กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นอีกหนึ่งองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ชัดเจนในการดำเนินงาน ภายใต้เป้าหมาย 3 ปี (2565-2567) สร้างการเติบโตเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือมียอดขาย 90,000 ล้านบาท ดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์หลักที่ครอบคลุมในทุกมิติ ตั้งแต่ Fulfilling ปลุกพลังแบรนด์สินค้า, Growing ปลุกพลังธุรกิจเติบโต และ Caring ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจระยะยาว ไม่ใช่เพียงรายได้ที่เข้ามาเท่านั้น หากแต่ยังขยายการเติบโต ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาด
จึงเป็นที่มาของการจับมือกันระหว่างกลุ่มธุรกิจ TCP และ คราวน์ โฮลดิ้งส์ ผู้นำการผลิตแพคเกจจิ้งส่งเสริมแบรนด์สินค้า กับความร่วมมือครั้งใหม่เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมภายใต้ชื่อ CROWN TCP ด้วยงบร่วมลงทุน 1,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 26,400 ตร.ม. ในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค จ.สระบุรี มีกำลังการผลิต 820 ล้านกระป๋อง/ปี เพื่อใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ของกระทิงแดง (Red Bull) ส่งออกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ความร่วมมือคือกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน สำหรับการร่วมทุนกับ CROWN จึงเป็นการส่งเสริมพันธมิตรธุรกิจยั่งยืนที่เป็นมากกว่าคู่ค้า รองรับความต้องการของตลาดส่งออกกระทิงแดง (Red Bull) และเพิ่มความมั่นใจในการส่งมอบบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ มาตรฐานคุณภาพ และนำนวัตกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ระดับโลก มาสู่อุตสาหกรรมการผลิตและแรงงานไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า”
โรงงาน CROWN TCP ไม่เพียงแต่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ แต่ยังส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะเป็นโรงงานเพื่อส่งออก 100% นอกจากนี้ การที่กลุ่มธุรกิจTCP ร่วมลงทุนเปิดโรงงานเอง ทำให้สามารถกำหนดและควบคุมการผลิตบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวเองได้แต่ต้น โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
#โซลูชั่นอัจฉริยะครบวงจรรับ Thailand Industry 4.0 ยกระดับการผลิต
นอกจากนี้ การจับมือดังกล่าวยังเพื่อรับมือกับการก้าวสู่ยุค Thailand Industry 4.0 ด้วยการใช้ระบบ Smart Manufacturing ยกระดับกระบวนการผลิตและบริหารจัดการโรงงานด้วยโซลูชั่นอัจฉริยะอย่างครบวงจร ทั้งด้านคุณภาพการผลิต การจัดการพลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ การจัดการหมุนเวียนขยะและน้ำเสีย และความปลอดภัย สร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น ตามแนวทางการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของทั้ง 2 องค์กร
ปัจจุบัน โรงงาน CROWN TCP สามารถขึ้นรูปกระป๋องอะลูมิเนียมที่มีความบางที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มให้พลังงาน เพียง 0.245 มม. นับเป็นจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งที่ผ่านมา ถือเป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานในประเทศไทยที่ปรับลดความหนาตัวกระป๋องอะลูมิเนียมของ Stubby, Sleek, Standard, Slim อย่างต่อเนื่อง จาก 0.275 มม. จนเป็น 0.260 มม.
ซึ่งแน่นอนว่ากระป๋องอะลูมิเนียมมีความบางมากขึ้น แต่คุณภาพของกระป๋องจะยังคงเหมือนเดิม กระป๋องยังมีความคงทนแข็งแรง และเก็บรักษาคุณภาพเครื่องดื่มได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากกระป๋องอะลูมิเนียมถือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สร้างขยะให้กับโลก เพราะสามารถรีไซเคิลได้ 100% และยังใช้พลังงานในการรีไซเคิลต่ำกว่าการสกัดแร่ใหม่ถึง 95%
โดย มร. โก๊ะ ฮอก ฮ๊วด ประธาน บริษัท คราวน์ เอเซีย แปซิฟิก กล่าวว่า “บริษัทเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดโลหะระดับโลก มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มธุรกิจ TCP เราเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จบทใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP นอกเหนือจากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ Red Bull อันเป็นตำนานและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น”
#โรงงาน CROWN TCP อีกหนึ่งต้นแบบโรงงานรักษ์โลก
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์การแข่งขันทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หัวใจสำคัญของโรงงานไม่ใช่แค่เรื่องสมรรถนะขีดความสามารถและกำลังการผลิตที่ต้องเพียงพอเท่านั้น หากแต่การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนคืออีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทำให้โรงงาน CROWN TCP ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนใน 6 ประการหลักที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่
1.น้ำ ลดการใช้น้ำได้สูงสุดในเครือโรงงานของ CROWN ในเอเชีย ลดการใช้น้ำมากกว่าปีละ 2 ล้านลิตรจากกระบวนการผลิต และนำน้ำจากกระบวนการผลิตหลังบำบัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพาเลท ล้างถนน และใช้สำหรับห้องน้ำ โดยสามารถประหยัดการใช้น้ำได้มากกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากว่า 3 tonCo2e ต่อปี
2.ขยะ บริหารจัดการให้เป็นโรงงาน Zero Waste to Landfill และนำขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิต ไม้พาเลท และวัสดุห่อหุ้มต่าง ๆ มารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น มีการนำกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจากเดิมนำไปฝังกลบเปลี่ยนเป็นการนำไปรีไซเคิลทำเป็นส่วนผสมอิฐ ทำให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 202 TonCo2e ต่อปี
3.อากาศ มีการติดตั้ง RTO หรือเครื่องฟอกอากาศของเตาเผากลิ่น เพื่อลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งคุณภาพของอากาศที่ปล่อยออกจากปล่องมีมาตรฐานที่ดีกว่าค่ามาตรฐานที่การนิคมอุตสาหกรรมกำหนด
4.พลังงาน ระบบ Timer ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงงาน โดยสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากว่า 75,000 kwh ต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากว่า 45 TonCo2e ต่อปี
5.แผนการติดตั้ง Solar Roof ในปี 2023 สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ประมาณ 650 TonCo2e ต่อปี
6.การลดการใช้ฟิล์มในการพันพาเลทกระป๋อง สามารถลดขยะและลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20 TonCo2e ต่อปี
ด้วยการดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คาดว่าโรงงาน CROWN TCP จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2023 ลงได้เกือบ 1,000 TonCo2e ต่อปี
เป็นอีกก้าวสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่ใช่เพียงเรื่องของธุรกิจที่ต้องทะยานไกลในระดับโลกเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนรวมและทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน