HomeSponsoredผ่ากลยุทธ์ “ซัคเซสมอร์” เข้าสู่ปีที่ 10 บนเส้นทางปั้นแบรนด์ขายตรงไทย สู่ “มหาชน”

ผ่ากลยุทธ์ “ซัคเซสมอร์” เข้าสู่ปีที่ 10 บนเส้นทางปั้นแบรนด์ขายตรงไทย สู่ “มหาชน”

แชร์ :

การทำธุรกิจขายตรงเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่า “ยาก” แล้ว แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา “ท้าทาย” ยิ่งกว่า เพราะภาพรวมตลาดอยู่ในภาวะ “ทรงตัว” มาหลายปี โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท ในขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ยังหันมานิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบาย รวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน วันรุ่งขึ้นสินค้าก็มาส่งถึงบ้าน ส่งผลให้ผู้บริโภคมี Brand Loyalty ต่อสินค้าน้อยลง เพราะหากเจอโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม มากระตุ้นความสนใจ ก็พร้อมจะเปลี่ยนใจทันที

ดังนั้น การจะปั้นแบรนด์ให้เติบโตและครองความเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภคบนสมรภูมินี้ จึงท้าทายและยากไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะหากเป็นแบรนด์ไทยด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีอาวุธครบมือ แต่หนึ่งในแบรนด์ขายตรงสัญชาติไทยอย่าง “บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)” หรือ “SCM” แม้จะดูเป็นชื่อใหม่ในวงการ ทว่าปัจจุบันดำเนินธุรกิจจะเข้าสู่ 1 ทศวรรษแล้ว และยังขยายฐานธุรกิจไปอีก 6 ประเทศ วันนี้ Brand Buffet พามาคุยกับ นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันท์ ประธานกรรมการบริหาร และ คุณนพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้อยู่เบื้องหลังการปั้น “ซัคเซสมอร์” จากก้าวแรกจนถึงปัจจุบัน และทิศทางในอนาคตจากนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สู้ด้วย “คุณภาพ” และ “บุคลากร” ปั้นแบรนด์ซัคเซสมอร์ สู่ “มหาชน”

เส้นทางเริ่มต้นของ “ซัคเซสมอร์” เกิดมาจาก นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการแพทย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กระทั่งมีความสนใจในการแก้ Pain Point ให้กับคนไข้ที่ต้นเหตุ เพราะจากการตรวจรักษาคนไข้ เห็นว่าจำนวนคนไข้ไม่ได้ลดลง ตรงกันข้ามกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อรักษาหายแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ จึงมองว่าการป้องกันไม่ให้เกิดโรค ด้วยการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จึงตัดสินใจร่วมกับ คุณนพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ก่อตั้งบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้ง จำกัด ขึ้นในปี 2555 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในรูปแบบเครือข่าย หรือ MLM

จากวันนั้นถึงวันนี้ ซัคเซสมอร์เดินทางมา 10 ปีแล้ว และสามารถสร้างการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทะยานขึ้นหลักพันล้านบาท แถมปัจจุบันยังเป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมแผ่กิ่งก้านธุรกิจส่งสินค้าไปจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียนถึง 6 ประเทศ

โดยสิ่งที่ผลักดันให้แบรนด์ “ซัสเซสมอร์” สามารถแจ้งเกิดและครองใจผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ จนมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ต้องเจอคู่แข่งมากมายในตลาดขายตรง คุณนพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร เผยว่ามาจาก 2 กลยุทธ์หลัก คือ

1.คุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

ซัคเซสมอร์ มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ ๆ เพื่อให้ได้คุณภาพที่ถูกใจผู้บริโภค ทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Product Portfolio และครอบคลุมทุกความต้องการดูแลสุขภาพของลูกค้าแต่ละคน โดยผลิตภัณฑ์ของซัคเซสมอร์ในปัจจุบันมีกว่า 70 รายการ แบ่งเป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจำวัน 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 5.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมทันสมัย และ 6.กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน โดยในจำนวนนี้ 26 รายการ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ

2.การพัฒนาบุคลากรให้มี Skill รอบด้าน พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง

สิ่งที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งของซัคเซสมอร์คือ การมีฐานสมาชิกที่เหนียวแน่น ด้วยระบบการพัฒนาคนให้มีทักษะรอบด้าน ทั้ง Mindset, Skillset และภาวะผู้นำ จึงทำให้สมาชิกสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และมีความผูกพันกับบริษัท ปัจจุบันซัคเซสมอร์มีฐานสมาชิกกว่า 187,000 ราย แบ่งเป็นสมาชิกในไทย 136,000 ราย และสมาชิกในต่างประเทศ 51,000 ราย

ทุ่ม 30 ล้าน ดึงพลัง “มาริโอ้” นั่งแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก โปรโมท เอส.โอ.ดี มอร์ สู่วงกว้าง

แม้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจะประสบความสำเร็จกับการสร้างแบรนด์และยอดขาย จนสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากแบรนด์ใหญ่ที่ยึดพื้นที่ในตลาดมานานได้ไม่น้อย แต่คุณนพกฤษฎิ์ ยอมรับว่า สมรภูมิการแข่งขันของตลาดขายตรงดุเดือดขึ้นทุกวัน ไม่ใช่แค่คู่แข่งในตลาดขายตรงด้วยกันเองเท่านั้น แต่แพลตฟอร์มออนไลน์ยังเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อหดตัว จากสภาพเศรษฐกิจที่บอบช้ำจากการระบาดของโควิด-19 มานาน ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยลง หากเจอโปรโมชั่นมากระตุ้น พร้อมจะ Switch Brand ทันที ส่งผลให้การทำธุรกิจขายตรงวันนี้จึง “หิน” กว่าเดิม

“10 ปีที่ผ่านมา เราใช้ตัวเองและฐานสมาชิกเป็นกระบอกเสียงมาโดยตลอด ซึ่งสร้างแบรนด์มาได้ระดับหนึ่ง แต่ด้วยพลังที่จำกัด และโลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนตาม ถ้าทำแบบเดิม ๆ เท่ากับย้ำอยู่กับที่ แบรนด์ก็เป็นที่รู้จักในวงจำกัด ส่วนยอดขายและฐานสมาชิกก็ไม่เพิ่ม”

คุณนพกฤษฎิ์ บอกถึงโจทย์ใหญ่ของธุรกิจขายตรง และเป็นที่มาให้ปีนี้ “ซัคเซสมอร์” ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการทุ่มงบ 30 ล้านบาท ดึง “คนดัง” มาช่วยเสริมการรับรู้แบรนด์ และสร้างอิมแพคมากขึ้น ซึ่งหลังจากเสาะหาคนดังที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่นาน จึงมาลงตัวที่ “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับซัคเซสมอร์ เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ (S.O.D MORE) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

“ปัจจุบัน เอส.โอ.ดี มอร์ มียอดขายเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มสินค้า แต่ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เราจึงอยากให้คนรู้จักผลิตภัณฑ์นี้ในวงกว้างมากขึ้น ส่วนที่เลือกมาริโอ้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะตัวตนและคาแรคเตอร์ของมาริโอ้ตรงกับแบรนด์ ทั้งการใส่ใจในสุขภาพ บุคลิกดี รวมถึงเป็นพระเอกที่มีชื่อเสียง และมีฐานแฟนคลับหลากหลายกลุ่มที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ เอส.โอ.ดี มอร์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น”

คุณนพกฤษฎิ์ อธิบายเหตุผลที่เลือกมาริโอ้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ เอส.โอ.ดี มอร์ เป็นผลิตภัณฑ์แรก พร้อมตั้งเป้าว่า หลังจากใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ จะสามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น และผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ เติบโตขึ้น เป็น 300-400 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขายประมาณ 60-70 ล้านบาท หรือประมาณ 8% ของยอดขายทั้งหมด รวมถึงช่วยเพิ่มฐานสมาชิกในกลุ่มคนรุ่นใหม่ประมาณ 100,000 คน จากปกติ 60,000 คน

ตั้งเป้า 3 ปี รายได้แตะ 2,000 ล้าทบาท

สำหรับกลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงการตลาด แต่คุณนพกฤษฎิ์ บอกว่า กลยุทธ์นี้จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจขายตรงมากขึ้น โดยเฉพาะในปีหน้าจะได้เห็นหลายแบรนด์หันมาใช้โมเดลนี้ในการทำตลาดกันมากขึ้น เพราะจะช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ที่พร้อมสู้สามารถขยายฐานลูกค้าและสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้มากขึ้น แต่การจะใช้กลยุทธ์นี้ให้ประสบความสำเร็จนั้น “คุณภาพ” ผลิตภัณฑ์ต้องดีด้วย เพราะหากคุณภาพไม่ดีจริง อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในแบรนด์ตามมาได้

นอกจากการดึงพลังคนดังมาช่วยโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้ว “ซัคเซสมอร์” ยังจะใช้ เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ มาเป็นเครื่องมือสื่อสารแบรนด์ รวมถึงมีแผนจะส่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ลดน้ำหนัก” มาทำตลาดอย่างจริงจัง เพื่อเป็น Hero Product ตัวใหม่ในการผลักดันยอดขายในปีหน้า ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรูปร่างร่วมกับสมาชิก เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนารูปร่าง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จะส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มลดน้ำหนักมาทำตลาดในเดือนธันวาคมนี้

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการเทรนนิ่งฐานสมาชิกให้มีความรู้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเพิ่มฐานสมาชิกในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้มีพลังสูง และเรียนรู้เร็ว แต่ยอมรับว่าคนกลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงง่าย และอดทนต่ำ แต่ในทางกลับกัน หากคนกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จและมีระบบการจ่ายค่าตอบแทนที่ดี คนกลุ่มนี้จะอยู่ยาว ทั้งยังดึงดูดคนใหม่ให้เข้ามาเป็นฐานสมาชิกได้มากขึ้น โดยปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มฐานสมาชิกรุ่นใหม่เป็น 10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 5%

ส่วนเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้ใน 3 ปีจากนี้ ต้องมียอดขาย 2,000 ล้านบาท จากปี 2564 มีรายได้ 1,283 ล้านบาท พร้อมดันซัคเซสมอร์เป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภคทั้งชาวไทยและอาเซียน

“ซัคเซสมอร์” จึงนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์สัญชาติไทยที่น่าสนใจ เพราะในแง่หลักไมล์อาจไม่ได้ยาวนานเมื่อเทียบกับแบรนด์ใหญ่ในตลาด แต่แบรนด์และยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของแบรนด์ขายตรงสัญชาติไทยรายนี้ได้เป็นอย่างดี และหากผลลัพธ์จากการใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ ได้ผลดี ซัคเซสมอร์มีแผนจะต่อยอดใช้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

พิเศษ! ช่วงท้ายแคมเปญ “เปย์หนัก! จัดใหญ่ แจกจริงโชคหล่นทับทั้งปี” ที่ซัคเซสมอร์แจกรางวัลมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท! โดยรางวัลใหญ่ที่จะจับแจกครั้งสุดท้าย คือ รถยนต์ BMW รุ่น 220i Gran Coupe M Sport จำนวน 1 คัน ซึ่งจะจับรางวัลในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) สามารถลุ้นรับรางวัลง่าย ๆ เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ซัคเซสมอร์ ครบทุก ๆ 1,500 บาท รับ coupon ลุ้นโชค 1 ใบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: Successmore

สำหรับท่านใดที่สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ สามารถติดต่อสั่งซื้อได้กับนักธุรกิจซัคเซสมอร์ทั่วประเทศ call center 02-5115955 Line OA @successmore หรือที่ LazMall: SUCCESSMORE-Official

link: https://www.lazada.co.th/shop/successmore-official/


แชร์ :

You may also like