หมูกระทะฟีเวอร์ “บาร์บีคิว พลาซ่า” ปล่อยหมัดเด็ด แตกโมเดล “Gon กระทะ” ชูจุดเด่น ราคาเข้าถึงได้เริ่มต้น 299 บาท มาพร้อมนำ้จิ้ม 4 รสชาติ และมาสคอตใหม่กับ “มังกรสีทอง” สัญลักษณ์สุดคิวท์หน้าร้าน หวังดึงลูกค้าใหม่ให้ทดลองเข้าร้าน
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา “บาร์บีคิว พลาซ่า” คืออีกหนึ่งเจ้าแห่งการตลาดที่ขยันปล่อยหมัดเด็ด สร้างสีสันกิจกรรมทางการตลาดตลอดเวลา โดยมีดีเอ็นเอการตลาดของทางแบรนด์อย่าง “Character Marketing” เป็นตัวแทนในการสื่อสารกับลูกค้า จนชื่อของมาสคอตของแบรนด์อย่าง “มังกรเขียวบาร์บีกอน” หรือ “พี่ก้อน” กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ถูกนำมาเป็นตัวสร้างสีสันและสร้างการเข้าถึงให้กับแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ภายใต้การบริหารงาน “บาร์บีคิว พลาซ่า” ยุคใหม่ที่มี “รัฐ ตระกูลไทย” เข้ามากุมทัพในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดตั้งแต่ราวกลางปีที่ผ่านมา กับโจทย์ความท้าทายใหม่ท่ามกลางสมรภูมิร้านอาหารที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อ “Character Marketing” และ “โปรโมชั่นแคมเปญ” ไม่เพียงพอต่อการสร้างภาพจำในยุคที่ร้านอาหารหลายแห่งต่างก็มีมาสคอต-โปรโมชั่นออกมาแย่งชิงลูกค้าเช่นกัน
เกิดเป็นการบ้านใน 2 ข้อใหญ่ที่ต้องเดินหน้าแก้โจทย์ ได้แก่ 1.การเพิ่มบิลและเพิ่มความถี่ในร้าน 2. การหา New User ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Development) ดึงดูดลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ให้มาทดลองประสบการณ์ รวมทั้งทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากเพิ่มการจับจ่ายต่อบิลขึ้นให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการรับประทานของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา “บาร์บีคิว พลาซ่า” เดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดทั้งการการออกโปรโมชั่นบุฟเฟต์ กลยุทธ์ความร่วมมือ (Collaboration) กับแบรนด์ต่างๆ ไปจนถึงการเปิดขาย “น้ำจิ้มในตำนาน” จนสร้างเป็นปรากฏการณ์มาแล้วมากมาย
ล่าสุด “บาร์บีคิว พลาซ่า” ก็สร้างปรากฏการณ์ในแวดวงอาหารอีกครั้ง กับการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านปิ้งย่าง สู่เป็นร้านโมเดลใหม่ “Gon กระทะ” ขึ้นภายในร้าน “บาร์บีคิว พลาซ่า” โดยนำร่องแห่งแรกในย่านสายไหม อย่าง “สายไหม อเวนิว” (Sai Mai Avenue) ย่านที่ประกอบไปด้วยชุมชน โรงเรียน และคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ “Gon กระทะ”
“Gon กระทะ” นำร่องโมเดลใหม่ เน้นราคาเข้าถึงได้ จับลูกค้า Gen Z เพิ่ม
สำหรับ “Gon กระทะ” ถือเป็นการแตกไลน์โมเดลใหม่ภายในร้าน “บาร์บีคิว พลาซ่า” โดยเปิดตัวสาขา Prototype แห่งแรกและแห่งเดียว “สายไหม อเวนิว” (Sai Mai Avenue) เป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่ ธันวาคม 2565- กุมภาพันธ์ 2566 เป็นการต่อยอดเมนูใหม่ภายในร้าน ด้วยการนำจุดแข็งของแบรนด์อย่างเรื่องของการ “ปิ้งย่าง” มาต่อยอดในเซกเมนต์ใหม่ที่ใกล้เคียงอย่าง “หมูกระทะ” ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
มีเป้าหมายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z ที่ทางค่ายมองว่าแบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” อาจจะมีราคาแรงจนเกินทำให้ Gen Z หลายคนอาจจะยังเข้าไม่ถึง หรือหากสามารถรับประทานได้ ก็อาจจะไม่สามารถเข้ามารับประทานได้บ่อยๆ ซึ่งอาจจะเป็นการลดความถี่และโอกาสทางการขายของร้านลง
ทำให้ “Gon กระทะ”มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “หมูกระทะ ที่ราคาเข้าถึงได้” กับ พร้อมกับชื่อเก๋ๆ อย่าง “Gon กระทะ หมูกระทะกันเอง” ประกอบด้วย 3 เซ็ตเมนู เริ่มต้นตั้งแต่ ขนาดเล็ก ราคา 299 บาทต่อเซ็ต, ขนาดกลาง ราคา 399 บาทต่อเซ็ต และขนาดใหญ่ ราคา 499 บาทต่อเซ็ต (และยังมีแบบ A la cart ให้เลือกด้วย) ต่างจาก “บาร์บีคิว พลาซ่า” ที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 600-700 บาทต่อเซ็ต เรียกว่าราคาแตกต่างจากบาร์บีคิวพลา ซ่าเกือบเท่าตัว
นอกจากนี้ยังมาพร้อมน้ำจิ้ม 4 รสชาติให้เลือก ทั้ง น้ำจิ้มแจ่ว,น้ำจิ้มสุกี้,น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มหมูกระทะ (หรือจะเหมาทั้ง 4 แบบก็ได้) เมนูทานเล่นอีก 4 อย่าง ได้แก่ สามชั้นทอดกรอบ ไส้ทอดกระเทียม ไก่ย่างจิ้มแจ่ว และยำรวมซีฟู้ด สนนราคาตั้งแต่ 139-159 บาท
เมื่อราคาพร้อม Position ชัดเจน สเต็ปต่อมาคือการเลือกสาขาของบาร์บีคิวพลาซ่า ที่มีอยู่กว่า 144 สาขา ว่าทำเลใดจะเหมาะสมในการนำร่องเจาะกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และ ““สายไหม อเวนิว” (Sai Mai Avenue) คือทำเลที่ตอบโจทย์การทดลองตลาดของทางแบรนด์ได้ดีเพราะด้วยพื้นที่รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์แนวราบ มีพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ ใกล้แหล่งชุมชน และยังมีโรงเรียนในพื้นที่ติดกัน ที่มีกลุ่มเป้าหมาย Gen Z อยู่เป็นจำนวนมากทำให้ทางแบรนด์เลือกทำเลดังกล่าวเปิดบริการเป็นแห่งแรก เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความถี่ในการเข้ามารับประทานได้ในคราวเดียวกันบนทำเลที่เพียบพร้อม
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือแม้จะมีมาสคอต “บาร์บีกอน” ยืนเด่นอยู่หน้าร้านเหมือนทุกสาขา แต่ “พี่ก้อน”สาขานี้กลับถูกเปลี่ยนจาก “มังกรสีเขียว” เป็น “มังกรสีทอง” นัยหนึ่งอาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการมีเมนูเซกเมนต์ใหม่ๆอย่าง “Gon กระทะ” วางจำหน่าย
แม้อนาคต “Gon กระทะ” จะยังไม่รู้ทิศทางจะขยายต่อหรือไม่ หลังการนำร่อง 3 เดือนตั้งแต่ ธันวาคม 2565- กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อโปรเจกต์จบไป ทั้งยอดขาย ทราฟฟิก และความนิยมของสาขานี้จะถูกนำมาศึกษาและหาข้อสรุปอีกครั้ง “หากไปได้ดีก็ขยายต่อ” ไปกับร้านบาร์บีคิว พลาซ่าในอนาคต หรือ “หากไม่สามารถไปต่อได้” ก็อาจจะมีการพับโปรเจกต์และมองหาโอกาสกับเทรนด์อาหารใหม่ๆ ที่สามารถเข้ากับแบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ได้ ในการมานำมาพัฒนาเป็นไลน์อาหารใหม่ไว้ภายในร้าน
ยุบ “จุ่ม แซ่บ ฮัท” สู่การขมวดรวมกับ “ฌานา” ร้านสายสุขภาพในเครือฯ
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึง “บาร์บีคิวพลาซ่า” แล้วหลายคนคงอดสงสัยหรือนึกถึงแบรนด์น้องที่ตีคู่กันมากับ “บาร์บีคิว พลาซ่า” ตั้งแต่ยุคแรกอย่าง “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ไม่ได้ ว่าการมาของ “Gon กระทะ” จะเป็นการเสียบแทนแบรนด์จุ่มยอดฮิตในอดีตหรือไม่
ความคืบหน้าล่าสุด พบว่า ทางค่ายได้โยกแบรนด์ “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ไปอยู่ในร้าน “ฌานา” ร้านอาหารสุขภาพในเครือบริเวณชั้น 6 โซน Atrium Central World แทน โดยจะนื่องจากโพซิชั่นของแบรนด์มีความคล้ายกัน และในส่วนของทั้งวัตถุดิบ น้ำซุปฯต่างๆของแบรนด์จุ่มฯพร้อมทั้งยกเลิกการทำตลาดแบรนด์ “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ไปแล้วตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา
แม้จะย้ายไปเมนูจาก “จุ่ม แซ่บ ฮัท” ไปไว้ในบ้านใหม่อย่าง “ฌานา” แล้ว แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น ชาบูเพื่อสุขภาพ แบบบุฟเฟต์ มีน้ำซุปให้เลือกถึง 4 แบบ 4 สไตล์ ทั้งซุปผัก ซุปเต้าเจี้ยว ซุปแซ่บ และซุปไก่ และยังมีน้ำจิ้มให้เลือกถึง 5 สูตรด้วยกัน ทั้งน้ำจิ้มงา น้ำจิ้มพอนสึ น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ไว้สำหรับขาแซ่บอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม