กระแสฟุตบอลโลก FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งปิดฉากลงไปจะร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนบอลชาวไทย แต่เม็ดเงินโฆษณาของแบรนด์และผู้ประกอบการต่างๆ ที่คาดว่าจะสะพัดในช่วงไตรมาส 4 กลับไม่ร้อนแรงไปตามกระแส
เนื่องจากความล่าช้า ความไม่ชัดเจนของรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆในการถ่ายทอดสด เช่น รายชื่อสปอนเซอร์หลัก แพ็คเกจการขายโฆษณา ตารางช่องทางการถ่ายทอด รวมถึงสิทธิ์ในการสื่อสารทางการตลาดอื่นๆ (Sport Marketing) ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนมหกรรมฟุตบอลจะเริ่มขึ้น
โดยปกติมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ระดับโลกหรือระดับภูมิภาค มักเป็นที่สนใจและติดตามของแฟนกีฬาชาวไทย ซึ่งทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเม็ดเงินการตลาด สื่อสารการตลาดของเหล่าผู้ประกอบการและแบรนด์จะสะพัดอย่างมากเพื่อเกาะกระแสมหกรรมดังกล่าว
ช่วงก่อนปี 2020 ก่อนการระบาดของโควิด มหกรรมกีฬาเหล่านี้ทำให้เกิดเม็ดการตลาด สื่อสารการตลาด โดยเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาทางสื่อทีวีสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แต่ FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งจบลงไป มีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดในสื่อทีวีรวม 136 ล้านบาท
สรุป 5 สถานีทีวี ที่ได้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด คือ 1. ทรูโฟร์ยู 93 ล้านบาท 2.ช่อง 7 12 ล้านบาท 3.ช่องวัน 8.7 ล้านบาท 4. ช่อง 3 5.3 ล้านบาท 5. อมรินทร์ทีวี 4.8 ล้านบาท
สรุป 5 อันดับเรตติ้งสูงสุดการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 (กลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ)
1. เยอรมนี – ญี่ปุ่น (รอบ 32 ทีม) เวลา 20.00 น. เรตติ้ง 6.35
2. อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส (รอบชิงชนะเลิศ) เวลา 22.00 น. เรตติ้ง 4.32
3. อุรุกวัย – เกาหลีใต้ (รอบ 32 ทีม) เวลา 20.00 น. เรตติ้ง 3.89
4. โปแลนด์ – ซาอุดิอาระเบีย (รอบ 32 ทีม) เวลา 20.00 น. เรตติ้ง 3.58
5. อังกฤษ – อิหร่าน (รอบ 32 ทีม) เวลา 20.00 น. เรตติ้ง 3.56
โดยช่อง 7 ได้เรตติ้งสูงสุด จากการเป็นสถานีถ่ายทอดสด 2 คู่หลักที่ได้เรตติ้งสูงสุด คือ เยอรมนี – ญี่ปุ่น (รอบ 32 ทีม) เวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงไพรม์ไทม์ และคู่ชิงชนะเลิศ อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส ที่ได้เรตติ้งมาเป็นอันดับ 2 เนื่องจากแข่งขันเวลา 22.00 น. มีการต่อเวลาพิเศษ และยิงลูกโทษ ทำให้จบในเวลา 1.00 น. ผู้ชมจึงลดลง
ช่วงถ่ายทอดสด ช่อง 7 ยังสามารถขายเวลาโฆษณาคู่ชิงชนะเลิศ อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส ได้นาทีละ 350,000 บาท สูงสุดของการถ่ายทอดสดครั้งนี้ ขณะที่การแข่งขันคู่อื่นๆ ขายโฆษณาได้หลักหมื่นบาทต่อนาที
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาโค้งสุดท้ายของปี 2565 MI GROUP คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาน่าจะปิดอยู่ที่ 82,300 ล้านบาท หรือเติบโต 8.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
โดยชัดเจนว่าเม็ดเงินโฆษณากว่า 90% ยังคงอยู่กับ 3 สื่อหลักคือ สื่อโทรทัศน์ 45.8% สื่อออนไลน์ 32.3% และสื่อนอกบ้าน 12.9%
คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI Group ประเมินว่าปี 2566 เม็ดเงินโฆษณาคาดว่าจะอยู่ที่ 85,790 ล้านบาท เติบโต 4.2% ยังถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำ เนื่องจากยังมีปัจจัยกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิตสูง ทำให้เสี่ยงที่แบรนด์ต่างๆ จะลดงบโฆษณาเพื่อลดต้นทุน เพราะไม่สามารถปรับราคาสินค้าที่จะกระทบกับกำลังซื้อได้
ปี 2566 สื่อหลักยังเป็น 3 สื่อ คือ โทรทัศน์ แต่สัดส่วนจะลดลงไปอีกอยู่ที่ 44.4% สื่อออนไลน์ 33% และสื่อนอกบ้าน 14.1%
