ผนึกกำลัง 3 เจ้าสัว “อัมพุช-สิริวัฒนภักดี-เจียรวนนท์” จับมือปั้น “ย่านบางกะปิ” สู่เมืองใหม่ “มัลติ มิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์”ระดับโลก

หากพูดถึงธุรกิจค้าปลีกที่อยู่คู่ไทยมานานแน่นอนว่า “เดอะมอลล์” คือชื่อของศูนย์การค้าลำดับแรกๆที่คนไทยนึกถึง โดยตลอดเส้นทางธุรกิจ 42 ปีของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาท่ามกลางการของโลกการค้าสมัยใหม่ ที่ต้องเป็นมากกว่าศูนย์การค้าและต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

เส้นทางความสำเร็จของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” เกิดขึ้นภายใต้การนำทัพของ “คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งวงการค้าปลีกไทย” ที่เดินหน้าปั้นฟิสิคัลสโตร์ สุดหรูมาแล้วมากมายไล่เรียงตั้งแต่ เดอะมอลล์ , เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์, สยามพารากอน , ดิเอ็มดิสทริค ทั้ง ดิเอ็มโพเรียม ดิเอ็มควอเทียร์  และดิ เอ็มสเฟียร์ ประสบความสำเร็จมาแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อโลกค้าปลีกเปลี่ยนแปลง ปัจจัยแวดล้อมมากขึ้น Landscape ของการแข่งขันก็เปลี่ยนแปลงตาม แม้ศูนย์การค้าแห่งใหม่จะประสบความสำเร็จ แต่ฟอร์แมทซ์เดิมอาจจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทำให้เดอะมอลล์เดินหน้าภารกิจ  “Rebranding” พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ จาก “เดอะมอลล์” สู่ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์”  โดยนำร่องแห่งแรกที่ “เดอะมอลล์  ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน”และต่อด้วย “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ” และได้รับผลการตอบรับที่ดีมาแล้ว

พร้อมทั้งทยอยยกเครื่องสาขาที่เหลือสู่โฉมใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับการประกาศยกเครื่องทั้ง “เดอะมอลล์ บางกะปิ” และ “เดอะ มอลล์ บางแค” ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี  สู่แบบใหม่ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์” เปรียบเสมือนการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แวดวงค้าปลีกทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อยกระดับศูนย์การค้าในเครือให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและการแข่งขัน โดยเตรียมพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2566 นี้

4 หัวใจ สู่ Winning Formula ชัยชนะในแวดวงค้าปลีก

คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าเพราะการมาห้างสรรพสินค้าคือการหาความสุข ดังนั้นการปรับสู่คำว่าไลฟ์สโตร์ คือวิชันของเราที่ต้องก้าวไปก่อนคนอื่น มีความกล้า คิดนอกกรอบ ถ้าคุณจะเป็นผู้นำ คุณต้องมีความกล้า และต้องเสี่ยง เราผ่านมาทุกยุค ทุกอุปสรรค  วันนี้เราแข็งแกร่งแล้ว เราผูกพันธ์กับร้านค้า รีเทลที่ทำยากที่สุดคือการ Commitment กับพาร์ทเนอร์ ไม่ใช่การการันตีว่าบริษัทเราจะมีกำไรมากที่สุด แต่คือการพึ่งพาซึ่งกันและกัน ทุกวันนี้เรามีพันธมิตรที่รัก เป็นความสำเร็จ คือความเชื่อมั่นและ Confident หลายร้านเติบโตมาจากเรา การทำรีเทลมายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ความเชื่อมั่นมาเต็ม เรียกว่ายามมีความสุขง่าย ยามเดือดร้อนจะเห็นใจกัน เห็นพลังแห่งความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ทั้งหมดคือจุดแข็งในการสร้างการเติบโตให้แก่เดอะมอลล์ กรุ๊ปมาจนถึงทุกวันนี้”

คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

โดยหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจค้าปลีก ภายใต้แนวคิด Winning Formula ที่ประกอบไปด้วย 4 คีย์ซัคเซสหลักในการปั้นธุรกิจรีเทลให้ประสบความสำเร็จ อันประกอบไปด้วย

1. Key Strategic Location : ทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร 
2. Key Project Composition : องค์ประกอบที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร เพียบพร้อม และสมบูรณ์แบบ 
3. Efficient & Impact Marketing Strategies : กลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพ
4. Extensive Experiences & High Capability : ทีมงานที่มีความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ
5. Togetherness & Strong Commitment : ความมุ่งมั่น ทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกัน

 นั่นทำให้เดอะมอลล์ ประสบความสำเร็จจนก้าวสู่รีเทลแถวหน้าของไทยได้ตลอดช่วงที่ผ่านมา และยังมีโปรเจกต์ใหม่ๆ ตอบรับไลฟ์สไตล์ออกมาตลอดเวลา

ผนึกกำลัง 2 เจ้าสัว “ซีพี-AWC” เดินเครื่องวิชั่นใหม่ปั้น “ย่านบางกะปิ” สู่ Urban Lifestyle ใหม่

ที่น่าจับตาคือการรีแบรนด์  “เดอะมอลล์ บางกะปิ” สู่โฉมใหม่ “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ” ไม่ใช่แค่การยกเครื่องศูนย์การค้าของตัวเองเท่านั้น หากแต่เป็นการผนึกกำลังกับอีก 2 เจ้าสัวรายใหญ่อย่าง “ซีพี” และ “AWC” ในการพัฒนาเมืองหรือย่านการค้าขนาดใหญ่ของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ที่มีเป้าหมายคือการสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางเวทีการค้าระดับโลกของประเทศไทย และยกระดับกรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก นับเป็นการการปั้นย่านการค้าต่อจากโปรเจกต์ “The Em District” ใจกลางสุขุมวิทที่ทางค่ายประกาศมาก่อนหน้า เพียงแต่ครั้งนี้มีบิ๊กเนมเข้ามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย

ภายใต้วิชั่นที่ต้องการสร้าง “ย่านบางกะปิ” ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่เศรษฐกิจกว่า 100 ไร่ ให้เป็นย่านธุรกิจสำคัญ โดยเริ่มจาก เดอะ มอลล์ บางกะปิ ซึ่งมีที่ดินอยู่ราว 50 ไร่ (หลังต่อสัญญาเช่าที่ดินออกไปอีก 30 ปี)  ใกล้เคียงมี “ตะวันนา บางกะปิ”  24 ไร่ ภายใต้การบริหารงานของ “แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ AWC ในเครือ ทีซีซี กรุ๊ป ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี”  ต่อด้วย  “แม็คโคร” และ “โลตัส” (ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์) ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกใน “เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี” ของ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” โดยทั้งหมดได้มีการพูดคุยเพื่อกำหนดทิศทางการบริหารแต่ละรายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อปั้นย่านให้มีความหลากหลายเข้าด้วยกัน

ทั้งหมดจะถูกต่อยอดออกมาเป็นย่านที่มีความหลากหลายครบครัน ทั้งเรซิเดนท์เชียล ,ศูนย์การค้าพันธ์ทิพย์ บางกะปิ และโรงแรม เดอะพันธุ์ทิพย์โฮเทล ลาดพร้าว แบงค็อก ในการร่วมกันพัฒนาโครงการให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ให้กลายเป็น “Multi Mixed -use Complex” ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ยกระดับ “บางกะปิ” ที่จะไม่ใช่ย่านชานเมือง แต่คือย่านเศรษฐกิจ มหานครใหม่ที่จะเกิดขึ้น

การจับมือกันไม่ใช่เพียงแค่การปั้นย่านให้ไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องพื้นฐาน อย่าง ที่จอดรถ ทางเข้าออก ที่ทั้ง 3 ราย จะคอยอำนวยความสะดวกเชื่อมการบริการเสมือนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

จุดตัดรถไฟฟ้า 3 สาย ฮับ “การค้า-มหานครใหม่”กรุงเทพฯ 

ขณะเดียวกัน “ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์  บางกะปิ”  ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญ บนถนนลาดพร้าว – บางกะปิ  แยกบางกะปิ และลำสาลี  โดยสถานีรถไฟฟ้าลำสาลีจะเป็นศูนย์รวมการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าหลัก 3 สาย คือ  โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง   (ช่วงลาดพร้าว – สำโรง )  ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม 2566   และอีก 2 สายคือ  โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม  ( ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี )  

โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล  ( แคราย – ลำสาลี )  ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีส้ม  และสำหรับศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค  ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม  – กาญจนาภิเษก  โดยมีสถานีหลักสอง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล  เป็นเครือข่ายคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฝั่งตะวันตก

“คุณแอ๊ว” บอกว่า ด้วยศักยภาพของย่านบางกะปิ และระบบการเดินทางที่มีคนสัญจรผ่านไปมาหลายล้านคนต่อวัน หากแบ่งสัก 10% เข้ามาในย่านฯ นี่คือสิ่งที่เป็นไปได้ และจะทำให้บางกะปิกลายเป็นอีกหนึ่งย่านการค้าหลักของประเทศได้จากความ ครบวงจร ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม พื้นที่เช่าต่างๆ ในรูปแบบ MEGA ALL-IN-ONE RETAIL& ENTERTAINMENT PROJECT เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าซึ่งในรัศมี 10 กิโลเมตรของ ที่มีประชากรกว่า 2 ล้านคน และมีประชากรดิจิตอลสูงถึง 5 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่พัก คอนโดมิเนียม มากกว่า 1.2 ล้านยูนิต

โดยการพลิกโฉมใหม่ครั้งจะเห็นร้านค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนมาเปิดให้บริการ สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ถูกใจทุกกลุ่มลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเจนเอ็กซ์ เจนวาย รวมถึงกลุ่มอัลฟ่าด้วย ด้วยการระดมร้านค้า สร้างปรากฏการณ์ใหม่ อัพเกรด “บางกะปิ” สู่ช้อปปิ้งแถวหน้ากับแบรนด์ชั้นนำมากมาย อาทิ ดอง ดอง ดองกิ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากญี่ปุ่น,ร้าน MK โมเดลใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ,Harborland ในรูปแบบใหม่ Harbor World ไปจนถึงร้านนาฬิกาหรูชั้นนำระดับโลก โดยส่วนของเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ โฉมใหม่จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 นี้

อ่านเพิ่มเติม

ฝันใหญ่ของ ‘ศุภลักษณ์ อัมพุช’ ไม่ใช่แค่ Shopping Center แต่ปั้น “ย่านสุขุมวิท” ยกกรุงเทพสู่มหานครโลก