑ์เพื่อการยิงโฆษณาหรือการทำแคมเปญ ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าตรงกลุ่มและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับแพลตฟอร์ม LINE ต้องบอกว่า ไม่เพียงมีเครื่องมือที่หลากหลายช่วยแบรนด์ทำการตลาดเท่านั้น แต่เครื่องมือเหล่านั้นยังสามารถช่วยให้แบรนด์รู้จักลูกค้าได้ดีขึ้น จากพฤติกรรมความชอบ ความสนใจที่เกิดขึ้นในเครื่องมือนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น LINE OA ช่องทางหลักในการสื่อสารทำการตลาด, LINE Ads บัญชีเพื่อการยิงโฆษณาบนพื้นที่ตำแหน่งต่างๆ ใน LINE Ecosystem และ Smart Channel Ads ซึ่งเป็นตำแหน่งโฆษณาทำเลทองด้านบนสุดของหน้ารายการแชทในแอปฯ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา LINE ได้ออกเครื่องมือใหม่อย่าง BUSINESS MANAGER มาช่วยให้แบรนด์สามารถทำการ Cross Targeting กลุ่มเป้าหมายระหว่าง 3 เครื่องมือดังกล่าวกันได้ด้วย ซึ่งถือว่าตอบโจทย์แบรนด์ในยุคนี้มาก เพราะถือว่าช่วยสร้างประสิทธิภาพการสื่อสาร การยิงโฆษณาบน LINE ให้มากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

ส่วนเราจะใช้ BUSINESS MANAGER มาทำ Cross Targeting ได้อย่างไรบ้างนั้น เรามี 6 เทคนิคดี ๆ มาแนะนำกัน ดังนี้

เทคนิคที่ 1 แชร์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ติดตาม LINE OA ของแบรนด์ A ไปยิงแอดบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B

สำหรับบริษัทที่มีสินค้าหลายแบรนด์ และมีบัญชี LINE OA ของแต่ละแบรนด์เหล่านั้นอยู่ ก็สามารถนำข้อมูลผู้ติดตาม หรือ Friend List จาก LINE OA ของแบรนด์ A ไปมาแชร์ให้กับบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B เพื่อให้แบรนด์ B ใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการยิงแอด แนะนำสินค้าใหม่ให้รู้จักไปยังกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นได้ โดยวิธีนี้ถือเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในการยิงโฆษณาของแบรนด์ B ให้ครอบคลุมขึ้น และยังคงอาศัยข้อมูลจากภายในองค์กรเดียวกันอยู่ โดยการแชร์กลุ่มเป้าหมายในรูปแบบนี้ จากการทดสอบของ LINE ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกพบว่ามี CTR เพิ่มขึ้นถึง 1.8 เท่า

ตัวอย่างการใช้งาน : บริษัทผลิตขนมแห่งหนึ่ง มีแบรนด์ย่อยคือแบรนด์ A ซึ่งเป็นขนมอบกรอบ และแบรนด์ B เป็นมันฝรั่งทอด ซึ่งหากแบรนด์ B ผลิตสินค้าใหม่เป็นมันฝรั่งอบกรอบ ธุรกิจดังกล่าวสามารถนำเอาข้อมูลผู้ติดตาม จาก LINE OA ของแบรนด์ A ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่น่าจะสนใจในขนมอบกรอบอยู่แล้ว มาแชร์ให้กับบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B เพื่อให้แบรนด์ B ใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการยิงแอด แนะนำสินค้าใหม่ให้รู้จักไปยังกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นได้กว้างยิ่งขึ้นนั่นเอง

เทคนิคที่ 2 แชร์กลุ่มเป้าหมายที่คลิกข้อความบน LINE OA ของแบรนด์ A ไปยิงแอดบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B

สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าหลากหลายชนิด เช่น ธุรกิจความงาม ก็อาจมี LINE OA แยกย่อยตามประเภทสินค้า เช่น มี LINE OA ของสินค้าสกินแคร์ และ LINE OA ของสินค้าน้ำหอม ฯลฯ  เมื่อสินค้าใกล้เคียงกัน ธุรกิจสามารถทำ Cross Targeting ด้วยการแชร์กลุ่มเป้าหมายระหว่างกันเพื่อประสิทธิภาพการยิงโฆษณาที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำกลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกข้อความหรือภาพสินค้าที่สะท้อนความสนใจที่ใกล้เคียงกัน ย่อมมีแนวโน้มที่จะให้ประสิทธิภาพในการยิงโฆษณาที่สูงกว่านั่นเอง

ตัวอย่างการใช้งาน : จากธุรกิจความงามที่ยกมาข้างต้น หาก LINE OA ของผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีการบรอดแคสต์ข้อความออกไปแล้วข้อความนั้นเกี่ยวข้องกับกลิ่นหอม แล้วมีผู้ติดตามของผลิตภัณฑ์สกินแคร์มาคลิกที่ข้อความนั้น ๆ แสดงว่าผู้ติดตามคนดังกล่าวมีแนวโน้มสนใจสินค้าที่มีกลิ่นหอมด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ถ้าธุรกิจความงาม ต้องการจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำหอมตัวใหม่ ก็สามารถใช้ BUSINESS MANAGER แชร์กลุ่มเป้าหมายผู้ที่คลิกข้อความดังกล่าวใน LINE OA ของสกินแคร์ แชร์ไปให้กับบัญชี LINE Ads ของแบรนด์สินค้าน้ำหอมเพื่อยิงโฆษณาได้นั่นเอง

เทคนิคที่ 3 แชร์กลุ่มเป้าหมายที่คลิกโฆษณาของแบรนด์ A ไปยิงแอดบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B

ความสามารถในข้อนี้คือการแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่มีการคลิกภาพจากโฆษณาของแบรนด์หนึ่งให้กับอีกแบรนด์หนึ่งนำไปใช้ยิงแอดได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ได้ฐานข้อมูลที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เพียงผู้ติดตามใน LINE OA เพียงอย่างเดียว

ตัวอย่างการใช้งาน : แบรนด์ A เคยยิงโฆษณาออกไปตามช่องทางต่างๆ ของ LINE ผ่าน LINE Ads เช่น โฆษณาบนหน้า LINE Today, LINE Voom, LINE OpenChat, LINE Wallet ฯลฯ เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) จากนั้นเมื่อมีคนสนใจและมากดคลิกโฆษณาดังกล่าว (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ติดตามของแบรนด์เสมอไป อาจเป็น นาย A, B, C หรือใครก็ได้ที่ผ่านมาเห็นและสนใจโฆษณาชิ้นนี้เข้าโดยบังเอิญ) แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่คลิกโฆษณาดังกล่าวนี้ แชร์ให้บัญชี LINE Ads ของอีกแบรนด์หนึ่งยิงโฆษณาได้

เทคนิคที่ 4 : แชร์กลุ่มเป้าหมายที่เคยกดลิงก์โฆษณาเข้าชมเว็บไซต์ของแบรนด์ A ไปยิงแอดบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B

การแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายผ่าน BUSINESS MANAGER ในข้อนี้คือการแชร์ข้อมูลลูกค้าที่ถูกติดตามจากการติด LINE Tag โดยแบรนด์สามารถแชร์กลุ่มเป้าหมายที่ LINE Tag ติดตามผลว่าได้เคยคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ของแบรนด์ A จากการคลิกโฆษณา เพื่อให้แบรนด์ B นำไปใช้ยิงโฆษณาได้

ตัวอย่างการใช้งาน : สำหรับกรณีนี้ Journey ของกลุ่มเป้าหมายก็คือ เคยเห็นและกดโฆษณาที่แบรนด์ยิงออกไปโดยมีการติด LINE Tag และ LINE Tag จะชี้ว่า กลุ่มเป้าหมายมีการเดินตามเส้นทางไปจนถึงหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ ซึ่งสะท้อนว่า เป็นคนที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการอย่างมาก ซึ่งเมื่อแบรนด์ได้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้มา ก็สามารถแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวนี้ไปให้อีกแบรนด์ยิงโฆษณาได้ด้วย ซึ่งอาจเหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีเอเจนซี่หลายรายในการดูแลทำการตลาดแยกส่วนกัน จึงมีบัญชี LINE  Ads หลายบัญชี เครื่องมือนี้จึงมีขึ้นเพื่อช่วยให้แบรนด์แชร์ข้อมูลระหว่างกันได้สะดวกยิ่งขึ้นนั่นเอง

เทคนิคที่ 5 : แชร์ข้อมูลที่เก็บจากลูกค้าโดยตรงของแบรนด์ A ไปใช้ยิงแอดบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B

ในกรณีที่แบรนด์มีข้อมูลที่เก็บจากลูกค้าโดยตรง หรือที่เรียกว่า 1st party data ไม่ว่าจะเป็น อีเมล์ User ID หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้จากการทำแบบสอบถาม กิจกรรมการตลาด หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ก็สามารถนำไปใช้ยิงโฆษณาในบัญชีโฆษณาของอีกแบรนด์ได้ เพียงแค่แบรนด์อัปโหลดข้อมูลเข้า BUSINESS MANAGER พร้อมกันนี้ แบรนด์ยังสามารถเลือกบัญชีปลายทางสำหรับแคมเปญในแต่ละครั้งได้เอง (เช่น อาจเป็นบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B)

ตัวอย่างการใช้งาน : กรณีที่แบรนด์ A มีข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจากแบบสอบถามในงานออฟไลน์ที่ผ่านมา (ซึ่งอาจมีวันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เพศ ฯลฯ)  องค์กรสามารถทำการอัปโหลดข้อมูลดังกล่าวขึ้นสู่ BUSINESS MANAGER เพื่อให้แบรนด์ B นำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไปยิงโฆษณากลับไปหาลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างตรงจุด โดยนักการตลาดของแบรนด์ B อาจจะเลือกให้ยิงโฆษณาไปหาลูกค้าที่เป็นผู้หญิง ลูกค้าที่เกิดในเดือนมกราคม หรือลูกค้าที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นต้น โดยอาศัยข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการแชร์มาจากแบรนด์ A ทั้งนี้ องค์กรสามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้กับ LINE OA หรือ LINE Ads บัญชีอื่นๆ ภายใต้บริษัทเดียวกันได้ เพื่อใช้ในการสื่อสารและยิงโฆษณาบน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น แต่จะต้องเป็นบัญชีที่อยู่ภายใต้องค์กรเดียวกันเท่านั้น

เทคนิคที่ 6 : นำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เคยรับชมแอดบน LINE Smart Channel มายิงแอดบน LINE Ads

แบรนด์สามารถนำกลุ่มเป้าหมายที่เคยรับชมหรือเคยคลิกโฆษณาบน LINE Smart Channel แชร์ไปที่ LINE Ads เพื่อยิงโฆษณาตอกย้ำการรับรู้ ทำให้แบรนด์ได้ฐานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยจากการทดสอบของ LINE การทำ Cross Targeting เช่นนี้ จะช่วยเพิ่ม CTR ขึ้นถึง 5.7 เท่า และลดต้นทุน CPC ได้ถึง 40%

ตัวอย่างการใช้งาน : ปกติแล้ว การซื้อโฆษณาในจุด LINE Smart Channel มักเป็นการทำเพื่อสร้าง Awareness ในวงกว้าง ที่สร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี แบรนด์สามารถนำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้รับชมหรือเคยคลิกโฆษณา Smart Channel นี้ไปแชร์ให้กับอีกบัญชีหนึ่งยิงโฆษณาผ่าน LINE Ads หรือทำแคมเปญอื่น ๆ ได้เพิ่มเติม

เห็นไอเดียแบบนี้แล้ว เชื่อว่าจะทำให้แบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ใช้เครื่องมือ BUSINESS MANAGER ได้สนุกขึ้นแน่นอน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม! ซึ่งแบรนด์ที่สนใจ สามารถติดต่อเอเจนซี่ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสามารถเลือกติดต่อเอเจนซี่พันธมิตรของ LINE ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner ก็ได้เช่นกัน

ส่วนแบรนด์ใดที่อยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BUSINESS MANAGER สามารถเข้าไปได้ที่  https://lineforbusiness.com/th/service/businessmanager

#LINEBusinessManager #LINEforBusiness


แชร์ :

You may also like